ตำรวจภาค 1 จับเครือข่ายยาเสพติด ยึดยาบ้า 5 ล้านเม็ด

26 เม.ย. – ตำรวจภูธรภาค​ 1 ขยายผลจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด รับจ้างขนมาจากภาคเหนือนำมาพักไว้ที่ จ.สระบุรี ก่อนทยอยขนเข้าเขตภาคกลางและกรุงเทพฯ ได้ของกลางยาบ้ารวม 5.3 ล้านเม็ด มูลค่าสูงถึง 150 ล้านบาท


ตำรวจภูธรภาค​ 1 ขยายผลจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด​ ซึ่งได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมมา​ 4-5 เดือน​ โดยในช่วงแรกผู้ค้าไปรับยาเสพติดจากกลุ่มชาติพันธุ์​ซึ่งรับจ้างขนยามาส่งให้บริเวณชายแดนภาคเหนือ​ ก่อนนำยาทั้งหมดมาพักไว้ในโกดัง​ จ.สระบุรี​ และเริ่มทยอยขนย้ายยาเสพติดมาพักไว้ใน​ อ.หนองเสือ​ จ.ปทุมธานี​ เตรียมส่งให้ลูกค้าในเขตภาคกลางและกรุงเทพ​ฯ​ ซึ่งก่อนที่ของกลางทั้งหมดจะถูกกระจายถึงมือผู้เสพ​ ตำรวจเข้าตรวจค้นจับกุม​ ยึดยาบ้าได้​ 5 ล้าน​ 3 แสนเม็ด​ หากยาบ้าลอตนี้หลุดไปถึงมือผู้เสพจะมีมูลค่าสูงถึง​ 150 ล้านบาท

โดยได้ของกลางเป็นยาบ้าบรรจุหีบห่อ​ รวมทั้งหมด​ 5​ ล้าน​ 3 แสนเม็ด​ อาวุธปืน​ พร้อมเครื่องกระสุน​ อีกจำนวนหนึ่ง​ และบัตรเอทีเอ็ม​ สมุดบัญชีธนาคาร​ จากเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด​ ที่ตำรวจภูธรภาค​ 1 สืบสวนขยายผลไปจับกุมได้ที่บ้านเช่า​แห่งหนึ่ง​ใน​ อ.หนองเสือ​ จ.ปทุมธานี ซึ่งบ้านเช่าหลังนี้ถูกใช้เป็นโกดังเก็บยาเสพติด​ เตรียมส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพฯ รวมถึงเขตปริมณฑล​


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ​ พันธุ์​เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ​ เปิดเผยว่า ยาเสพติดลอตนี้​ เครือข่ายผู้ค้าไปขนยามาจากภาคเหนือ​ ซึ่งมีเครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์​เป็นผู้ลำเลียง​จากชายแดนมาส่งให้​ ทั้งนี้ จากข้อมูลของชุดสืบสวน​ ทราบว่าก่อนยาบ้าทั้งหมดจะถูกนำมาพักไว้ใน​ อ.หนองเสือ​ จ.ปทุมธานี​ ผู้ต้องหาได้นำของกลางไปพักไว้ในโกดังแห่งหนึ่ง​ อ.หนองแค​ จ.สระบุรี​ เมื่อใกล้เวลาจะส่งมอบยาเสพติดให้กับลูกค้าจึงทยอยนำมาไว้ที่​ อ.หนองเสือ​ จ.ปทุมธานี​ โดยขณะตำรวจเข้าตรวจค้น​ พบผู้ต้องหา​ 2 คน​ ซึ่งเป็นแฟนกัน​ แต่ฝ่ายชายไหวตัวทันกระโดดลงน้ำหลบหนีไป ทิ้งแฟนสาวให้ถูกตำรวจจับกุม​ และจากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาเป็นเครือข่ายเดียวกันกับ ทีมโกดัง​ เอ็ม​ โรนิน​ สิงห์บุรี​ ซึ่งเครือข่ายนี้เคยถูกจับกุมไปแล้วหลายคน​ มีผู้คอยอยู่เบื้องหลังสั่งการและขณะนี้หลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน​ ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี​

ทั้งนี้​ หากยาบ้าลอตนี้ เล็ดรอดไปถึงมือผู้เสพ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชั้นใน​ ตามเป้าหมายของผู้ค้า​อจะมีมูลค่าสูงถึง​ 150 ล้านบาท​ และนอกจากจับกุมผู้ต้องหา​ ยึดของกลางไว้เผาทำลาย​ ตำรวจและเจ้าหน้าที่​ ป.ป.ส.ยังขยายผลตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ค้า​ เพื่อนำไปสู่การยึดทรัพย์ด้วย

ด้านนาย​ชาดา​ ไทยเศรษฐ์​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย​ ได้มาร่วมแถลงข่าวครั้งด้วย​ พร้อมระบุว่า​ นโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล​ ไม่ได้มุ่งเน้นทำหน้าที่เพียงแค่ตำรวจ​ แต่ทุกฝ่ายต้องทำงานร่วมกัน​ เพราะเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดไม่ได้ทำผิดเพียงแค่ค้ายา​ แต่ยังมีเรื่องของการฟอกเงินเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย​ อีกทั้งแต่ละเครือข่ายก็มีวิธีหลบหลีกตบตาเจ้าหน้าที่​ หาช่องทางหลีกเลี่ยงการถูกตรวจค้นจับกุม​ ตำรวจและทุกหน่วยจึงต้องวางมาตรการในการปราบปรามสกัดกั้นให้ทันกับเล่เหลี่ยม​กลุ่มผู้ค้า. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก