สตม. 29 พ.ค. – สตม.บุกค้น 3 จุด รวบบริษัทเอเจนซี่หัวหมอปลอมเอกสารยื่นขอวีซ่าให้คนไทยที่จะไปต่างประเทศ
พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พร้อมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกับแถลงข่าว โดยทาง บก.สส.สตม. ได้รับการประสานงานจากสถานทูตต่าง ๆ ประจำประเทศไทย ให้ตรวจสอบ เนื่องจากมีคนไทยไปยื่นขอวีซ่าเพื่อไปท่องเที่ยวในประเทศแถบยุโรปจำนวนหลายร้อยราย สงสัยว่าจะมีการใช้เอกสารปลอม
จากการสืบสวนพบว่ามีกลุ่มบริษัทเอเจนซี่รับยื่นขอวีซ่าให้กับคนไทยที่ต้องการไปต่างประเทศเป็นผู้ดำเนินการให้ เอกสารที่คนไทยนำมายื่นขอวีซ่า เช่น ใบรับรองการทำงาน รายการเดินบัญชีธนาคาร หนังสือรับรองยอดเงิน ส่วนใหญ่เป็นเอกสารปลอม จึงได้มีการออกหมายค้น 3 จุด คือ
- ตรวจค้นคอนโดย่านปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี โดยมีนายนคร (นามสมมติ) อายุ 49 ปี สัญชาติไทย แสดงตนเป็นเจ้าของห้องพักและนำการตรวจค้นผลการตรวจค้นภายในห้องพัก พบของกลางเอกสารรายการเดินบัญชีธนาคาร และหนังสือรับรองการทำงานปลอม จำนวน 23 รายการ จึงได้ทำการจับกุมนายนคร พร้อมของกลาง ในข้อหา “ปลอมเอกสาร” นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจากการสืบสวนขยายผลพบว่านายนครได้ว่าจ้างบุคคลอื่นทำการปลอมเอกสารดังกล่าวอีกทอดหนึ่ง ในราคาชุดละ 5,000 บาท ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ทำการปลอมเอกสาร
- ตรวจค้นบริษัท ย่านสายไหม โดยมี นางธัญญ์นารี (นามสมมติ) อายุ 40 ปี สัญชาติไทย แสดงตนเป็นเจ้าของบริษัทและนำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบของกลาง จำนวน 27 รายการ ประกอบด้วย ตราประทับบริษัทต่าง ๆ รายการเดินบัญชีธนาคารปลอม หนังสือรับรองการทำงานบริษัทต่าง ๆ ปลอม จากการสอบถาม นางธัญญ์นารี รับว่าเป็นผู้ทำปลอมขึ้นเอง จากนั้นก็จะพาลูกค้าไปยื่นขอวีซ่ากับสถานทูตต่าง ๆ โดยแนะนำก่อนว่าจะต้องตอบคำถามอย่างไรหากมีการสัมภาษณ์
- ตรวจค้นบริษัท ตั้งอยู่ที่ อ.เมืองอุดรธานี จว.อุดรธานี โดยมี น.ส.นภัชชา (นามสมมติ) อายุ 48 ปี สัญชาติไทย แสดงตนเป็นเจ้าของบริษัทและนำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบของกลาง จำนวน 12 รายการ ประกอบด้วย ตราประทับบริษัทต่าง ๆ หนังสือรับรองเงินฝากธนาคารปลอม โดย น.ส.นภัชชา รับว่าได้ว่าจ้างนายหน้าอีกคนหนึ่งเป็นผู้ทำปลอมขึ้น ในราคาฉบับละ 5,000-7,000 บาท จากนั้นจะตรวจสอบและส่งเอกสารให้ลูกค้าไปใช้ยื่นขอวีซ่ากับสถานทูต แต่ส่วนใหญ่ก็จะถูกทางสถานทูตปฏิเสธการออกวีซ่าให้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนพื้นที่รับผิดชอบเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.- 420-สำนักข่าวไทย