ทลายจุดตั้ง Simbox และ STARLINK ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่

31 พ.ค. – ทลายจุดตั้ง Simbox และ STARLINK ได้พร้อมของกลาง ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ พบบุคคลเกี่ยวข้องเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติ ถูกจ้างวานมา


หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามได้รับแจ้งข้อมูลจากศูนย์ AOC ว่ากลุ่มคนร้ายใช้โทรศัพท์โทรหลอกลวงประชาชนในลักษณะข่มขู่ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของศูนย์ AIS สำนักงานใหญ่ แจ้งว่า มีการนำเอาเอกสารและชื่อของผู้เสียหายไปลงทะเบียนในเลขหมายอื่นๆ ซึ่งเลขหมายดังกล่าวถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิดประเภทต่างๆ และให้แสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการให้โอนเงินมาให้ตรวจสอบนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. จึงได้ทำการสืบสวน จนพบว่ากลุ่มคนร้ายได้ใช้อุปกรณ์ Sim box หรือ GSM Gateway ซึ่งสามารถแปลงสัญญาณอินเทอร์เน็ตเป็นสัญญาณมือถือได้ในการหลอกลวงประชาชน โดยอุปกรณ์ดังกล่าวจะถูกลักลอบติดตั้งภายในประเทศ หรือชายแดนฝั่งเพื่อนบ้านที่ติดกับประเทศไทย ที่สามารถรับสัญญาณโทรศัพท์มือถือได้ เมื่อคนร้ายโทรจากต่างประเทศไปหาประชาชนผ่านอุปกรณ์ดังกล่าว จะแสดงผลเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของประเทศไทย ไม่มีการขึ้นหมายเลขหน้าเบอร์โทรว่าเป็นการโทรมาจากต่างประเทศตามมาตรการของ กสทช. (+66 , +697 , +698)

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้วางแผนกระจายกำลังเข้าตรวจค้นสถานที่ติดตั้งเครื่อง SIMBOX หรือ GSM Gateway จำนวน 4 จุด (กทม. 2 จุด, จ.นครปฐม 1 จุด และ จ.สระบุรี 1 จุด) ผลการตรวจค้น พบอุปกรณ์ SIMBOX หรือ GSM Gateway จำนวน 6 เครื่อง พบบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติ เวียดนาม จำนวน 1 ราย ได้แก่ MR. QUANG THIN BUI หรือ นายต้น สัญชาติเวียดนาม จึงได้ดำเนินคดีในข้อหา “มี ใช้ และนำเข้าเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต” และพบต่างด้าวลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต อีก 2 ราย จึงได้จับกุมดำเนินคดี ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้” พร้อมยึดของกลางอุปกรณ์ Sim box หรือ GSM Gateway รุ่น GoIP32-X4 สำหรับใส่ซิมได้ 128 ซิมการ์ด 6 เครื่อง (ราคาเครื่องละประมาณ 120,000 บาท) /เครื่องกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ต (Wifi Router) 2 เครื่อง และกล้องวงจรปิด 2 ตัว


จากการสอบถามปากคำผู้ต้องหาเบี้องต้น นายต้น ให้การว่าเป็นผู้จัดหาห้องเช่า และขอติดตั้งอินเตอร์เน็ตตามจุดต่างๆ รวมถึงเป็นผู้ชำระเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ จริง โดยถูกจ้างวานมาจากบุคคลอื่นๆ และได้รับค่าจ้างค่าดำเนินการจุดละ 1,000 บาทต่อเดือน ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนขยายผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป. -416-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย