กทม. 16 พ.ค.-เช้านี้ เตรียมส่งถุงยาเสพติดที่พบในถุงเสื้อผ้าเด็กชายวัย 14 ตรวจสอบพิสูจน์ทราบก่อนแจ้งข้อหา พร้อมเรียกพยานบุคคลสอบเพิ่มเติม
จากกรณีแม่ของเยาวชนชาย อายุ 14 ปี แจ้งความตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง หลังลูกชายถูก พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ทำร้ายร่างกายตบหน้า จับแก้ผ้าในโรงพยาบาล และไล่ออกจากโรงพยาบาล เพราะสูบบุหรี่ในห้องน้ำ และเมื่อแม่เด็กไปขอรับสิ่งของกลับพบถุงซิบบรรจุผงสีขาว อุปกรณ์การเสพ และในเวลาต่อมาเด็กยอมรับว่าเป็นเฮโรอีนซื้อมาเองจากในชุมชน
พันตำรวจเอกชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง เปิดเผยว่า กรณีเด็กวัย 14 จะแยกเป็น 2 คดี คือคดีที่เด็กเป็นผู้เสียหายถูกทำร้าย และคดีที่เจอสารเสพติดในถุงเสื้อผ้าของเด็ก โดยคดีที่เด็กเป็นผู้เสียหายถูกทำร้ายร่างกายในโรงพยาบาล ในวันนี้จะมีการเรียกสอบพยานเพิ่มเติม ซึ่งเป็นพยานที่พบเห็นเด็กเดินแก้ผ้าอยู่นอกโรงพยาบาล แต่จากพยานหลักฐานเบื้องต้น หมอเหรียญทอง จะเข้าข่ายความผิด 2 ข้อหา ทำร้ายร่างกายและความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพข่มขืนใจผู้อื่นถอดเสื้อผ้า
ส่วนอีกคดีเรื่องเจอสารเสพติดตในถุงซิปล็อก ช่วงเช้านี้ทางพนักงานสอบสวนจะนำหลักฐานทั้งเสื้อผ้าที่สวมใส่ ทรัพย์สิน และซองพลาสติกต้องสงสัยดังกล่าว ให้กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจตรวจสอบผงสีขาวที่อยู่ในซองว่าเป็นสารเสพติดประเภทใดและตรวจดีเอ็นเอ รอยนิ้วมือ ว่าเป็นของผู้ใด เกี่ยวข้องกับผู้ใดบ้าง รวมถึงเรียกเด็กและพยานเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่เก็บยึดเสื้อผ้าไว้ในคืนเกิดเหตุมาสอบด้วย
ทั้งนี้ ส่วนเรื่องที่เด็กให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนยอมรับว่า ซื้อเฮโรอีนดังกล่าวในราคา 50 บาท จากในชุมชน ทางพนักงานสอบสวนจะเชิญแม่และเยาวชนมาสอบปากคำพร้อมสหวิชาชีพเพิ่มเติม หากเด็กรับสารภาพกับตำรวจว่าเป็นยาเสพติดของตนเองจริง ก็จะนำคำให้การไปรวบรวมกับผลตรวจสอบซองพลาสติกของกองพิสูจน์หลักฐาน และดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ขณะที่ในช่วงบ่าย 2 ของวันนี้ ทนายรัชพล ศิริสาคร จะพาเด็ก 14 เข้าแจ้งความหมอเหรียญทอง ในข้อหาหมิ่นประมาท กรณีที่เรียกว่าไอ้กุ๊ย ขยะสังคม ที่ สน.ทุ่งสองห้อง.-สำนักข่าวไทย