กทม. 28 เม.ย.- “กัน จอมพลัง” พาแม่และลูกสาววัย 8 เดือน ชาวเมียนมา ขอความเป็นธรรม หลังถูกภรรยาเก่าของสามีบุกราดน้ำกรด ทำให้ลูกสาววัย 8 เดือน เจ็บสาหัส
วันนี้ 28 เม.ย. 2567 เวลา 15.00 น. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้พาเกตี (นามสมมติ) อายุ 28 ปีและลูกน้อยวัย 8 เดือน ที่ถูกภรรยาเก่าของสามีบุกราดน้ำกรดจนทำให้แม่หูหลุด หน้าเหลวผิดรูป แขนใช้ได้ข้างเดียว เละทั้งตัว ส่วนลูกน้อยวัย 8 เดือน ตาบอด 2 ข้าง หน้าและตัวเละเหลวผิดรูป
โดย “กัน จอมพลัง” ระบุว่า ทีมงานได้รับประสานและเดินทางไปรับ 2 แม่ลูกมาจาก จ.กาญจนบุรี เดินทางมาพบตนที่กรุงเทพฯ โดยทั้ง 2 คน ถูกผู้หญิงที่เป็นภรรยาเก่าของสามี เอาน้ำกรดราดตามตัว ขณะที่กำลังอาบน้ำให้ลูกน้อยวัย 2 เดือน มีการราดน้ำกรดที่ศีรษะ ทำให้น้ำกรดไหลลงมาที่แขนและตามตัว ตอนโดนราดแม่พยายามนั่งนิ่งๆ ไม่ให้ลูกสาววัย 2 เดือนโดนน้ำกรดไปด้วย ทำให้หูข้างขวาขาด ศีรษะละลายจนเห็นกะโหลก และมีแผลตามตัว จากนั้นภรรยาเก่าเห็นลูกน้อยอยู่ด้านหน้าก็นำน้ำกรดมาราดที่ลูกน้อยอีก ทำให้ลูกสาวตาบอดทั้ง 2 ข้าง จมูกหาย ตัวเละเหลว จนต้องเจาะคอเพื่อหายใจ ทั้งคู่รอด แต่ใช้ชีวิตลำบาก และต้องใช้เงินรักษาตัวจำนวนมาก
หลังจากเกิดเหตุสามีของเกตีพยายามวิ่งไล่ตาม แต่ไม่สามารถจับตัวได้ จากนั้นแม่ก็สลบไปและฟื้นอีกทีที่โรงพยาบาล สามีก็มาเยี่ยมเป็นพักๆ ก่อนขาดการติดต่อไปเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทราบว่า ตอนนี้สามีมีภรรยาใหม่แล้ว และทิ้งลูกทิ้งเมียเก่าให้อยู่กับความทุกข์ทรมาน ก่อนออกจากโรงพยาบาลได้ทักไปขอความช่วยเหลือเรื่องที่พัก เพื่อจะรักษาตัว แต่สามีตอบกลับมาเพียงว่า “ไม่รู้” และเงียบหายไป เลยตัดสินใจมาขอความช่วยเหลือกับทาง “กัน จอมพลัง” เพราะอยากให้แขนกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม และอยากให้ลูกมองเห็นและเดินได้เหมือนเด็กปกติ
ในวันเกิดเหตุ เกตีรู้ว่าฝ่ายชายยังไม่เลิกกับภรรยา แต่มาอ้างกับตนว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นภรรยาเก่า จึงตัดสินใจจะย้ายและขนของออกตอน 22.00 น. ของวันนั้น แต่เหตุเกิดตอน 18.00 น. ซึ่ง “กัน จอมพลัง” สังเกตว่าเป็นการชี้เป้าหรือไม่ อีกทั้งภรรยาเก่ายังตามราวีตลอดในช่วงก่อนคลอด ทั้งส่งยาทำแท้งมาให้ โพสต์รูปเกตีลงในโซเชียล ว่า ผู้หญิงคนนี้ขายบริการ สนใจให้ติดต่อที่ตนได้เลย
ส่วนเรื่องคดี หลังจากทั้งคู่ออกจากโรงพยาบาลได้เดินทางไปแจ้งความเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่ฝั่งเมียนมา หลังจากนั้นก็ได้เดินทางมาแจ้งความที่ สภ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี แต่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ต้องให้ทางเมียนมาโอนคดีมาฝั่งไทย และรับปากจะช่วยอย่างเต็มที่
เกตี เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อ 19 ตุลาคม 2566 เวลา 5-6 โมงเย็น ขณะนั้นตนกำลังอาบน้ำให้ลูกน้อย และในขณะเดียวกันมีผู้หญิงทักมาหาว่า “มึงอยู่ไหน ให้ผัวกูรับสายหน่อย” แต่ตนไม่ได้โต้ตอบอะไร ผู้หญิงคนนั้นก็ถามย้ำว่า “อยู่ไหน ให้มาเคลียร์” จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เดินมาจากข้างหลังเพื่อลงมือก่อเหตุดังกล่าว ตอนนั้นเห็นลูกร้องแล้วรู้สึกทรมานมาก อยากเป็นแทนลูก อยากตายแทนลูก หลังจากนั้นลูกสาวก็ร้องไห้เพราะเจ็บปวดอยู่ตลอด ตัวเองก็ปวดทั้งตัวทรมานมาก แขนข้างซ้ายตนไม่สามารถเหยียดตรงได้ ลูกสาวตาซ้ายบอดสนิท ตาขวาหมอบอกว่าสามารถผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาได้ แต่ค่าใช้จ่ายหลักแสนบาท และขาลูกสาวก็ไม่สามารถเหยียดตรงได้ ส่งผลให้ลูกสาวไม่สามารถเดินหรือคลานได้ ซึ่งตอนนี้ตนมีเงินติดตัวเพียง 30 บาท มาขอความช่วยเหลือกับ “กัน จอมพลัง” เพราะเชื่อว่าจะช่วยเหลือได้ โดยค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด 450,000 บาท แม่ของอดีตสามีเป็นคนดูแลทั้งหมด แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ช่วยเหลือต่อเนื่องจากปัญหาทางการเงิน ตอนนี้ก็ต้องคอยรักษาตลอด เวลานอน และตื่นอนก็จะปวดตามตัวไปหมด
“กัน จอมพลัง” ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ 10.00 น. ตนจะพาทั้งคู่ไปพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอความช่วยเหลือทางคดี และในช่วงบ่าย จะพาทั้งคู่ไปที่สถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย เพื่อขอขยายวีซ่าให้ทั้งคู่ได้รักษาตัวต่อในประเทศไทย -420 .-สำนักข่าวไทย