สืบนครบาล รวบ “จินดาดวง” โจรต้มตุ๋นตัวแสบ

กทม. 5 พ.ค. – ถูกจับหลายรอบ ไม่เคยเข็ด สืบนครบาล รวบ “จินดาดวง” โจรต้มตุ๋นตัวแสบในโลกออนไลน์ อ้างยศ พ.ต.อ. ใช้สลิปปลอมหลอก


เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ , พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.พิสิทธิ์ เตชะรี สว.กก.สส.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 ชุดปฏิบัติการที่ 1 ดำเนินการ จับกุมตัว นายจินดาดวง อายุ 41 ปี ภูมิลำเนา แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” โดยจับกุมตัวได้ที่หอพักใน ซ.ลาดพร้าว 101 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ในคดีนี้ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า เมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2567 ตนได้ทำการสั่งซื้อกระเป๋า ยี่ห้อกุ๊ชชี่ ผ่านทางมาร์เก็ตเพลส โดยใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jindaduang Duangjinda เมื่อตกลงซื้อขายสินค้าแล้วผู้เสียหายกำลังจะส่งสินค้าให้ตน ก็จะส่งสลิปการโอนเงิน โดยเป็นสลิปที่ตนโหลดมาจากอินเตอร์เน็ต แล้วนำมาแก้ไขชื่อ แล้วส่งให้ทางผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ส่งสินค้าให้กับผู้ต้องหาไป ผู้เสียหายอ้างว่า เมื่อได้รับสินค้าแล้วก็จะนำไปขายตามร้านที่รับซื้อ โดยส่งผ่านแมสเซนเจอร์ แต่ทางร้านไม่รับซื้อเนื่องจากผู้เสียหายได้โพสต์เตือนภัยไว้ก่อนแล้ว แต่ตนก็ไม่ได้รับของคืนแต่อย่างได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ปักใจเชื่อแต่อย่างใด เนื่องจากเมื่อตรวจสอบประวัติเพิ่มเติมของนายจินดาดวงฯ แล้ว พบว่ามีประวัติก่อเหตุในลักษณะเดียวกันและถูกจับกุมมาแล้วหลายครั้ง


โดยครั้งล่าสุดถูกจับกุมตามหมายจับในข้อหาฉ้อโกงเมื่อประมาณปลายเดือนมกราคม คดี สน.ท่าข้าม ซึ่งปัจจุบันยังตรวจพบการเตือนภัยจากกลุ่มผู้ใช้โซเชียลมีเดียหลายราย ตรวจสอบพบประวัติและพฤติการณ์เดิมๆ จำนวนมากเกี่ยวกับพฤติการณ์ของผู้ต้องหารายนี้ เช่นเมื่อเดือนธันวาคม 2566 ถูกจับกุมตามหมายจับโดยก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายเป็นหญิงสาววัย 40 ปี ติดต่อขอเช่าซื้อพระเครื่อง จากผู้เสียหายผ่านทางแอปพลิเคชันแมสเซนเจอร์ ซึ่งได้ทำสลิปการโอนเงินปลอม หลอกผู้เสียหายว่าได้โอนเงินแล้ว จากนั้นได้ให้พนักงานไรเดอร์ขับไปรับพระมาส่งให้ตนเอง ซึ่งผู้ต้องหาได้มีการส่งสลิปมาให้ดู แต่ไม่ทันได้สังเกตและกดเข้าแอปไปดู ก่อนจะติดต่อไม่ได้แล้วหลบหนีไป ก่อนถูกจับกุมตัวได้ นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายเดินทางมาชี้ตัวที่ สน.โชคชัย

นอกจากนี้นายจินดา เคยถูกจับกุมเมื่อปี 2560 พร้อมของกลาง พระเครื่องหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ พร้อมกล่อง จำนวน 1 องค์ พระเครื่องหลวงหลวงพ่อโสธร พร้อมกล่อง จำนวน 1 องค์ โทรศัพท์มือถือยี้ห้อโนเกีย จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือซัมซุง จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ G-LIVE จำนวน 1 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่น มีโอ สีม่วงดำ จำนวน 1 คัน อ้างชื่อบิ๊ก ตร. ตุ๋นเช่านาฬิกาหรูมูลค่าเกือบล้านโดยผู้ต้องหาได้หลอกให้มีการนัดหมายเดินทางมาส่งมอบพระเครื่องที่ประกาศขายในเว็บไซต์ชื่อดัง โดยคนร้ายทำทีโทรศัพท์เข้ามาติดต่อเช่าพระเครื่องหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ และพระเครื่องหลวงหลวงพ่อโสธร มูลค่ากว่า 800,000 บาท ของเหยื่อ เมื่อถึงตามเวลานัดหมายทางคนร้ายได้ใช้กลอุบายแจ้งว่า ได้โอนเงินเข้าบัญชีไปแล้ว จำนวน 770,000 บาท และส่งหลักฐานให้ดู จนเหยื่อหลงเชื่อจึงได้มอบพระเครื่องดังกล่าวให้

ต่อมามีผู้เสียหายอีกรายเข้าแจ้งความกับทาง ตำรวจ สน.โชคชัย อีก โดยให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้โพสต์ขายนาฬิกา ยี่ห้อ โรเล็กซ์ รุ่น oysterflex BK M BLACK จำนวน 1 เรือน ราคา 645,000 บาท ผ่านทางเว็บไซต์ชื่อดัง ต่อมามีผู้ติดต่อขอซื้อ โดยอ้างว่ามีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ยศ พ.ต.อ. เป็นผู้สนใจจะซื้อ แต่ให้เจ้าตัวติดต่อแทน จากนั้นคนร้ายทำเนียน โดยนัดให้ผู้เสียหายนำนาฬิกามาให้ดูที่ สน.โชคชัย ในวันดังกล่าว เมื่อมาถึงผู้เสียหายได้ยืนพูดคุยกับผู้ต้องหาที่ด้านข้าง สน.โชคชัย จากนั้นคนร้ายอ้างว่าจะนำนาฬิกาขึ้นไปให้ นายตำรวจ บน สน. ดูที่ห้องทำงานชั้น 2 และพาผู้เสียหายเข้ามาให้นั่งรอที่ด้านในห้องพนักงานสอบสวนเวร จากนั้นผู้ต้องหาก็เอานาฬิกาจากผู้เสียหาย และทำทีเดินขึ้นไปที่ห้องทำงาน ผ่านไปสักพักผู้ต้องหาก็ไม่ลงมา ผู้เสียหายจึงพยายามโทรศัพท์ติดต่อ ปรากฎว่าปิดเครื่องไปแล้วไม่สามารถติดต่อได้ และตามตัวไม่พบ ผู้เสียหายจึงสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่านายตำรวจที่ถูกอ้างชื่อคนดังกล่าว ได้ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นนานแล้ว


จากการตรวจสอบประวัติในฐานระบบ พบประวัติดังนี้

  1. ปี 2556 ข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ของ สน. โชคชัย
  2. ปี 2560 ข้อหา ตัวการลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการ สน. โชคชัย
  3. ปี 2560 ข้อหา ตัวการลักทรัพย์ สน.โชคชัย
  4. ปี 2560 ข้อ ตัวการลักทรัพย์ ตามมาตรา 334 , 335, 335 ทวิ โดยแต่งเครื่องแบบทหารหรือตำรวจ หรือแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นทหารหรือตำรวจ หรือโดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด สน.โชคชัย
  5. ปี 2566 ข้อหา ตัวการฉ้อโกง สภ.สำโรงเหนือ
  6. ปี 2567 ข้อหา ฉ้อโกง สน.ท่าข้าม
  7. ปี 2567 ข้อหา ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น สน.ลาดพร้าว

จากนั้นได้นำตัว ส่งพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือน กลวิธีการหลอกลวงของมิจฉาชีพมีหลากหลายกลวิธี รวมถึงมีการซื้อขายโปรแกรมแก้ไขข้อมูลสลิปโอนเงินบนแอปฯธนาคาร เพื่อปลอมสลิปการโอนเงิน ซึ่งข้อมูลบนสลิปปลอมดังกล่าว ดูคล้ายกับสลิปที่มีการโอนเงินจริง ไม่ว่าจะเป็น ชื่อผู้รับโอน วันที่ เวลา และจำนวนเงิน แนะนำพ่อค้าแม่ค้า ระวังกลโกง ปลอมสลิปโอนเงินผ่านมือถือ แนะตรวจสอบเทียบกับยอดแจ้งเตือนจากธนาคารทุกครั้ง หรือสแกน QR Code บน E-slip เพื่อความถูกต้อง.-413-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]