สอบคนใกล้ชิด “เสี่ยต้น” แล้ว 15 ปาก

กทม. 27 พ.ค. – รอง ผบช.น. เผยสอบปากคำคนใกล้ชิด “เสี่ยต้น” ไปแล้ว 15 ปาก เบื้องต้นให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี พร้อมไล่กล้องวงจรปิดขยายผลหาผู้จ้างวานฆ่าในพื้นที่ สน.วังทองหลาง พบผู้ลงมือก่อเหตุมี 2 คน

จากกรณีน้องสาวของนายพิชิต หรือเสี่ยต้น อายุ 44 ปี เจ้าของธุรกิจสอนนวดแผนไทย เข้าร้องเรียนทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หลังสงสัยว่าพี่ชายที่เสียชีวิตเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา อาจถูกฆาตกรรม นอกจากนี้ยังพบว่า เสี่ยต้น ถูกคนร้ายประกบยิงในพื้นที่ สน.วังทองหลาง เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนไปเสียชีวิตปริศนาที่บ้านพักใน จ.มหาสารคาม


ล่าสุด พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ตำรวจได้มีการเรียกสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องในฐานะพยานไปแล้วจำนวน 15 ปาก โดยแบ่งเป็นผู้ใกล้ชิดจำนวน 8 ปาก และพยานเกี่ยวข้อง 7 ปาก โดยการสอบปากคำทั้งหมดให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี สำหรับคดีพยายามฆ่า ในพื้นที่ สน.วังทองหลาง จากการไล่กล้องวงจรปิดพบว่าผู้ลงมือก่อเหตุมีเพียง 2 คน ส่วนผู้ชี้เป้าและผู้จ้างวาน ตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลว่าบุคคลใดมีการติดต่อแจ้งหรือไปพบเจอผู้ก่อเหตุในเวลาก่อน หรือหลังเกิดเหตุหรือไม่ เพื่อหาพยานหลักฐานรวบรวมในการออกหมายจับต่อไป

สำหรับการติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ราย ขณะนี้ตำรวจได้มีการไล่กล้องวงจรปิดทั้งก่อนเกิดเหตุจนกระทั่งเส้นทางหลบหนีจนถึงที่สุดเพื่อนำตัวคนร้ายมาสอบสวนดำเนินคดี


รายงานข่าวแจ้งว่ากรณีมีการนำเสนอข่าวเรื่องยาไซยาไนด์นั้น ทางตำรวจทราบข้อมูลแล้ว อยู่ในระหว่างขยายผล ซึ่งพบว่าโทรศัพท์ของผู้ตายช่วงวันที่ 18 เมษายน มีการค้นหายาไซยาไนด์ซึ่งเป็นการค้นหาภายหลังจากผู้ตายเสียชีวิตแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องตรวจสอบว่าภายหลังจากผู้ตายเสียชีวิตโทรศัพท์ของผู้ตายใครเป็นผู้ถือครอง และมูลเหตุจูงใจในการค้นหายาไซด์ยาไนด์คืออะไรซึ่งอยู่ระหว่างการสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป

ขณะเมื่อช่วงเที่ยง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผู้กำกับ สน.วังทองหลาง พร้อมชุดตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ได้ลงพื้นที่ไปยังร้านธุรกิจสอนสปาและความงาม และร้านสอนตัดผม ภายในซอยรามคำแหง 26/2 ซึ่งเป็นธุรกิจของ “เสี่ยต้น” และมด ภรรยา เพื่อตรวจสอบความเป็นอยู่ของพนักงาน รวมถึงโรงไม้และ คอนโด เพราะทุกจุดอยู่ไม่ไกลกัน ทั้งนี้ก็เพื่อตรวจสอบหาข้อมูลเพิ่มเติม และหาความเชื่อมโยงของคำให้การของคนใกล้ชิด เพื่อพิสูจน์ทราบคำให้การว่าตรงตามข้อเท็จจริงหรือไม่

จุดแรกเข้าไปตรวจสอบภายในธุรกิจสอนสปา ซึ่งมีพนักงานเข้ามาทำงานกันตามปกติ โดยใช้เวลาตรวจสอบจุดนี้ประมาณ 20 นาที จากนั้นก็เดินมาตรวจสอบธุรกิจสอนตัดผม ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึง 50 เมตร ซึ่งจะสังเกตเห็นว่า ขณะเดินจากร้านสอนธุรกิจสปามาร้านสอนตัดผม จะมีผู้ชายคนหนึ่ง คาดว่าจะเป็นพนักงาน คอยพาเดินและอธิบายข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งจุดนี้ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที จากนั้นก็เดินทางกลับออกมา แล้วไปตรวจสอบโรงไม้และคอนโดของ “เสี่ยต้น” และภรรยา.-414-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส