ภรรยา “เสี่ยต้น” ปัดตอบคำถามสื่อ ปมจ้างวานฆ่าสามี

กทม. 3 มิ.ย. – ภรรยา “เสี่ยต้น” เดินก้มหน้าเข้ากองสืบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านคนขับรถให้มือปืนรับรู้สึกผิดกับคนตาย อ้างพยายามขับรถเบี่ยงเพื่อให้กระสุนพลาดเป้า


11.50 น. นางสาวเพลง ภรรยานายสาโรจน์ ผู้จัดหาอาวุธปืนคดีลอบฆ่า “เสี่ยต้น” กล่าวว่า เธอคบหากับนายสาโรจน์ มา 6 ปีแล้ว ไม่เคยคิดมาก่อนว่าแฟนหนุ่มจะยุ่งเกี่ยวกับคดีจ้างวานฆ่าแบบนี้ ส่วนตัวเท่าที่รู้ นายสาโรจน์ กับเจ๊มด ภรรยาของเสี่ยต้น ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ไม่เคยทำงานด้วยกัน และไม่เคยเห็นหน้าด้วย อีกทั้งนายสาโรจน์ ไม่เคยพูดถึงชื่อเจ๊มดมาก่อน เพียงแต่ช่วงเวลาหลังจากเกิดเหตุ สังเกตเห็นว่า เวลามีข่าวการเสียชีวิตของเสี่ยต้น ที่เสนอในทีวี เขามักจะพูดกับเพื่อน และสามารถระบุตัวตนได้ว่าแต่ละคนคือใคร ทำหน้าที่อะไร พร้อมกับให้ความสนใจข่าวนี้เป็นพิเศษ ซึ่งตนเองก็สงสัย แต่ไม่กล้าถาม เพราะทุกครั้งที่ถาม นายสาโรจน์ มักจะตอบปัดๆ เหมือนไม่อยากให้ถามต่อ ตนจึงไม่ถาม เพราะกลัวว่าจะหงุดหงิดและถูกต่อว่า เพราะปกติแล้ว นิสัยส่วนตัวของนายสาโรจน์ เป็นคนใจร้อน โดยเธอเริ่มเห็นว่า นายสาโรจน์ เอาปืนมาที่บ้านเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าตัวอ้างว่า เป็นปืนของเพื่อน ซึ่งหลังจากที่ไปก่อเหตุมา นายสาโรจน์ก็ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้ดูเป็นคนมีเงิน หรือใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ก่อนที่เมื่อเช้านี้ ตำรวจจะนำกำลังเข้าจับกุม

ส่วนตัวของนายวีรภัทร ซึ่งทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ เคยเห็นมาที่บ้าน ช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายน โดยขี่รถมอเตอร์ไซค์สีขาวคันก่อเหตุมารับนายสาโรจน์ที่บ้าน แล้วพากันออกไปข้างนอก ซึ่งเธอไม่ได้รู้จักกับนายวีรภัทรมาก่อน รู้เพียงว่าเป็นเพื่อนกับนายสาโรจน์ เมื่อรู้ข่าวก็ตกใจมาก ไม่เคยคิดว่าแฟนจะมีส่วนร่วมกับคดี แต่ก็ทราบว่า นายสาโรจน์ รับสารภาพทั้งหมด


ต่อมาชุดสืบสวนคุมตัวนายวีรภัทร ผู้รับหน้าที่ขี่จักรยานยนต์ให้กับมือยิง เข้ามาที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยระหว่างที่คุมตัวมา นายวีรภัทร สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ยืนยันว่าไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับเจ๊มด ภรรยาของเสี่ยต้น ไม่รู้ว่ามีการจ้างวานจากใคร แต่ยอมรับว่าเป็นคนขี่จักรยานยนต์ให้กับมือยิงจริง ซึ่งตนเองไม่ได้ตั้งใจทำ เนื่องจากไม่ทราบว่าถูกว่าจ้างให้ขี่รถจักรยานยนต์เพื่อประกบยิงเสี่ยต้น เพราะในวันนั้นมีการว่าจ้างให้ตนเองขี่รถจักรยานยนต์ไปตามหาแฟนสาวของมือยิง โดยตนเองได้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 4,000 บาท

นอกจากนี้ ในวันที่ก่อเหตุ จังหวะที่มือปืนลงมือยิง ตนเองก็พยายามขี่รถจักรยานยนต์เบี่ยงออก เพื่อให้วิถีกระสุนไปทิศทางอื่น หลังจากเป็นข่าว ตนเองก็มีความคิดที่อยากจะเข้ามอบตัวกับตำรวจ แต่ยังอยู่ระหว่างปรึกษากับพี่ๆ ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวได้ในเช้าวันนี้ โดยนายวีรภัทร ยอมรับว่า ตนเองรู้สึกผิด และอยากขอโทษทางครอบครัวของเสี่ยต้น

ต่อมาตำรวจได้คุมตัว “เจ๊มด” ภรรยาของเสี่ยต้น มายังที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียด โดยเจ๊มด สวมหมวกแก๊ปสีดำ และใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า ระหว่างที่มีการคุมตัวขึ้นไปยังห้องสอบสวน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเจ๊มด ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจ้างวานฆ่าสามีหรือไม่ รวมถึงสาเหตุที่ต้องจ้างวานฆ่าสามี มาจากสาเหตุใด และในวันที่เธอปรากฏตัวต่อหน้าสื่อ ทำไมถึงต้องพูดโกหกด้วย แต่เจ๊มดเดินก้มหน้าและไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อเลย.-414-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

UN เผยกัมพูชาคือศูนย์กลางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ระดับโลก

26 มิ.ย. – สำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ เผยผลการวิจัยเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมแผนที่แหล่งก่อเหตุทั่วโลก พบว่ากัมพูชาคือแหล่งใหญ่ของการหลอกลวงออนไลน์ สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime หรือ UNODC) ได้เผยแพร่ผลการวิจัยเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมไซเบอร์และการหลอกลวงออนไลน์ พร้อมนำเสนอแผนที่ศูนย์กลางการหลอกลวงทั่วโลก แสดงให้เห็นภาพรวมของขนาดและตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของกิจกรรมละเมิดกฎหมายเหล่านี้ แผนที่ในรายงานชี้ให้เห็นสถานที่ที่โดดเด่นที่สุดในการก่ออาชญากรรม ได้แก่ เมืองสีหนุวิลล์ ซึ่ง UNODC ระบุว่า เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการหลอกลวงออนไลน์ ที่ใหญ่ที่สุดในกัมพูชา รายงานดังกล่าวยังเน้นถึงการลงทุนจากต่างประเทศจำนวนมากในพื้นที่ ซึ่งได้พัฒนาไปเป็นฐานปฏิบัติการ สำหรับขบวนการหลอกลวงทางไซเบอร์ที่มุ่งเป้าไปยังเหยื่อทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย นอกจากนี้ ปอยเปต ซึ่งเป็นเมืองติดชายแดน ตรงข้ามกับอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ของไทย ก็ได้กลายเป็นฐานยุทธศาสตร์สำหรับเครือข่ายอาชญากรรมที่ต้องการแฝงตัวเข้าสู่ตลาดในไทย ส่วนทางใต้และในประเทศกัมพูชา ก็มีเมืองหลวงและเมืองใหญ่ๆ ได้แก่ กรุงพนมเปญ บาเวต และจังหวัดพระสีหนุ ก็กลายเป็นแหล่งรวมแก๊งอาชญากร ในลักษณะเดียวกัน แสดงให้เห็นว่ากระบวนการฉ้อโกงทางไซเบอร์นี้ ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในพื้นที่ชายแดนประเทศอีกต่อไป แต่ได้ขยายพื้นที่เข้าไปในเมืองใหญ่ รวมถึงเมืองหลวงของประเทศ เป็นการตอกย้ำถึงความใหญ่โตของขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติและการหยั่งรากลึกของอาชญากรรมไซเบอร์ในกัมพูชา ผลการวิจัยของ UNODC […]

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]