สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 17 เม.ย. – “อัจฉริยะ” เข้าให้ข้อมูลปมบ่อนพนันบางใหญ่กับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตร. แฉตำรวจอีก 4 หน่วย มีเอี่ยวรับส่วย
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีบ่อนการพนันขนาดใหญ่ในพื้นที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ตามคำเชิญจากคณะกรรมการฯ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ได้เข้ามามอบข้อมูลและให้ถ้อยคำกับ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนข้อเท็จจริงในคดีนี้ โดยเป็นข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยงานที่รับส่วยจากบ่อนแห่งนี้ ทั้งฝ่ายปกครอง และตำรวจอีก 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี และตำรวจภูธรบางใหญ่ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆ ซึ่งมีข้อมูลว่ามีการจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 หน่วยงาน เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าหน่วยละ 5 ล้านบาท/เดือน รวม 4 หน่วย ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท/เดือน และจ่ายเป็นเงินสด ไม่โอนผ่านบัญชี มีตำรวจระดับล่างเป็นหน้าเสื่อคอยเก็บเงินจากบ่อน
ส่วนการพิจารณาบทลงโทษกับตำรวจที่รับผิดชอบนั้น นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนเองไม่เห็นด้วยกับการสั่งย้าย 5 เสือโรงพัก ผู้การจังหวัดนนทบุรี และผู้การศูนย์สืบภาค 1 ระหว่างการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ไม่ดำเนินการย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยอื่นที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นการเลือกที่รักมักที่ชังหรือไม่ แสดงให้เห็นถึงกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงของตำรวจยังมีการเลือกปฏิบัติ
นายอัจฉริยะ ยังระบุถึงมูลเหตุการเข้าทลายบ่อนดังกล่าวว่า เกิดจากความขัดแย้งผลประโยชน์เรื่องการประมูลงานภายในหน่วยงานกรมการปกครองของกระทรวงมหาดไทย ทั้งในระดับท้องถิ่นและส่วนกลาง แต่ไม่เกี่ยวข้องกับตำรวจ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นการวางงาน เนื่องจากบ่อนต่างๆ ในพื้นที่นครบาลได้ปิดไป 2 วัน ก่อนมีปฏิบัติการเข้าทลายบ่อน ทำให้นักพนันพากันมาเล่นที่บ่อนดังกล่าว จนสามารถจับนักพนันได้จำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย