รวบ 3 ต่างด้าว รุมกระทืบหนุ่มจีน คาร้านหมาล่า

กทม. 13 มิ.ย. – รวบแล้ว 3 หนุ่มแรงงานต่างด้าว รุมทำร้ายลูกค้านักท่องเที่ยวชาวจีน อ่วมคาร้านหมาล่าย่านห้วยขวาง ปมคุยเสียงดังก่อนโวยวายด่าทอ


จากกรณีเพจ บิ๊กเกรียน 365 โพสต์ข้อความ “ร้านหมาล่าห้วยขวาง ใช้นักเลงต่างด้าว #รุมกระทืบลูกค้านักท่องเที่ยวชาวจีนอ่วมคาร้าน” พร้อมทั้งคลิปเหตุการณ์ ลักษณะมีคน ทะเลาะวิวาท ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านห้วยขวาง ระบุพิกัดร้านไว้ เหตุเกิดร้านหมาล่า ย่านศูนย์วัฒนธรรม พระราม 9 เวลา 03.00 น. วันที่ 11 มิถุนายน 2568 ใช้แรงงาน ต่าวด้าวเมียนมา และบุคคลพื้นที่สูง มาทำงาน รุมทำร้ายลูกค้าชาวจีนได้รับบาดเจ็บ พื้นที่ สน.ห้วยขวาง #แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย #ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยป่นปี้

จากเรื่องราวดังกล่าว ตำรวจ สน.ห้วยขวาง เร่งทำการตรวจสอบ จนทราบว่า 1 ในผู้ก่อเหตุ ชื่อ “จี้เหว่ย” เป็นแฟนกับพนักงานสาวในร้าน ชื่อ “ฟ้าใส” สัญชาติเมียนมา ซึ่งได้รับอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดย “ฟ้าใส” ได้เล่าว่านายจี้เหว่ย เข้ามาทานอาหารและนั่งดื่มในร้านเพื่อรอตนเลิกงาน แต่เกิดการทะเลาะวิวาทกับลูกค้าโต๊ะข้างๆ ซึ่งต่อมานายจี้เหว่ย ได้ขี่จักรยานยนต์ไปส่งตัวเองที่ที่พัก ซึ่งเหตุการณ์ต่อจากนั้น ตนเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ มาทราบอีกครั้งภายหลัง จากที่เป็นข่าว


จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ สืบสวน กระทั่งพบตัวนายจี้เหว่ย ในหอพักแห่งหนึ่ง ภายในซอยประชาราษฎรบำเพ็ญ ซอย 9 และเพื่อนอีก 2 คน ที่ร่วมก่อเหตุในวันดังกล่าว จึงได้เชิญตัวมาที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันดังกล่าว ซึ่งนายจี้เหว่ย เองก็ได้รับสารภาพ ว่าตนเป็นผู้กระทำ ตามคลิปที่ปรากฏจริง และเล่าที่มาของการก่อเหตุว่า ตนได้ไปรับประทานอาหารและนั่งดื่มอยู่คนเดียวภายในร้านเพื่อรอแฟนสาวเลิกงาน จากนั้นมีผู้เสียหายทั้ง 2 คน (ซึ่งเป็นคนจีน) นั่งกินและดื่มอยู่โต๊ะข้างๆ ได้พูดคุยส่งเสียงดัง ตนจึงบอกว่าให้เบาเสียงหน่อย จากนั้นผู้เสียหายทั้ง 2 ก็โวยวายด่าทอตนและเกิดมีปากเสียงกันรุนแรง ตนจึงดินออกมาจากร้านและพาแฟนสาวขี่รถจักรยานยนต์ออกไปส่งยังที่พักและได้โทรศัพท์ไปบอกเพื่อนว่าตนมีเรื่อง จากนั้นตนจึงได้ขี่รถ จยย. ไปรับเพื่อนอีก 2 คน และกลับไปที่ร้านดังกล่าว ต่อมาเหตุการณ์ ก็เป็นไปตามที่มีคลิปดังกล่าว

ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่าผู้ก่อเหตุทั้งสามคน ประกอบด้วย นายจี้เหว่ย, นายธันวา และนาย อาซิง เป็นแรงงานถูกต้องตามกฎหมาย ตำรวจแจ้งข้อหา ผู้ก่อเหตุทั้งสามคนในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว, ออกนอกพื้นที่ควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นผู้เสียหาย ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นชาวจีน ได้เดินทางเข้ามาชี้ตัวเพื่อยืนยันตัวตนผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คน และกล่าวขอบคุณ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่นิ่งนอนใจสามารถติดตามผู้ก่อเหตุได้ในเวลาอันรวดเร็ว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ววันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือนายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข