“ฮาย อาภาพร” พาผู้เสียหายถูกหลอกลวงออนไลน์ร้องตำรวจไซเบอร์

บก.สอท. 31 พ.ค. – “ฮาย-อาภาพร นครสวรรค์” นักร้องชื่อดัง พร้อมผู้เสียหายกว่า 10 คน เข้าพบ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (ผบก.สอท.1) หลังได้รวบรวมผู้เสียหายซึ่งถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพในรูปแบบต่าง ๆ รวมมูลค่าความเสียหาย 60-70 ล้านบาท


พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า จากการตรวจพบว่ามีการหลอกให้ทำภารกิจ และหลอกลงทุน จากการตรวจสอบผู้เสียหายประมาณ 11 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 60-70 ล้านบาท ซึ่งแยกเป็นแต่ละประเภทคดีและแต่ละท้องที่ ทางตำรวจไซเบอร์จะรวบรวมข้อมูลตรวจสอบทั้งหมดและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อ ทั้งนี้ เข้าข่ายความผิดในข้อหา ฉ้อโกง และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1) ทั้งนี้ เตือนประชาชนหากโดนมิจฉาชีพหลอกและรู้ตัวได้รวดเร็วให้รีบโทรที่ 1441 หรือแจ้งที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th ซึ่งการหลอกลงทุนมีมูลค่าความเสียหายกว่า 2 หมื่นล้านบาท ส่วนการหลอกทำภารกิจหรือหลอกทำงานมีมูลค่าความเสียหาย 8,500 ล้านบาท ส่วนสถิติใน 2 ปี 3 เดือน มีผู้เสียหาย 529,508 เคสไอดี มูลค่าความเสียหาย 70,000 ล้านบาท สามารถระงับเงินได้ทัน 6,000 กว่าล้านบาท

ด้าน ฮาย อาภาพร กล่าวว่า คนที่ถูกมิจฉาชีพหลอกลวงแบบน้องสาวของตนในหลากหลายรูปแบบได้มาขอให้ช่วยประสานกับตำรวจไซเบอร์ ซึ่งมูลค่าความเสียหายของแต่ละคนมีจำนวนมาก บางคนสูญเงินนับสิบล้านบาท ทั้งนี้ ตนเองไม่ได้โดนหลอก แต่น้องสาวโดนหลอกผ่านแอพสีส้ม หลังได้สั่งของมาจากแอปพลิเคชั่นดังกล่าวตั้งแต่ต้น โดยสั่งผ้าเย็นมาจำนวนมาก แต่มิจฉาชีพกลับเอามาบังหน้าในการขายของ อ้างว่าได้ของสมนาคุณให้ติดต่อกันผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก ชักชวนให้กดไลค์เพื่อจะรับเงินคืน โดยการกดไลค์แรกจะได้โบนัส 20 บาท จากนั้นได้อัพเลเวลไปจนถึง 50,000 บาท ได้คืน 70,000 บาท ก่อนจะถูกหลอกให้โอนไป 5 ครั้ง สูญเงินไปกว่า 1.45 ล้านบาท วันนี้มาเป็นกระบอกเสียงให้กับทุกคน ที่โดนมิจฉาชีพหลอก ทั้งการหลอกร่วมลงทุน การเล่นหุ้น การสั่งสินค้า ฯลฯ อยากให้เป็นเคสตัวอย่างไม่อยากให้ถูกมิจฉาชีพหลอกลวงในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งนี้ตนได้ทำการลองเล่นกิจกรรมดังกล่าว เพราะจะนำข้อมูลมาให้กับตำรวจ โดยตนคาดว่าจะไม่เสียเงินเพราะน้องสาวตนใช้เวลา 3 วันกว่าที่มิจฉาชีพจะทำการหลอก ซึ่งตนโอนไปในครั้งแรกได้รับเงินตอบแทนจริง โดยโอนเงินไป 5,000 บาท ได้คืนมา 7,000 บาท แต่เมื่อโอนอีกครั้งในวันเดียวกันอีก 10,000 บาท กลับไม่ได้รับเงินตอบแทน ตนจึงเสียเงินจำนวนนี้ไป


ฮาย อาภาพร กล่าวว่า อยากฝากถึงทุกคนที่ใช้โซเชียลว่า โซเชียลนั้นเป็นความสะดวกสบายแต่ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย อยากให้ทุกคนที่กำลังตกอยู่ในขบวนการลักษณะนี้รีบถอนตัวออกมาให้ไว และรีบแจ้งความ เราไม่รู้ว่ามิจฉาชีพจะมาในรูปแบบใด ฉะนั้นควรใช้ชีวิตแบบมีสติ แต่ก็ยังมีคนที่ไม่รู้อีกมากที่อาจถูกหลอกได้ จึงฝากเตือนให้ระมัดระวังอย่ากดเข้าไปในลิ้งก์ที่มิจฉาชีพส่งมาให้ในรูปแบบต่างๆ ถ้ากดเข้าไปอาจจะถูกมิจฉาชีพดูดเงินจนหมดบัญชีได้ และทันทีทีรู้ตัวว่าโดนหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ ให้รีบแจ้ง 1441 เพื่อจะได้อายัดเงินให้ทัน

นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนคริปโต ได้ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนจำนวน 2 ล้านบาท แต่ไม่สามารถถอนเงินคืนได้เลย ส่วนผู้เสียหายอีกรายถูกหลอกให้ร่วมเทรดหุ้น ส่วนเงินไป 1.45 ล้านบาท และมีผู้เสียหายชาวลาวถูกหลอกให้ทำคลิปออนไลน์สั่งของสูญเงิน 300,000 บาท.-419-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น