ตร.ทางหลวงรวบพลทหารลอบขนแรงงานต่างด้าวส่งทำงานปริมณฑล

21 พ.ค. – พลทหาร ลางานมาลักลอบขนแรงงานต่างด้าว 10 จาก จ.ตาก เตรียมส่งปลายทาง กรุงเทพฯ, จ.ปทุมธานี สุดท้ายถูกตำรวจทางหลวงรวบตัวได้


ตำรวจทางหลวงจับรถลักลอบขนแรงงานต่างด้าวได้ที่บริเวณ กม.3-4 ทล.346 ถนนรังสิต-ปทุมธานี ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี พร้อมคุมตัวพลทหารสุรเกียรติ อายุ 22 ปี และนายกฤษดา อายุ 23 ปี พร้อมทั้งแรงงานชาวเมียนมา อีก 10 คน พร้อมของกลาง อาทิ รถยนต์โตโยต้า 1 คัน, โทรศัพท์ กุญแจรถ โดยกล่าวหาว่าผู้ถูกจับที่ 1-2 “ร่วมกันรู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” ผู้ถูกจับที่ 3 – 12 “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”

คดีนี้สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรียุธยา, จ.ปทุมธานี, จ.นนทบุรี อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั่งวานนี้ (20 พ.ค.) ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง โดยพบรถยนต์ ยี่ห้อ TOYOTA FORTUNER สีเทา ขับขี่ผ่านมาโดยใช้ความเร็วสูงโดยมีน้ำหนักรถยนต์มากกว่ารถยนต์ปกติ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.3-4 ทล.346 ถนนรังสิต-ปทุมธานี ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบพร้อมกับได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจแล้วเบื้องต้นสอบถามชื่อ นายสุรเกียรติ อายุ 22 ปี ชาว อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ได้แสดงตนเป็นผู้ขับขี่ และนายกฤษดา อายุ 23 ปี นั่งโดยสารมาด้านข้างคนขับ มีผู้ถูกจับที่ 3-12 นั่งโดยสารมากับรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญรถยนต์คันดังกล่าวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้ง


จากการตรวจสอบพบว่าผู้ถูกจับที่ 3-12 เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง โดยผู้ถูกจับนั่งโดยสารมาในรถยนต์คันดังกล่าว จากการสอบถามผู้ถูกจับที่ 1 ให้การยอมรับว่า เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 02.00 น.ได้รับการประสานจากชายไทย (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 10 คน พื้นที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก เพื่อไปส่งปลายทางที่ จ.ปทุมธานี และ กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้ถูกจับที่ 2 นั่งโดยสารและรับรู้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างตลอดเส้นทางโดยได้ค่าจ้าง 15,000 บาท และได้แบ่งให้กับผู้ถูกจับที่ 2 จำนวน 7,500 บาท ซึ่งเป็นค่าจ้างขนขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและรับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทางจนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ และจากการสอบถามผู้ถูกจับที่ 2 ให้การรับว่า ตนนั้นได้นั่งรถยนต์ตามของกลางลำดับที่ 1 ซึ่งมี นายสุรเกียรติ ผู้ถูกจับที่ 1 เป็นผู้ขับขี่ โดยตนนั้นได้นั่งโดยสารมากับรถยนต์ขนแรงงานต่างด้าวจำนวน 10 คน จาก จ.ตาก จนมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งตนจะทำหน้าที่ดูตามเส้นทาง GPS ดูเจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างทางว่ามีด่านตรวจหรือไม่ โดยตนจะได้ค่าจ้างจากนายสุรเกียรติ จำนวน 7,500 บาท ซึ่งเป็นค่าจ้างขนคนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สอบถามผู้ถูกจับที่ 3 – 12 ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 23,000 – 25,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ถูกจับที่ 1 – 2 “ร่วมกันรู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้น

จากการจับกุม”ผู้ถูกจับที่ 3 – 12 “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”และควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต ภ.จว.ปทุมธานี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ถูกจับทราบด้วยว่า ผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะไม่ให้การหรือให้การก็ได้ และถ้อยคำของผู้ถูกจับนั้นอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ และมีสิทธิที่จะพบและปรึกษาทนายความหรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความ ผู้ถูกจับรับทราบข้อกล่าวหาและสิทธิของผู้ถูกจับดังกล่าวข้างต้นแล้ว.-414-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย-ใต้ตอนบน ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยในภาคอีสาน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง