จตช.ประสาน ตร.กัมพูชา ติดตามเรือน้ำมันเถื่อนของกลางหาย

13 มิ.ย. – จตช.ระบุประสานตำรวจกัมพูชาช่วยติดตามเรือน้ำมันเถื่อนของกลางหาย 3 ลำ ซึ่งทางการกัมพูชาพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ส่วนข้ออ้างนำเรือออกไปหลบคลื่นลมฟังไม่ขึ้น จึงต้องย้ายออกนอกพื้นที่


พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปนม.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามเรือของกลาง 3 ลำ ที่หายจากท่าเทียบเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ว่า ได้สั่งการให้จเรตำรวจลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เรือหายว่าเป็นความประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่ หรือมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรือของกลางที่มีน้ำมันเถื่อนอยู่ในเรือหรือไม่ ซึ่งต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและใช้เวลาอีกสักระยะ ส่วนตำรวจน้ำที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ระดับ พ.ต.อ. หรือผู้กำกับ ให้ออกจากพื้นที่ให้หมด จำนวน 5 นายโดยให้มาช่วยราชการที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าวว่า ส่วนคนที่เคลื่อนย้ายเรือออกไปเป็นคนของเรือ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเรือมีราคาแพงจะต้องมีคนของเจ้าของเรือมาคอยดูแลเรือ คอยติดเครื่องยนต์เรือ และดูแลทางเทคนิคของเรือ ทั้งนี้การที่ให้นำเรือออกไปจอดโดยอ้างว่าหลบคลื่นลม ในข้อเท็จจริงทางตำรวจจะต้องลงไปกำกับดูแลพร้อมกับเรือด้วยเพื่อป้องกันการหลบหนี อย่างไรก็ตาม ขอให้ทางจเรตำรวจได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนใน 7 วัน


ส่วนในกรณีที่เรือของกลางพ้นน่านน้ำไทยไปแล้ว พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าวว่า เรือที่ได้มีการจับกุมดำเนินคดีได้มีข้อตกลงระหว่างทูตตำรวจกับประเทศเพื่อนบ้าน จะทำหนังสือประสานแจ้งไปยัง พล.ต.ท.วันวีระ รองอธิบดีกรมตำรวจของกัมพูชา ซึ่งเมื่อวานนี้ได้มีการประสานพูดคุยกันในเบื้องต้นแล้ว
ยืนยันลูกเรือที่นำเรือของกลางหลบหนีไปจะมีความผิดอยู่แล้ว แต่จะเชื่อมโยงกับเจ้าของเรือหรือไม่ อย่างไร ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน

ส่วนกระแสข่าวว่าเรือของกลางดังกล่าวเป็นของโจ้ปัตตานีนั้น พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าวว่า โจ้ ปัตตานี เป็นผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศนานแล้ว โดยมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับเรื่องน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ภาคใต้ อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยกับทางรองอธิบดีกรมตำรวจกัมพูชา เมื่อวานนี้ ยืนยันจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

เมื่อถามว่าคดีนี้มีความยากง่ายอย่างไรหรือไม่ จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ทั้งนี้จะทำงานอย่างตรงไปตรงมา ผิดก็ว่าไปตามผิด จะตรวจสอบอย่างเต็มที่ และยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือตำรวจด้วยกันหากพบว่ามีการกระทำผิด.-414-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

อดีตผู้บังคับบัญชา “ผู้กำกับโจ้” เผยสมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร

อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดประวัติอดีตผู้กำกับโจ้ สมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร เชื่อได้รับผลกรรมที่ทำแล้ว

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อน-ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนและฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพจากสภาพอากาศร้อน และระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กทม.-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง 30%

Exclusive! เปิดห้องขังแดน 5 “อดีต ผกก.โจ้”

กรมราชทัณฑ์ เปิดห้องขัง แดน 5 ของ “อดีต ผกก.โจ้” ให้สังคมได้เห็นสภาพความเป็นจริงอีกด้าน พบด้านในยังรักษาพื้นที่ และข้าวของเครื่องใช้ของอดีต ผกก.โจ้ เอาไว้ เผื่อเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเก็บหลักฐานเพิ่มเติม

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ปี ฮ.ศ. 1446 ขณะที่นายกรัฐมนตรี ร่วมส่งใจให้พี่น้องชาวมุสลิมตั้งจิตมุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจถือศีลอด ในช่วงเวลาแห่งเดือนอันศักดิ์สิทธิ์