ทนาย “แอม ไซยาไนด์” ร้องเอาผิด “บิ๊กโจ๊ก-ลูกน้อง” ตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ

กรุงเทพฯ 26 เม.ย. – “บิ๊กโจ๊ก” และลูกน้องนับ 100 นาย งานเข้า! ถูกทนายของ “แอม ไซยาไนด์” ใช้โอกาสคดีครบ 1 ปี ร้องอัยการเอาผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ พร้อมเผย “แอม” มีความสำนึกผิดบ้างแล้ว


นางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณรัตน์ หรือทนายพัช ทนายความของนางสาวสรารัตน์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ยื่นหนังสือพร้อมหลักฐานให้นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ตรวจสอบดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล คณะพนักงานสอบสวน และชุดจับกุมตามความผิด พ.ร.บ.อุ้มหายฯ

ทนายพัช กล่าวว่า ช่วง 1 ปีที่ผ่าน หลังลูกความ “แอม” ถูกจับดำเนินคดีในฐานะทนายความได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนพบการกระทำ 7 กรณี ที่เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.อุ้มหาย เช่น วันจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ศูนย์ราชการฯ ซึ่งชุดจับกุมถ่ายวิดีโอไว้ แต่เป็นการถ่ายไม่ต่อเนื่อง และควบคุมตัวผู้ต้องหาไปที่สโมสรตำรวจพบกับนักข่าว ทั้งที่ความจริงจะต้องพาไปสอบสวนที่กองปราบปราม หน่วยงานที่ขอศาลออกหมายจับ และบางช่วงชุดจับกุมคุมตัวผู้ต้องหาไปยังร้านกาแฟ บริเวณสนามฟุตบอล และปล่อยให้นั่งเฉย ๆ ซึ่งมองว่าไม่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนดำเนินคดี และไม่ทราบว่าพาผู้ต้องหาไปทำไม รวมทั้งกรณีเข้าไปพบผู้ต้องหาในเรือนจำเพื่อสอบสวนให้รับสารภาพ จนภายหลังผู้ต้องหาแท้งลูก จึงต้องการให้สอบสวนว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดด้วยหรือไม่ เนื่องจากบางช่วงที่ตำรวจเข้าไปในเรือนจำเป็นวันหยุดราชการ หรือช่วงหลังเวลาราชการแล้ว


ทั้งนี้ ที่ยกตัวอย่างมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เป็นการกระทำของชุดกับกุมและพนักงานสอบสวนที่เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.อุ้มหายฯ โดยยื่นให้ตรวจสอบดำเนินคดีประมาณ 100 คน รวมทั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนในขณะนั้น

ทนายพัช ยืนยันที่ฟ้องดำเนินคดีกับ “บิ๊กโจ๊ก” และพวกช่วงนี้เป็นเพราะครบรอบ 1 ปีคดี “แอม ไซยาไนด์” ไม่ใช่เป็นเพราะ “บิ๊กโจ๊ก” อยู่ในช่วงขาลง เนื่องจากเป็นการฟ้องตามข้อเท็จจริง ซึ่งในฐานะที่ “บิ๊กโจ๊ก” เป็นผู้บังคับบัญชา หากลูกน้องกระทำความผิดก็ต้องร่วมรับผิดด้วยกึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ช่วงก่อนสงกรานต์ ตนได้เข้าไปเยี่ยม “แอม” ในเรือนจำ พบว่าสภาพไม่ดีเท่าไหร่ แต่สวยขึ้นหลังแท้งลูกดูปราดเปรียวขึ้น เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างดี และดูแล้วมีสำนึกในการกระทำอยู่บ้าง แต่ยังบ่นคิดถึงลูก

ด้านนายวัชรินทร์ ระบุว่า ในฐานะศูนย์ป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย กทม. หลังรับเรื่องจะตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน รวมถึงข้อกฎหมายโดยมอบให้อัยการที่เกี่ยวข้องรับดำเนินการ เนื่องจากต้องพิจารณาในสิ่งที่ทนายยื่นเอกสารหลักฐานให้ว่าเข้าข่าย ความผิดมาตรา 6 และมาตรา 7 พ.ร.บ.อุ้มหายฯ หรือไม่ ส่วนมาตรา 42 เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาก็ต้องพิจารณาว่ามีการกระทำที่เกี่ยวข้องผิดหลักกฎหมายดังกล่าวหรือไม่


รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ยังกล่าวอีกว่าประชาชนทั่วไป หากถูกเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าจะหน่วยงานใด ซ้อมให้สารภาพในชั้นจับกุม หรือแม้กระทั่งการควบคุมตัว ก็สามารถมาร้องเรียนได้หากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ซึ่งจะมีคณะกรรมการตรวจสอบและหากภายหลังพบว่าเรื่องที่ร้องเรียนเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีมูลความผิด ประชาชนผู้ที่ร้องเรียนก็จะไม่มีความผิด ทั้งแพ่ง และอาญา เช่นกัน. -412-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ