ครอบครัว”เสี่ยต้น” เปิดใจ เชื่อปมก่อเหตุ มีบุคคลที่สามบงการ

กทม. 3 มิ.ย.-ครอบครัว “เสี่ยต้น” เปิดใจ คนรักเป็นคนจ้างวานฆ่า เชื่อปมก่อเหตุ มีบุคคลที่สามบงการ หวังเงินประกัน 16 ล้าน

นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายคลายทุกข์ เผยว่า พยานหลักฐานที่มีตรงกับที่พนักงานสอบสวนมี จึงนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้ เนื่องจากคดีนี้ทำเป็นขบวนการ เริ่มจากภรรยา คือพบเส้นทางการเงิน มีการโอนไปยังผู้ต้องหาทั้ง 3 และการซัดทอดไปยังภรรยา ซึ่งเป็นหลักฐานที่สำคัญ รวมไปถึงภาพกล้องวงจรปิด การชี้เป้า และข้อมูลการใช้โทรศัพท์ที่สอดคล้องกับพยาน ก่อนจะไปสู่การออกหมายจับในคดีจ้างวานฆ่า (289 (4) และพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีโทษ 2 ใน 3 จำคุกตลอดชีวิต


ส่วนคดีที่จังหวัดมหาสารคาม ตอนนี้ทีมสืบสวนของตำรวจภาค 4 มีหลักฐานที่มีความเชื่อมโยงกัน เชื่อว่า คนชี้เป้าเป็นคนเดียวกันอย่างแน่นอน แต่ยังต้องตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนผลชันสูตรยังไม่ออก ทำให้ยังไม่มีความชัดเจนว่าในร่างกายเสี่ยต้นมีสารอะไรบ้าง ตรงนี้ยังเป็นความลับอยู่ ยังต้องรอผลอยู่

ส่วนสาเหตุคิดว่า เป็นเรื่องชู้สาวและเจ็บช้ำน้ำใจจากคำพูดของเสี่ยต้น และปากเสียงกันภายในครอบครัว อย่างไรก็ตามเรื่องเงินประกัน หากตอนแรกยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ เงินประกันผู้ได้รับผลประโยชน์จะต้องเป็นลูก โดยมีภรรยาเป็นผู้จัดการมรดก แต่หลังจากนี้ทางประกันจะต้องพิจารณาว่าจะยกเลิกประกันหรือไม่ เนื่องจากเป็นคดีจ้างวานฆ่า รวมไปถึงชั้นศาลตามมาตราพาณิชน์ 17 และ 13 ถอดภรรยาออกจากการเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งพรุ่งนี้ เวลา 10.30 น. ทางญาติจะไปยืนการคัดคาดการประกันตัวที่ สน.วังทองหลาง และ ศาลอาญา รัชดา


พระพ่อวสันต์ กลีบจินดา (พ่อเสี่ยต้น) เผยว่า เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น ขอให้กรรมเป็นผู้ตัดสิน หนีกรรมกันไม่พ้น ส่วนความรู้สึกนั้น ตอนที่รู้ว่าเสี่ยต้นเสียชีวิต รู้สึกใจหาย เพราะตนเป็นผู้ไปส่งที่สนามบิน ก็ไม่รู้จะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ก่อนหน้านั้นได้บอกว่าให้นำตำรวจไปจังหวัดมหาสารคามด้วย แต่เสี่ยต้นไม่ฟัง จนตอนเช้าอีกวันโยมแม่โทรมาบอกถึงทราบเรื่อง อาตมาได้ลูกคนนี้ดูแลมาตลอด เขาเป็นคนดี ทำอะไรก็ไม่เคยขัด และเป็นคนไม่อยากไปมีปัญหากับใคร ขนาดถูกฟันที่พัทยายังไม่เอาเรื่อง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้ คงเป็นเวรกรรมของเขา ก็ขอให้จบลงที่ตรงนี้

ส่วนสาเหตุการก่อเหตุนั้น ตนไม่ทราบ เวลาที่ไปเยี่ยมที่บ้าน ไม่เคยเจอภรรยาของเสี่ยต้นเลย แต่ที่รู้เสี่ยต้นป็นคนรักเมีย จึงไม่เคยเล่าเรื่องอะไรที่บ้านให้ตนฟัง ตอนนี้คิดได้อย่างเดียวก็คือ คนที่เขารักเป็นคนทำ ซึ่งตนก็คิดว่า เป็นคนใกล้ชิดแน่ๆ ที่เป็นตัวการ เพราะไม่มีสาเหตุอื่นที่เขามาเกี่ยวพันในคดีจ้างวานฆ่า

ส่วนกรณีเรื่องการเผาร่างเสี่ยต้นนั้น ตอนไปจุดธูปไหวศพ ลูกสะใภ้ได้มานั่งพูดข้างๆ และได้เสนอว่า ถ้าไม่เอาศพไปผ่า จะไม่ได้เงินค่าประกัน และถ้าได้มาจะแบ่งให้ 2 ล้าน ตนก็บอกว่าไม่เอาหรอกเพราะบวชอยู่ ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ยกให้แม่ไปละกัน หรือไม่ก็สร้างกุฎิ 1 หลังถวายวัด


ด้านนางสาวปภาพินท์​ กลีบจินดา​ กล่าวว่า กลังเกิดเหตุจนนำไม่สู่การจับกุมคนร้ายได้ ถ้ามีโอกาสได้เจอหน้าลูกสะใภ้อยากถามว่า​ “มาทำลูกของแม่ทำไม​ เงินทองสมบัติทั้งหมดก็ได้ไปแล้วทำไมยังต้องมาเอาชีวิตเขาไปอีก มันทำให้พ่อและแม่อยู่กันอย่างยากลำบาก” ซึ่งหลักฐานทั้งหมดที่ตำรวจมีก็ตรงกับใจ​แม่​ ที่ผ่านมาเสี่ยต้นไม่เคยเล่าปัญหาในครอบครัวให้ฟัง เพราะรู้ว่าแม่เป็นคนขี้น้อยใจ​ ส่วนเรื่องที่แยกกันอยู่กับภรรยาก็เพิ่งมารู้ทีหลัง

ทั้งนี้ เชื่อว่าคดีจ้างวานฆ่าที่ สน.วังทองหลาง กับคดีที่ จ.มหาสารคาม​ น่าจะเชื่อมโยงกัน​ เพราะจะเอาชีวิตเสี่ยต้นที่ กทม.ไม่สำเร็จ จึงไปก่อเหตุอีกครั้งที่ จ.มหาสารคาม​ แต่ตนไม่ทราบข้อมูลเชิงลึกว่ามีปัญหาเรื่องมือที่สาม หรือเรื่องของทรัพย์สิน​หรือไม่ แต่ก่อนหน้านี้ครอบครัวของลูกสะใภ้ก็ไม่ได้มีฐานะมาตั้งแต่ต้น​ มาเริ่มมีฐานะหลังแต่งงาน ​โดยพระพ่อช่วยเหลือในเรื่องเงิน ส่วนนิสัยใจคอของลูกสะใภ้ปกติจะเรียบร้อย​ เป็นคนไม่ค่อยพูด​ ไปไหนมาไหนก็ไปด้วยกันสองคนกับเสี่ยต้นตลอด​ อย่างไรก็ตามตนไม่ขอฝากถึงอะไรถึงลูกชาย เพราะเชื่อว่าเสี่นต้นรับรู้ทุกอย่างอยู่แล้ว

ด้าน นางสาวณัฐปภัษร์ ธนภัคนันท์หิรัญ หรือ เจ น้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สิ่งที่เป็นจุดเปลี่ยนว่าการเสียชีวิตของพี่ชายผิดปกติคือ ทราบว่าพี่สะใภ้ทักและโทรมาหาพี่ชายก่อนที่จะโดนรอบยิง เพราะในตอนนั้นทั้งคู่แยกกันอยู่ จากนั้นวันที่ 15 ตนได้ไปส่งพี่ชาย และวันที่ 16 พี่ชายได้เสียชีวิต ซึ่งตนทราบข่าว จึงรู้สึกโกรธแค้นมาก

สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างพี่ชายและพี่สะใภ้ตนทราบมาว่า ทั้งสองคนต่างมีกิ๊ก ซึ่งเราได้ส่งข้อมูลให้ตำรวจทั้งหมดแล้ว และตำรวจก็ได้ไปสืบต่อจนทราบว่า ข้อมูลที่ให้ไปเป็นความจริง โดยกิ๊กฝั่งพี่ชายไม่ได้อยู่กินด้วยกัน และไม่เคยพาเข้าบ้านมาเจอญาติพี่น้อง โดยทราบว่ากิ๊กของพี่ชายเป็นลักษณะเด็กคาราโอเกะ

ขณะที่กิ๊กของฝ่ายพี่สะใภ้ ตนได้รับข้อมูลมาอีกต่อหนึ่ง ซึ่งตนได้ส่งข้อมูลให้กับทางตำรวจไปแล้วไม่สามารถเปิดเผยได้ และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ตนไม่สามารถไปร่วมงานศพที่จังหวัดมหาสารคามได้ เพราะต้องอยู่หาข้อมูลในโซเชียลส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ.-414.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]