คุม 2 ผัวเมียโกงเงินแหนมชื่อดังฝากขัง อ้างไม่มีเจตนาโกง ยินดีชดใช้คืน

กองปราบฯ 9 พ.ค. – คุมตัว 2 ผัวเมียโกงเงินแหนมดอนเมือง 400 ล้านบาท ส่งฝากขัง เจ้าตัวยังให้การภาคเสธ อ้างไม่ได้มีเจตนาโกง ร้องขอความเห็นใจไม่อยากติดคุก ยินดีชดใช้คืนเงินผู้เสียหาย


กรณีตำรวจกองบังคับการปราบปราม สนธิกำลังร่วมกับตำรวจ บก.ปอท. และเจ้าหน้าที่จาก ปปง. รวมกว่า 100 นาย เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 7 จุด ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี 5 จุด จ.นครนายก 1 จุด และ จ.นครราชสีมา 1 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหากลุ่มขบวนการทุจริตบริษัทแปรรูปแหนมดอนเมือง จนเกิดความเสียหายเกือบ 400 ล้านบาท

พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.2 บก.ป. สั่งการให้พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ทำการเบิกตัวนายธชธร อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และ น.ส.นภษร หรือไข่มุก อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ, ฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งเป็นสามีภรรยาผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีโกงเงินบริษัทแหนมดอนเมืองเกือบ 400 ล้านบาท ออกจากห้องคุมขัง เพื่อนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญา เบื้องต้นพนักงานสอบสวนทำหนังสือยื่นขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากคดีมีมูลค่าความเสียหายสูง


อย่างไรก็ตาม จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ตลอดทั้งคืน ทั้งคู่ยังคงยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยอมรับเพียงว่านำเงินของบริษัทออกมาจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาฉ้อโกง พร้อมขอความเห็นใจจากผู้เสียหายเพราะไม่อยากถูกดำเนินคดี และยินดีจะคืนเงินหรือทรัพย์สินมีค่าทั้งหมดที่ได้มากลับคืนให้กับทางบริษัท

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.2 บก.ป. ยังได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล รอง ผกก.2 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวเร่งดำเนินการตรวจสอบเช็คจำนวนทรัพย์สินที่ตรวจยึดมาได้จากการเข้าตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องหาและเครือญาติ เพื่อสรุปจำนวนส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ ปปง. ดำเนินการตรวจสอบที่ไปที่มาของทรัพย์สินให้แน่ชัดว่าได้มาจากการกระทำผิดหรือไม่

สำหรับทรัพย์สินที่ตรวจยึดและอายัดมาได้นั้น ประกอบด้วย กองทุน หุ้นกู้ ประกัน มูลค่า 200 ล้านบาท, พระเครื่อง นาฬิกาหรูกว่า 300 รายการ มูลค่าประมาน 100 ล้านบาท, โฉนดที่ดิน 24 แปลง, บ้านหรู บ้านพักตากอากาศ บ้านสวน และคอนโดหลายแห่ง, ทองคำน้ำหนัก 520 บาท มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท และรถหรู 5 คัน รวมถึงเงินสด 2.5 ล้านบาท รวมของกลางที่ตรวจยึดอายัดไว้ได้มูลค่ามากกว่า 300 ล้านบาท. -419-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง