ตร.เตรียมนำอดีตพนักงานสาวบริษัทดังส่งฟ้องศาล 10 พ.ค.นี้ คดีเมาแล้วขับปี 65

กรุงเทพฯ 2 พ.ค. – ตำรวจเตรียมนำอดีตพนักงานสาวบริษัทดังส่งฟ้องศาล คดีเมาแล้วขับปี 65 วันที่ 10 พ.ค.นี้ ยอมรับพนักงานสอบสวนบกพร่องดองสำนวนคดี แต่ยันไม่มีเรื่องเงิน


ตามที่ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งตรวจสอบข้อจริงกรณีพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ยังไม่ส่งฟ้องคดีผู้บริหารสาวเคยถูกจับกุมดำเนินคดีเมาแล้วขับครั้งแรก เมื่อปี 2565 แต่คดียังค้างอยู่ที่ สน.ประเวศ พนักงานสอบสวนยังไม่ได้ส่งฟ้อง โดยมีการแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.นิภพล สุขนิยม รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น

พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผล แต่เบื้องต้นคดีของอดีตพนักงานสาวรายนี้ ต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือ คดีล่าสุดแบ่งเป็น 2 คดี คือ คดีทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน และคดีเมาแล้วขับ โดยคดีทำร้ายร่างกายถือเป็นการกระทำที่ไม่ถึงแก่กาย (ไม่ได้รับบาดเจ็บ)​ แต่จากการให้สัมภาษณ์ของผู้ต้องหากับสื่อมวลชนยอมรับว่าได้ถีบใบหน้าจริง แต่มีหมวกกันน็อคกั้นไว้ ทาง รอง ผกก.จราจร ซึ่งเป็นผู้เสียหายไม่ติดใจ แต่ติดใจคำพูดที่ดูถูกลูกน้องเท่านั้น ส่วนกรณีเมาแล้วขับพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ 104 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ตรงนี้พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการตามขั้นตอน อยู่ระหว่างการพิมพ์ลายนิ้วมือ และรวบรวมพยานหลักฐาน และจะมีการส่งฟ้องในภายหลัง


ในส่วนคดีเก่าข้อหาเมาแล้วขับ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2565 เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า ยังไม่มีการสั่งฟ้องถือว่าเป็นความบกพร่องของพนักงานสอบสวนคนเก่าที่อยู่ สน.ประเวศ แต่ปัจจุปันย้ายไปแล้ว​ ซึ่งอยู่คนละกองบังคับการกัน ทำให้ตนเองต้องทำหนังสือรายงานส่งไปกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพราะอยู่นอกอำนาจ บก.น.4 จึงต้องให้ ผบช.น. เป็นผู้พิจารณาสั่งการและตรวจสอบว่าการทำสำนวนไม่เรียยร้อย ทางผู้บังคับบัญชาก็จะตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย

ส่วนการที่พนักงานสอบสวนคนดังกล่าวอ้างว่าทำสำนวนเสร็จเรียบร้อยก่อนโยกย้ายไป สน.แห่งใหม่ เป็นสิ่งที่ตัวพนักงานสอบสวนพูด จะพูดอย่างไรก็ได้ แต่เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าสำนวนคดีไม่เรียบร้อยจริง และในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาได้เป่าแอลกอฮอล์อยู่ 69 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่ตัวผู้ต้องหาปฏิเสธว่าได้มีการฉีดแอลกอฮอล์ บริเวณแขนลำตัว และเครื่องเป่า ทำให้แอลกอฮอล์ที่ตรวจวัดได้ ไม่ได้เกิดจากการดื่มกิน จึงร้องขอให้พนักงานสอบสวนส่งแอลกอฮอล์ไปตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ก่อนจะได้รับผลตอบกลับมาว่าไม่เกี่ยวกันเลย

สำหรับคดีที่ไม่เรียบร้อยและไม่ส่งฟ้องนั้น ขณะนี้ได้ประสานตัวอดีตพนักงานสาว ซึ่งเป็นผู้ต้องหา ว่าจะมีการนำไปส่งฟ้องในวันที่ 10 พ.ค.นี้ ส่วนเรื่องความไม่เรียบร้อยของสำนวนคดีถือว่ามีความผิดพลาด ส่วนจะพิจารณาอย่างไรก็ขึ้นอยู่คณะกรรมการตรวจสอบ พร้อมกับยืนยันว่าไม่มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องกับสำนวนแต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องเล็ก แต่อาจเป็นเพราะพนักงานสอบสวนประมาท หรือขี้เกียจ


ส่วนที่มีข้อบกพร่องแต่กลับได้เลื่อนชั้นยศ มองว่าไม่เหมาะสมนั้น มองว่าในตอนนั้นต้นสังกัดไม่รู้เรื่องและเพิ่งมารู้ และเมื่อรู้แล้วก็ได้มีการลงโทษ ส่วนระยะเวลาที่ส่งสำนวนสั่งฟ้องล่าช้านานกว่า 2 ปีนั้น ถือว่าไม่เป็นอุปสรรคในการนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องแต่อย่างใด พร้อมกันนี้ได้ขอฝากไปยังประชาชนเมาแล้วอย่าขับ เพราะมีตัวอย่างให้เห็นว่า หลายคดีมีถึงขั้นตำรวจเสียชีวิต ซึ่งส่วนตัวไม่ห่วงเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจแต่เป็นห่วงประชาชนมากกว่าที่จะได้รับความเดือดร้อนทั้งชีวิตและทรัพย์สิน.-416-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้