ตำรวจภูธรภาค 1 บุกโกดังจับเครือข่ายยาเสพติด ยึดยาบ้ากว่า 4 ล้านเม็ด

ตำรวจภูธรภาค 1 2 พ.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 บุกโกดังจับกุมเครือข่ายยาเสพติด จ.สุพรรณบุรี ยึดยาบ้า 4,564,000 เม็ด มูลค่ากว่า 76 ล้านบาท


พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 ร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร่วมแถลงข่าวจับกุมยาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้า 4,564,000 เม็ด มูลค่ากว่า 76,500,000 บาท

โดยกรณีดังกล่าวได้ขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบลำเลียงยาเสพติดกว่า 1.4 ล้านเม็ด ที่อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา จนสืบทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือแล้วมาเก็บไว้ที่อาคารพาณิชย์ ตำบลสระแก้ว อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ที่บริเวณด้านหลังเป็นโรงสีร้าง จึงได้วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ จนพบนายสมประสงค์ ขับรถเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น และยังพบนายทัชชกร หรือโหน่ง อยู่ที่บริเวณชั้น 4 ของบ้าน


ผลการตรวจค้นพบเครื่องอัดเม็ดยา 1 เครื่อง, ของกลางยาบ้าชนิดเม็ดจำนวน 4,564,000 เม็ด ซุกซ่อนในรถยนต์ 2 คัน และยาบ้าลักษณะเป็นผง รออัดเม็ดบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส น้ำหนักรวมประมาณ 18 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือยาบ้า โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและก่อให้เกิดการแพร่กระจายต่อสาธารณชน ทั้งนี้ ยาเสพติดจำนวนดังกล่าวหากนำไปจำหน่ายในท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 76,500,000 บาท หลังจากนี้จะขยายผลไปยังเครือข่ายที่อยู่เบื้องหลัง รวมถึงตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเพื่อบังคับใช้มาตรการยึดทรัพย์ต่อไป

พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองรายรับสารภาพในข้อหาครอบครองยาเสพติด และยอมรับว่าแท่นผลิตดังกล่าวอยู่ในครอบครองของตนเอง แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาผลิตจึงยังไม่มีข้อมูลมากนัก แต่จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป

ส่วนเครื่องอัดยาฯ เป็นเครื่องขนาดเล็กไม่มีความซับซ้อน มีทั้งหมด 7 หัวตอก ตอกได้ครั้งละเม็ด อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีกำลังการผลิตนาทีละกี่เม็ด และเนื่องจากเครื่องดังกล่าวมีน้ำหนักมาก แม้จะสามารถบรรจุใส่ในรถยนต์ได้แต่คาดว่าจะใช้ผลิตภายในบ้านมากกว่า ขณะที่ส่วนผสมของยาฯ เบื้องต้นพบว่าใช้ยาบ้าที่เสียหรือขึ้นรามาผสมกับส่วนผสมอื่นเพื่อผลิตในปริมาณที่มากขึ้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าใช้ส่วนผสมใดบ้าง ทั้งสารเสพติด และแป้งสีที่ใช้ผสม และตรวจสอบว่าสูตรการผสมมาจากแหล่งใด


ด้านนายอนุทิน คาดว่า สำหรับแท่นผลิตยาดังกล่าวคาดว่าจะนำยาบ้าคุณภาพต่ำและส่วนผสมอื่นๆ มาผสมในอัตราเท่าตัวเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตยาบ้าจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายของผู้เสพมากขึ้น. -420 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง