ตร.ไซเบอร์ ทลาย 2 เครือข่ายเว็บพนัน ยึดทรัพย์รวม 90 ล้าน

25 พ.ค. – ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ “FULL STEAM” บุกทลาย 2 เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ “บ้านหวย.com” และ “new.8lsm.com” พบเงินหมุนรวมกันกว่า 90 ล้าน ยึดทรัพย์สินรวมกันกว่า 90 ล้าน
 
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท, พ.ต.อ.ขจร อบทอง รอง ผบก.สอท.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงผลปฏิบัติการ FULL STEAM บุกทลาย 2 เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ “บ้านหวย.com” และ “new.8lsm.com” พบเงินหมุนรวมกันกว่า 90 ล้าน ยึดทรัพย์สินรวมกันกว่า 90 ล้าน


พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า การแถลงข่าวจับกุมวันนี้ทั้ง 3 เครือข่าย เป็นเครือข่ายใหม่จะแฝงด้วยการไลฟ์สดมากขึ้น และมีการขยายผลจากเครือข่ายเก่าด้วย 1 เครือข่าย ทั้งนี้ได้แจ้งย้ำเตือนให้ผู้ปฏิบัติได้ปฏิบัติตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ขอให้มีการจับกุมอย่างจริงจังและต่อเนื่องจะเห็นได้ว่ามีการจับกุมทั้งบัญชีม้าขยายผลไปจนถึงเจ้าของเว็บพนัน สิ่งสำคัญที่สุดที่ตำรวจไซเบอร์ได้ดำเนินการคือการยึดทรัพย์ และได้มีการสั่งการให้ปิดกั้นเว็บไซต์การพนันต่างๆ ซึ่งแต่ละวันเฉลี่ยมีการส่งเว็บไซต์ไปปิดกั้นประมาณ 1000 เว็บไซต์

ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีขีดเส้นให้มีการดำเนินการใน 30 วัน พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า ได้รายงานผลให้นายกรัฐมนตรีทราบ และนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้มีผลปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอ ส่วนการประเมินเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา เรามีหน้าที่ปฏิบัติ ก็ทำหน้าที่ ตั้งแต่รับตำแหน่งมีการประชุมขับเคลื่อนในทุกสัปดาห์ ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้าจะมีการแถลงผลปฏิบัติการเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 2-3 เคส


ขณะที่ พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า ตำรวจไซเบอร์มีไซเบอร์การ์ดในการตรวจสอบและปิดกั้นเพจทุกวัน ทั้งนี้คนร้ายมีการเปลี่ยนแผนประทุษกรรมเข้าสู่ระบบออนไลน์มากขึ้น มีการเปลี่ยนรูปแบบจากบนดินมาออนไลน์ มีการถ่ายเททรัพย์สินที่ได้จากการพนันเปลี่ยนเป็นการเทรดหุ้น ทองคำ คริปโต ส่วนผู้เล่นการพนัน 6-7 พันราย ที่อยู่ในแต่ละเครือข่ายจะต้องถูกตรวจสอบด้วยเช่นเดียวกัน ที่ผ่านมามีการขยายผลจับกุมจากกลุ่มย่อยมาเป็นกลุ่มใหญ่ที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์
 
พ.ต.อ.ขจร กล่าวว่า ตำรวจไซเบอร์ได้สืบสวนหาเบาะแสการกระทำผิดเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ เพื่อดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของนายกรัฐมนตรีและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทั่งพบข้อมูลว่ามีการลักลอบเปิดให้เล่นพนันออนไลน์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตโดยประชาชนคนไทยโดยทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ จำนวน 2 เครือข่าย ได้แก่ บ้านหวย.com และ new.8lsm.com ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นและหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้หลายราย จนกระทั่งนำมาสู่ปฏิบัติการตรวจค้น ดังนี้
 
พ.ต.อ.ขจร กล่าวว่า เครือข่ายที่ 1 บ้านหวย.com มีสมาชิกผู้เล่นกว่า 22,000 คน พบยอดเงินหมุนเวียนเดือนกว่า 80ล้านบาทต่อเดือน สามารถรวบรวมพยานหลักฐานจนขอออกหมายจับผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องรวม จำนวน 9 ราย ได้แก่ เจ้าของเว็บไซต์ 1 ราย ผู้จัดการ 2 ราย ผู้ดูแลการเงิน 3ราย และบัญชีม้า 3 ราย ต่อมาได้ขอหมายค้นจากศาล เพื่อเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 4 จุด ได้แก่
1.บ้านพักหลังหนึ่งซึ่งถูกใช้เป็นที่ทำการของศูนย์คอลเซ็นเตอร์ ในพื้นที่ ถนนพุทธมณฑล สาย 1 แขวงบางด้วน เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
2.บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
3.บ้านพักหลังหนึ่งซึ่งถูกใช้เป็นที่ทำการของศูนย์คอลเซ็นเตอร์ ในพื้นที่ ถนนพุทธมณฑล สาย 5
ต.บางเตย อ.สามพราน จ.นครปฐม
4.บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.เกวียนหัก อ.ขลุง จ.จันทบุรี
 
ผลการตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 8 ราย ทั้งเจ้าของเว็บไซต์ ผู้จัดการ ผู้ดูแลการเงิน และบัญชีม้า อีกทั้ง ยังพบผู้กระทำความผิดที่เป็นพนักงานแอดมินไลฟ์สดเล่นพนันออนไลน์เพิ่มเติม จำนวน 3 ราย จึงได้เชิญตัวมารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง รวมมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท ดังนี้ทองคำแท่ง 99.99% น้ำหนัก 6 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 17 ล้านบาท, โฉนดที่ดิน จำนวน 3 ฉบับ มูลค่ารวม 14.7 ล้านบาท, รถยนต์ Mercedes benz GLC, รถยนต์ Tesla Model Y, รถยนต์ Honda Civic, กองทุนรวม มูลค่า 22.3 ล้านบาท, พอร์ตหุ้นไทย มูลค่า 7.3 ล้านบาท, เงินในบัญชีธนาคาคารที่เกี่ยวข้อง 6.4 ล้านบาท, อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ, สมุดบัญชีธนาคาร และบัตรกดเงิน, อุปกรณ์ไลฟ์สดเล่นพนันออนไลน์

พ.ต.อ.ขจร กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สามารถจับกุมเจ้าของเว็บไซต์ ซึ่งเดิมเป็นโปรแกรมเมอร์ ได้มีการเขียนโปรแกรมการพนันขึ้นมาเองและเปิดเว็บให้มีการเล่นการพนันโดยใช้ผลหวยต่างๆ จากเว็บไซต์ต่างประเทศ
 
เครือข่ายที่ 2 new.8lsm.com มีสมาชิกผู้เล่นกว่า 9,000 คน มียอดเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาทต่อเดือนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานจนขออนุมัติหมายจับผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องรวม จำนวน 3 ราย ได้แก่ ผู้ดูแลการเงินและรับผลประโยชน์ จำนวน 2 ราย และบัญชีม้า จำนวน 1 ราย ต่อมาได้ขออนุมัติหมายค้น จากศาลเพื่อเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ในซอยวชิรธรรมสาธิต 55 แยก1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.
 
ผลการตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้รวม 2 ราย คือ ผู้ดูแลการเงินและรับผลประโยชน์พร้อมตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาทดังนี้ เงินสด 1,098,000 บาท, ทองคำแท่ง น้ำหนัก 100 บาท มูลค่าประมาณ 4.1 ล้านบาท, โฉนดที่ดิน 2 ฉบับ มูลค่ารวมประมาณ 14.5 ล้านบาท, รถยนต์ Ford Everest, อาวุธปืน 3 กระบอก, พระเครื่อง, โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และบัตรกดเงิน
 
จากการปฏิบัติการในครั้งนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวมทั้งสิ้น 10 ราย ยึดทรัพย์ได้มูลค่ารวมกว่า 90 ล้านบาท โดยดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกันทางอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต และสบคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-419-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]

“บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทนอดีตพระอลงกต

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ส่วน “สมปอง” ยังอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี แม้อ้างว่าเป็นการยืมเงินและคืนไปบางส่วนแล้ว ขณะที่วง “พิงค์แพนเตอร์” ประสานเข้าพบตำรวจเร็วๆ นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดี “อลงกตการละคร” ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร และมีตัวละครที่สามารถดำเนินคดีได้หลายคน แต่ตำรวจต้องการพยานหลักฐานมาประกอบข้อมูลตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่ามีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน […]

พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

พรรคกล้าธรรม 30 ส.ค.-พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์ โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ ชี้ปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศไม่ได้ เผยภูมิใจไทยรับข้อเสนอ แก้ กม.ต้องไม่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อเวลา 15.55 น. พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ต่อไปว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ร่วมกันพิจารณารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกท่าน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของพรรค รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคกล้าธรรม จะลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีฝ่ายบริหารมาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ทั้ง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยไม่สามารถประวิงเวลาไปได้อีก พรรคกล้าธรรม ได้แสดงจุดยืนของพรรคให้กับพรรคภูมิใจไทยทราบ คือ 1.พรรคกล้าธรรม ยึดถือ […]

“เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล

พรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค.- “เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล กร้าว ถ้าหนุนก็ไม่เหลือความเป็นคน บอก รัฐประหาร 100 ครั้ง ก็ไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว. ยกอำนาจให้คนเดียวชี้ขาดประเทศ ย้ำคดีเขากระโดง ต้องเอาผิดให้เด็ดขาด บอก 2-3 เดือน ก็ยุบสภาได้ ไม่ต้องรอ 4 เดือน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุภายหลังการเจรจากับพรรคประชาชน ที่พรรคร่วมรัฐบาลรับเงื่อนไขทั้งหมดของพรรคประชาชน ว่า จริงๆ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน ตนไปเป็นเพื่อนเขา ส่วนประเด็นเป็นเรื่องของทั้งสองพรรคต้องคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเงื่อนไขทั้งหมดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ส่วนจะนำข้อหารือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยอมรับว่า อาจอยู่ในวาระอื่นๆ เนื่องจากมีวาระสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชนและและข้อเสนอเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า […]

ข่าวแนะนำ

‘เท้ง’ ยันแกนนำ ปชน. ไม่มีธงโหวตนายกฯ

1 ก.ย.- ‘เท้ง ณัฐพงษ์’ ยืนยันแกนนำพรรคประชาชน ไม่มีธงโหวตเลือกนายกฯ เปิดโอกาสถกเต็มที่ ย้ำได้ข้อยุติก่อนวันโหวตแน่นอน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เดินทางมายังที่ทำการพรรค พร้อมเปิดเผยก่อนการประชุมร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดทิศทางในการผ่าทางตันโหวตนายกรัฐมนตรี โดยแนวทางในวันนี้จะเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรค แสดงความคิดเห็นอย่างเปิดกว้าง ส่วนจะต้องมีการลงมติหรือไม่ ถือว่าอยู่ที่การหารือของที่ประชุม เพราะหากเราสามารถหารือกันได้ข้อสรุปไปในทิศทางเดียวกันได้ อาจจะไม่จำเป็น แต่ตอนนี้ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอยู่ สำหรับเงื่อนไขที่จะทำให้ไม่สามารถเคาะทิศทางโหวตได้ในวันนี้นั้น มีหลายเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ทั้งความเสี่ยงของฉากทัศน์ต่างๆ ตนขอยังไม่ลงรายละเอียดในตอนนี้ดีกว่า เมื่อถามถึงกระแสผู้สนับสนุนพรรค ที่อยากให้ยึดจุดยืน โดยไม่เลือกพรรคไหนเลยนั้น นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า ทุกอย่างควรพิจารณาทั้งหมด ส่วนคาดว่าจะมีการโหวตได้เมื่อไหร่ หรือจะมีการเซอร์ไพรส์ไม่โหวตเลยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนคงไปตอบแทนเพื่อน สส. รวมถึงองคาพยพของพรรคไม่ได้ เพราะในตอนนี้เป็นโอกาสที่ต้องหารือภายในกันให้รอบด้าน อาจให้คำตอบได้แค่ว่า จะพยายามหารือให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด รอเย็นวันนี้ก่อน น่าจะได้ความคืบหน้า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทุกคนคงได้รับฟังเสียงสะท้อน ทั้งความคิดเห็นในออนไลน์ และออฟไลน์ เมื่อถามว่านายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ได้มีการติดต่อมาคุยหรือยัง เนื่องจากไม่ได้มาหารือพร้อมกับพรรคเพื่อไทย นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่มี […]

เพื่อไทย ยังไม่มีแกนนำเข้าพรรค รอลุ้นมติ ปชน.บ่ายนี้

พรรคเพื่อไทย 1 ก.ย.-เพื่อไทย ยังไม่มีแกนนำเข้าพรรค แยกปฏิบัติภารกิจแต่ละกระทรวง รอลุ้นมติ ปชน.บ่ายนี้ ด้าน “ชัยเกษม” ลั่นไม่ต้องห่วงเรื่องความพร้อม เพื่อชาติบ้านเมืองไม่มีปัญหา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเมื่อวานนี้ (31 ส.ค.) แกนนำ ซึ่งนำโดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะปฏิบัติหน้านายกรัฐมนตรี นำคณะเจรจาแกนนำไปพูดคุยขอเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชน บรรยากาศที่พรรคเพื่อไทยตั้งแต่ช่วงเช้าไม่พบแกนนำพรรคเดินทางเข้ามา โดยจากการสอบถามทุกคนยังคงปฏิบัติภารกิจตามงานของกระทรวง มีเพียงสื่อมวลชนที่เข้ามาเกาะติดสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังพรรคประชาชนมีมติออกมาว่าจะสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ ฝ่ายใดนั้น แกนนำพรรคเพื่อไทย จะมีความเคลื่อนไหวออกมาแน่นอน ด้านนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตนเองมีความพร้อมในการเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยมีมติอย่างไร ก็ว่ากันไปตามนั้น “ไม่ต้องห่วงเรื่องความพร้อม ตนพร้อมทำหน้าที่ เพื่อชาติบ้านเมือง ไม่มีปัญหา” นายชัยเกษม กล่าว ส่วนเรื่องการยอมรับเงื่อนไขจากพรรคประชาชน นั้น นายชัยเกษม ระบุว่า ก็เป็นไปตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วเมื่อวานนี้ และถือว่าให้เป็นไปตามมติของแกนนำพรรค.-316.-สำนักข่าวไทย

วางบึ้ม-เผายางรถยนต์ 5 อำเภอ 6 จุด จ.นราธิวาส

นราธิวาส 1 ก.ย.-ใต้ป่วนหนัก วางระเบิด-เผายางรถยนต์ 5 อำเภอ 6 จุดในพื้นที่นราธิวาส กล้องวงจรปิดจับภาพชัด เจ็บ 2 ราย รายงานข่าวจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ในช่วงคืนที่ผ่านมาตั้งแต่เวลา 19.50 น. ของคืนวันที่ 31 ส.ค.68 ถึงเวลา 00.30 น. ของคืนวันที่ 1 ก.ย.68 ได้มีกลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง ได้มีการประชุมวางแผนกระจายกำลังกันก่อเหตุเผายางรถยนต์ และลอบวาระเบิดในพื้นที่ 5 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส ประกอบด้วย อ.สุไหงปาดี, จะแนะ, บาเจาะ, เจาะไอร้องและศรีสาคร ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจพบ จำนวน 6 จุด มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย รถยนต์ได้รับความเสียหาย 1 คัน พร้อมกันพื้นที่จุดเกิดเหตุและได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อเข้าทำการตรวจสอบในช่วงสายของวันนี้ โดยจุดแรก เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.50 น. ของคืนวันที่ […]

“บิ๊กเต่า” ยันไม่น้อยใจ หลังหลุดโผแต่งตั้ง-โยกย้าย

กทม. 1 ก.ย.-“บิ๊กเต่า” ยันไม่น้อยใจ หลังหลุดโผแต่งตั้ง-โยกย้าย เผยชีวิตนี้ผ่านอะไรมาเยอะ ยันทำเพื่อส่วนรวมไม่ใช่เพื่อตนเอง หลังจากนี้จะเดินหน้าทำงานต่อไปและทำงานให้หนักขึ้น จากการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เมื่อวานนี้ใช้เวลานานถึง 8 ชั่วโมงจัดทำบัญชีรายชื่อ ซึ่งมีตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ 250 นาย แต่ปรากฎว่า พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ไม่มีชื่อในการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งก่อนหน้านี้ออกมาเปิดหน้ายื่นขอความเป็นธรรมกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ไม่น้อยใจที่ไม่ได้รับการแต่งตั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าอยากให้คนทำงานมีโอกาสได้รับการแต่งตั้ง สำหรับคนที่ได้รับการแต่งตั้งก็ยินดีและดีใจด้วย อย่าง พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะเป็นคนเก่งและมีความสามารถ ทำงานด้านสืบสวน มองว่าหากตนเองไม่ออกมาให้สัมภาษณ์และให้มีการแก้ไขก็คงแก้ยากเพราะทุกคนไม่มีรายชื่อเข้าไป เพราะฉะนั้นตนเองก็เห็นด้วยที่ ก.ตร. เข้ามาแก้ไขปัญหา ส่วนที่ตนเองไม่ได้เลื่อนตำแหน่งก็ไม่เป็นไร เพราะเชื่อว่าการทำเพื่อส่วนรวมและให้ระบบเดินต่อไปได้เป็นสิ่งที่ดี และอยากสร้างมาตรฐานอีกหนึ่งอย่างคือ อยากเห็นแนวทางการพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งในหมวดความรู้ความสามารถ อยากให้คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) หาแนวทางในการให้ความเป็นธรรมกับตำรวจที่จะมีการแต่งตั้งในระดับผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาการในปีต่อไป หลังจากนี้จะต้องปรึกษากับฝ่ายกฎหมายว่าการพิจารณาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในการประชุมคณะกรรมการชุดเล็กและชุดใหญ่ ควรนำหลักการอะไรมาพิจารณาเพื่อความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และเพื่อประโยชน์กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเป็นขวัญกำลังใจ ทำให้ตำรวจและส่วนรวมได้มีความมุมานะในการทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน […]