fbpx

ครอบครัว”เสี่ยต้น” เปิดใจ เชื่อปมก่อเหตุ มีบุคคลที่สามบงการ

กทม. 3 มิ.ย.-ครอบครัว “เสี่ยต้น” เปิดใจ คนรักเป็นคนจ้างวานฆ่า เชื่อปมก่อเหตุ มีบุคคลที่สามบงการ หวังเงินประกัน 16 ล้าน

นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายคลายทุกข์ เผยว่า พยานหลักฐานที่มีตรงกับที่พนักงานสอบสวนมี จึงนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้ เนื่องจากคดีนี้ทำเป็นขบวนการ เริ่มจากภรรยา คือพบเส้นทางการเงิน มีการโอนไปยังผู้ต้องหาทั้ง 3 และการซัดทอดไปยังภรรยา ซึ่งเป็นหลักฐานที่สำคัญ รวมไปถึงภาพกล้องวงจรปิด การชี้เป้า และข้อมูลการใช้โทรศัพท์ที่สอดคล้องกับพยาน ก่อนจะไปสู่การออกหมายจับในคดีจ้างวานฆ่า (289 (4) และพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีโทษ 2 ใน 3 จำคุกตลอดชีวิต


ส่วนคดีที่จังหวัดมหาสารคาม ตอนนี้ทีมสืบสวนของตำรวจภาค 4 มีหลักฐานที่มีความเชื่อมโยงกัน เชื่อว่า คนชี้เป้าเป็นคนเดียวกันอย่างแน่นอน แต่ยังต้องตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนผลชันสูตรยังไม่ออก ทำให้ยังไม่มีความชัดเจนว่าในร่างกายเสี่ยต้นมีสารอะไรบ้าง ตรงนี้ยังเป็นความลับอยู่ ยังต้องรอผลอยู่

ส่วนสาเหตุคิดว่า เป็นเรื่องชู้สาวและเจ็บช้ำน้ำใจจากคำพูดของเสี่ยต้น และปากเสียงกันภายในครอบครัว อย่างไรก็ตามเรื่องเงินประกัน หากตอนแรกยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ เงินประกันผู้ได้รับผลประโยชน์จะต้องเป็นลูก โดยมีภรรยาเป็นผู้จัดการมรดก แต่หลังจากนี้ทางประกันจะต้องพิจารณาว่าจะยกเลิกประกันหรือไม่ เนื่องจากเป็นคดีจ้างวานฆ่า รวมไปถึงชั้นศาลตามมาตราพาณิชน์ 17 และ 13 ถอดภรรยาออกจากการเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งพรุ่งนี้ เวลา 10.30 น. ทางญาติจะไปยืนการคัดคาดการประกันตัวที่ สน.วังทองหลาง และ ศาลอาญา รัชดา


พระพ่อวสันต์ กลีบจินดา (พ่อเสี่ยต้น) เผยว่า เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น ขอให้กรรมเป็นผู้ตัดสิน หนีกรรมกันไม่พ้น ส่วนความรู้สึกนั้น ตอนที่รู้ว่าเสี่ยต้นเสียชีวิต รู้สึกใจหาย เพราะตนเป็นผู้ไปส่งที่สนามบิน ก็ไม่รู้จะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ก่อนหน้านั้นได้บอกว่าให้นำตำรวจไปจังหวัดมหาสารคามด้วย แต่เสี่ยต้นไม่ฟัง จนตอนเช้าอีกวันโยมแม่โทรมาบอกถึงทราบเรื่อง อาตมาได้ลูกคนนี้ดูแลมาตลอด เขาเป็นคนดี ทำอะไรก็ไม่เคยขัด และเป็นคนไม่อยากไปมีปัญหากับใคร ขนาดถูกฟันที่พัทยายังไม่เอาเรื่อง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้ คงเป็นเวรกรรมของเขา ก็ขอให้จบลงที่ตรงนี้

ส่วนสาเหตุการก่อเหตุนั้น ตนไม่ทราบ เวลาที่ไปเยี่ยมที่บ้าน ไม่เคยเจอภรรยาของเสี่ยต้นเลย แต่ที่รู้เสี่ยต้นป็นคนรักเมีย จึงไม่เคยเล่าเรื่องอะไรที่บ้านให้ตนฟัง ตอนนี้คิดได้อย่างเดียวก็คือ คนที่เขารักเป็นคนทำ ซึ่งตนก็คิดว่า เป็นคนใกล้ชิดแน่ๆ ที่เป็นตัวการ เพราะไม่มีสาเหตุอื่นที่เขามาเกี่ยวพันในคดีจ้างวานฆ่า

ส่วนกรณีเรื่องการเผาร่างเสี่ยต้นนั้น ตอนไปจุดธูปไหวศพ ลูกสะใภ้ได้มานั่งพูดข้างๆ และได้เสนอว่า ถ้าไม่เอาศพไปผ่า จะไม่ได้เงินค่าประกัน และถ้าได้มาจะแบ่งให้ 2 ล้าน ตนก็บอกว่าไม่เอาหรอกเพราะบวชอยู่ ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ยกให้แม่ไปละกัน หรือไม่ก็สร้างกุฎิ 1 หลังถวายวัด


ด้านนางสาวปภาพินท์​ กลีบจินดา​ กล่าวว่า กลังเกิดเหตุจนนำไม่สู่การจับกุมคนร้ายได้ ถ้ามีโอกาสได้เจอหน้าลูกสะใภ้อยากถามว่า​ “มาทำลูกของแม่ทำไม​ เงินทองสมบัติทั้งหมดก็ได้ไปแล้วทำไมยังต้องมาเอาชีวิตเขาไปอีก มันทำให้พ่อและแม่อยู่กันอย่างยากลำบาก” ซึ่งหลักฐานทั้งหมดที่ตำรวจมีก็ตรงกับใจ​แม่​ ที่ผ่านมาเสี่ยต้นไม่เคยเล่าปัญหาในครอบครัวให้ฟัง เพราะรู้ว่าแม่เป็นคนขี้น้อยใจ​ ส่วนเรื่องที่แยกกันอยู่กับภรรยาก็เพิ่งมารู้ทีหลัง

ทั้งนี้ เชื่อว่าคดีจ้างวานฆ่าที่ สน.วังทองหลาง กับคดีที่ จ.มหาสารคาม​ น่าจะเชื่อมโยงกัน​ เพราะจะเอาชีวิตเสี่ยต้นที่ กทม.ไม่สำเร็จ จึงไปก่อเหตุอีกครั้งที่ จ.มหาสารคาม​ แต่ตนไม่ทราบข้อมูลเชิงลึกว่ามีปัญหาเรื่องมือที่สาม หรือเรื่องของทรัพย์สิน​หรือไม่ แต่ก่อนหน้านี้ครอบครัวของลูกสะใภ้ก็ไม่ได้มีฐานะมาตั้งแต่ต้น​ มาเริ่มมีฐานะหลังแต่งงาน ​โดยพระพ่อช่วยเหลือในเรื่องเงิน ส่วนนิสัยใจคอของลูกสะใภ้ปกติจะเรียบร้อย​ เป็นคนไม่ค่อยพูด​ ไปไหนมาไหนก็ไปด้วยกันสองคนกับเสี่ยต้นตลอด​ อย่างไรก็ตามตนไม่ขอฝากถึงอะไรถึงลูกชาย เพราะเชื่อว่าเสี่นต้นรับรู้ทุกอย่างอยู่แล้ว

ด้าน นางสาวณัฐปภัษร์ ธนภัคนันท์หิรัญ หรือ เจ น้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สิ่งที่เป็นจุดเปลี่ยนว่าการเสียชีวิตของพี่ชายผิดปกติคือ ทราบว่าพี่สะใภ้ทักและโทรมาหาพี่ชายก่อนที่จะโดนรอบยิง เพราะในตอนนั้นทั้งคู่แยกกันอยู่ จากนั้นวันที่ 15 ตนได้ไปส่งพี่ชาย และวันที่ 16 พี่ชายได้เสียชีวิต ซึ่งตนทราบข่าว จึงรู้สึกโกรธแค้นมาก

สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างพี่ชายและพี่สะใภ้ตนทราบมาว่า ทั้งสองคนต่างมีกิ๊ก ซึ่งเราได้ส่งข้อมูลให้ตำรวจทั้งหมดแล้ว และตำรวจก็ได้ไปสืบต่อจนทราบว่า ข้อมูลที่ให้ไปเป็นความจริง โดยกิ๊กฝั่งพี่ชายไม่ได้อยู่กินด้วยกัน และไม่เคยพาเข้าบ้านมาเจอญาติพี่น้อง โดยทราบว่ากิ๊กของพี่ชายเป็นลักษณะเด็กคาราโอเกะ

ขณะที่กิ๊กของฝ่ายพี่สะใภ้ ตนได้รับข้อมูลมาอีกต่อหนึ่ง ซึ่งตนได้ส่งข้อมูลให้กับทางตำรวจไปแล้วไม่สามารถเปิดเผยได้ และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ตนไม่สามารถไปร่วมงานศพที่จังหวัดมหาสารคามได้ เพราะต้องอยู่หาข้อมูลในโซเชียลส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ.-414.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ลาบูบู้ เที่ยววัดพระแก้ว – ททท.จ่อดึงน้องเนย ร่วมโปรโมตท่องเที่ยว

ลาบูบู้ เริ่มภารกิจโปรโมตท่องเที่ยวไทย แต่งชุดไทยไปวัดพระแก้ว ขณะที่ ททท.เตรียมดึง Butter Bear หรือ “น้องเนย” ร่วมโปรโมตท่องเที่ยว ดึงแฟนคลับจีนมาเที่ยวไทย

ตามหา “โยเซฟ” คนดวงเฮงถูกรางวัลปีเดียว 2 หน รวย 114 ล้าน

หลังมีข่าว นายโยเซฟ หัวหน้าองค์กรช่วยเหลือผู้ลี้ภัย และพลัดถิ่นชาวเมียนมา ดวงเฮง 4 เดือน ถูกรางวัลที่ 1 ถึง 2 ครั้ง รวมเงินรางวัล 114 ล้านบาท ทำให้นักข่าวหลายสำนักต่างตามหาตัว เพื่อพูดคุยยืนยันความโชคดี

ข่าวแนะนำ

EV จีนหั่นราคาแรงกระทบตลาดรถยนต์ไทย

การบริหารสตอกของค่ายรถไฟฟ้าประเทศจีน โดยการลดราคาลงอย่างต่อเนื่องและรุนแรง ทำให้เกิดการแข่งขันที่ดุเดือดของค่ายรถยนต์ ขณะที่ฟากผู้ซื้อก็มีดราม่าไม่พัก ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ไทยทั้งระบบ

นายกฯ สั่งเร่งสร้างฟลัดเวย์แก้น้ำท่วม-ดินถล่ม

ภารกิจช่วงบ่ายของนายกรัฐมนตรี อยู่ที่ จ.ภูเก็ต ไปดูการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุน้ำป่าไหลหลากเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมสั่งวางแผนรับมือ หลังมีข้อมูลว่าดินถล่มในพื้นที่ภูเก็ต มีลักษณะคล้ายกับภัยทางธรรมชาติครั้งใหญ่ที่นครศรีธรรมราช

ลุ้น กกต.กลางประกาศรับรอง “ชาญ” นั่งนายก อบจ.ปทุมฯ

กกต.ปทุมฯ ส่งผลเลือกตั้ง “นายก อบจ.ปทุมธานี” แล้ว รอ กกต.กลาง พิจารณาประกาศรับรอง “ชาญ พวงเพ็ชร์” จับตาสนามต่อไป “อยุธยา-ชัยนาท-พะเยา” หย่อนบัตร 4 ส.ค.นี้

แจ้ง 4 ข้อหาหนุ่มใหญ่ซิ่งเก๋งชนรถพังยับ 6 คัน-เจ็บ 7

ตำรวจเร่งสอบปากคำและตรวจประวัติหนุ่มใหญ่ซิ่งเก๋งชนยับ 6 คัน บาดเจ็บ 7 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 1 คน พร้อมแจ้ง 4 ข้อหา ก่อนให้ประกันตัวโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์