กทม. 26 พ.ค.- พ่อแม่เด็ก 15 ปี บุกโรงพักหลังแจ้งความลูกถูกเพื่อนบูลลี่จนป่วยซึมเศร้านาน 6 เดือน คดีไม่คืบ ต่างกับคดีคนดังไม่เกิน 3 วัน คดีสุดทาง
บิดาและมารดาของเด็กชายอายุ 15 ปี เดินทางมา สน.วังทองหลาง ติดตามความคืบหน้ากรณีแจ้งความไว้ตั้งแต่ พ.ย.ปีที่แล้ว ให้ดำเนินคดีในฐานความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หลังผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นรุ่นพี่ของลูกชายที่โรงเรียนได้ปลอมอินสตาแกรม หรือ IG เป็นเพื่อนผู้หญิง หลอกล่อให้ลูกชายโชว์ของลับ และช่วยตัวเองก่อนจะนำภาพไปเผยแพร่ในโซเชียล ทำให้ลูกชายมีอาการซึมเศร้า หวาดกลัว และอับอาย ไม่กล้าไปโรงเรียนจนป่วยซึมเศร้าต้องพบจิตแพทย์ทุกเดือน
พ่อของผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุครอบครัวได้ไปร้องเรียนกับทางโรงเรียน แต่ทางโรงเรียนกลับอ้างว่าไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นความผิดส่วนบุคคล อีกทั้งโรงเรียนมีเด็กจำนวนมาก ทางโรงเรียนดูแลไม่ทั่วถึง จึงมาแจ้งความไว้ที่ สน.วังทองหลาง แต่จนถึงขณะนี้ผ่านมานาน 6 เดือน คดีกลับไม่มีความคืบหน้า และยังไม่ได้รับการติดต่อจากกลุ่มผู้ก่อเหตุ
ขณะที่ลูกชายของตนเองสภาพจิตใจยังย่ำแย่ ทุกครั้งที่เห็นข่าวเรื่องการบูลลี่ลักษณะนี้เกิดขึ้นสภาพจิตใจจะย่ำแย่ลงไปอีกและจะสะท้อนกลับมาว่าทำไมคนทำผิดไม่ได้รับโทษและทำไมต้องมาทำกับตนเองด้วย ซึ่งทุกครั้งที่เห็นสภาพจิตใจลูกย่ำแย่ ตนและครอบครัวไม่สามารถทอดทิ้งได้เลย ทั้งนี้ หลังจากเปิดเทอมกลุ่มผู้ก่อเหตุยังคงไปเรียนและได้เลื่อนชั้นตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่ลูกชายของตนต้องย้ายออกจากโรงเรียนและไปอยู่ในที่ไกลเพื่อเลี่ยงการพบเจอกับกลุ่มที่ก่อเหตุ
ขณะที่คนมีชื่อเสียงคนดังทั้งหลายคนที่ถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน คดีกลับได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว พ่อของผู้เสียหายยังตัดพ้อว่าในฐานะคนเป็นพ่อเวลาลูกป่วย เราจะป่วยกว่าลูก คนไม่มีลูกไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้ไม่รู้หรอก แต่อย่างไรก็ตาม ตนขอให้เหตุการณ์แบบนี้ไม่ต้องเกิดกับลูกใครอีก ขอให้เกิดกับลูกของตนเป็นเคสสุดท้าย และอยากเรียกร้องขอให้ความยุติธรรมอยู่ข้างตนบ้าง ถูกก็ว่าไปตามถูกผิดก็ว่าไปตามผิด วันนี้ ถ้าผมพึ่งตำรวจไม่ได้ผมจะพึ่งใคร
ทั้งนี้ ขณะบิดากำลังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลขนทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง ได้ลงมาเชิญบิดาและมารดาของผู้เสียหายเข้าไปให้ข้อมูลด้วยตนเอง โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปเก็บภาพแต่อย่างใด
ศ.นพ.วิฐารณ บุญสิทธิ เลขาธิการราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย มีความห่วงใยเด็กและเยาวชน ผลกระทบจากการถูกบูลลี่ที่เกิดขึ้นรุนแรงมากกว่าที่จะคาดคิด คนที่แกล้งคนอื่นอาจจะไม่รู้ตัวว่าจะเกิดผลกระทบที่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบทางจิตใจ ทำให้เกิดความหวาดกลัว อับอาย วิตกกังวล เสียความมั่นใจในตัวเอง ถึงขนาดซึมเศร้า และบางรายฆ่าตัวตาย
ผลกระทบนอกจากต่อผู้ที่ถูกแกล้งแล้ว ผู้แกล้งเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน อาจจะเติบโตขึ้นกลายเป็นคนกระทำผิดซ้ำซาก หรือสังคมไม่ยอมรับ หรืออาจมีผลกระทบทางจิตใจอื่นๆ ทางสังคมเช่นกัน นอกจากนั้นผู้ที่เห็นเหตุการณ์อาจได้รับผลกระทบทางจิตใจไม่แพ้ผู้ที่ถูกแกล้งเช่นกัน
งานวิจัยพบว่าเด็กไทยถูกบูลลี่สูง แต่ที่น่ากลัวคือถูกมองข้าม มองการบูลลี่เป็นเรื่องธรรมดา แล้วเมื่อมองเป็นเรื่องธรรมดาก็เกิดขึ้นอีก กระทบจิตใจเป็นวงกว้าง. 414.-สำนักข่าวไทย