เลขาฯ ป.ป.ส.ชี้ หากเป็นผู้ค้า ต้องยึดทรัพย์ทั้งหมด กี่เม็ดไม่มีผล

สำนักข่าวไทย 14 พ.ค. – เลขาฯ ป.ป.ส.เผยคดียาเสพติด ยึดทรัพย์นักค้าทั้งหมด กี่เม็ดไม่มีผล การแก้ไขจาก 5 เม็ด เป็น 1 เม็ด ขึ้นกับนโยบาย มุ่งให้โอกาสผู้เสพเข้าสู่การบำบัด ที่จะมีผลคือ คดีในชั้นศาลและผู้ต้องขังในเรือนจำเพิ่มขึ้น


พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวถึงกรณีการแก้ไขจำนวนครอบครองยาเสพติดผิดกฎหมายจาก 5 เม็ด เป็น 1 เม็ด และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประกาศยึดทรัพย์ตั้งแต่ 1 เม็ด ว่า ตามกฎหมายคดียาเสพติด หากพบหลักฐานเชื่อมโยงว่ามีพฤติการณ์เป็นผู้ค้า แม้ไม่พบยาเสพติดก็ให้ริบทรัพย์นักค้ายาเสพติดและเครือข่ายอยู่แล้ว ประเด็นคือ การยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด ถ้าเป็นผู้ค้าหรือสมคบค้า แม้ไม่มีตัวยาก็ยึดทรัพย์ ดังนั้น จำนวน 1 เม็ด ไม่มีผล เพราะถ้าค้าก็ยึดทรัพย์อยู่แล้ว ส่วนประเด็นการแก้จาก 5 เม็ด มาเป็น 1 เม็ด แล้วแต่มุมมอง ป.ป.ส.ในฐานะผู้ปฏิบัติ ไม่ว่ากำหนดกี่เม็ดก็ดำเนินการได้ จำนวนเม็ดเป็นการให้โอกาสในการเข้าสู่กระบวนการบำบัดมากกว่า จำนวนเม็ดจึงขึ้นกับนโยบาย

เลขาฯ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า กฎหมายมาตรา 107 วรรค 2 ระบุว่า การครอบครองยาเสพติดเล็กน้อยให้สันนิษฐานว่า ครอบครองเพื่อเสพ เปิดให้สมัครใจเข้าสู่การบำบัด ซึ่งกฎหมายให้ รมว.สาธารณสุข กำหนดว่าเล็กน้อยที่จำนวนกี่เม็ด ถ้าใครครอบครองยาบ้า ไม่มีพฤติการณ์ค้า หรือจำหน่ายและสมัครใจเข้าบำบัดก็ไปบำบัด แต่ถ้าครอบครองเกินจำนวนเม็ดที่กำหนด กฎหมายไม่ให้สันนิษฐานแล้วให้เป็นความผิดร้ายแรง อย่างปัจจุบันเกิน 5 เม็ด คือ หากพบ 6 เม็ด ก็มีโทษ 15 ปี ถ้าเปลี่ยนจาก 5 เม็ด เป็น 1 เม็ด ก็แสดงว่าครอบครอง 2 เม็ด ก็เป็นข้อหาร้ายแรงต้องจับกุมดำเนินคดีส่งศาล และส่งตัวเข้าเรือนจำ ต้องต่อสู้คดี ซึ่งก็จะเห็นภาพ คนไปอยู่ในคุกมากขึ้น ถ้าไม่มีเงินประกันตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนยากคนจนทั้งนั้นที่มียาเสพติด ก็จะไปอยู่ในเรือนจำมากขึ้น


เลขาฯ ป.ป.ส. กล่าวว่า การกำหนดไม่เกิน 5 เม็ด ถือเป็นผู้เสพ เพิ่งใช้แค่ 2 เดือน แต่กระแสมันไปแล้ว เมื่อคนเสพยาไม่ได้รับการบำบัด คลั่งยา ซึ่งเป็นมา 4-5 ปีแล้ว จะประกาศกี่เม็ดก็ไม่มีผล เพราะละเลยเรื่องบำบัดมานาน รัฐบาลนี้จริงจังให้ความสำคัญเรื่องการบำบัด และกำลังจะเห็นผลเพิ่มขึ้น ก่อนนี้เราเน้นจับกุม จะกี่เม็ด ป.ป.ส.ทำงานได้หมด แต่ต้องไม่เปลี่ยนเจตนารมณ์ของกฎหมายในการบำบัด ส่วนการริบทรัพย์เป็นมาตรการที่มุ่งตัดวงจรพ่อค้ายาเสพติด แต่ก็ต้องยอมรับว่าพ่อค้ารายใหญ่อยู่ต่างประเทศ ตนจึงทำโครงการเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อยเพื่อตัดวงจร โดยสรุปคือ หากเปลี่ยนเป็น 1 เม็ด ต่อไป 2 เม็ดก็ถูกต้องดำเนินคดี เบื้องต้นเลยคือข้อหาครอบครองและสู้คดีในชั้นศาล และสืบไปหากมีพฤติการณ์ค้า ต้องตามไปริบทรัพย์.-119-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ส่งชาวจีนกลับบ้าน

เสร็จสิ้นภารกิจส่ง 621 เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับจีน

จบภารกิจส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา รวม 3 วัน 13 เที่ยวบิน ส่งกลับชาวจีน 621 คน ที่เหลือต้องรอการเจรจา 3 ฝ่าย ไทย จีน และเมียนมา กำหนดแนวทางรับตัวอีกครั้ง

ทำบุญครบรอบแตงโมเสียชีวิต

เพื่อนสนิททำบุญครบรอบ 3 ปี “แตงโม” เสียชีวิต

กลุ่มเพื่อนสนิทของ “แตงโม ภัทรธิดา” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ จัดพิธีทำบุญครบรอบ 3 ปี การเสียชีวิตของนางเอกคนดัง ที่วัดปากน้ำ ซ.พิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง