DSI-อัยการ มีมติแจ้งข้อกล่าวหา 9 ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ กรณี “ลุงเปี๊ยก”

11 เม.ย.-DSI ร่วมอัยการ มีมติแจ้งข้อกล่าวหา 9 ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ กรณี “ลุงเปี๊ยก” ตามกฎหมายป้องกันปราบปรามการทรมานฯ


ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับกรณี ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ถูกกล่าวหาว่าบังคับหรือทรมานให้นายปัญญา หรือ “ลุงเปี๊ยก” รับสารภาพในคดีฆาตกรรมนางบัวผัน หรือ “ป้าบัวผัน” ที่ถูกเยาวชนรุมทำร้ายจนเสียชีวิตเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเข้าข่ายเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ โดยเป็นคดีพิเศษที่ 9/2567 และแจ้งการรับคดีพิเศษไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อรับทราบและมอบหมายให้พนักงานอัยการเข้ามาร่วมตรวจสอบแล้วนั้น

วานนี้ (10 เม.ย.67) คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 9/2567 นำโดยนายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ได้ประชุมร่วมกับ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด และคณะพนักงานอัยการ โดยที่ประชุมมีมติร่วมกันว่าทางคดีมีพยานหลักฐานพอแจ้งข้อกล่าวหาข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ ที่เกี่ยวข้องจำนวน 9 นาย ประกอบด้วย ระดับสัญญาบัตร 6 นาย และระดับประทวน 3 นาย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ


กลุ่มที่ 1 เกี่ยวข้องกับการควบคุมตัวลุงเปี๊ยก จำนวน 8 นาย ประกอบด้วยตำรวจระดับสัญญาบัตร 5 นาย และระดับประทวน 3 นาย มีหลักฐานพอแจ้งข้อหาในความผิดฐาน “เป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการร่วมกันกระทำการควบคุมตัวบุคคลโดยมิชอบ” อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 22 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 309 มาตรา 310 ประกอบมาตรา 83

กลุ่มที่ 2 พบการปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามกฏหมายแต่ยังไม่พบพยานหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการควบคุมลุงเปี๊ยก เป็นระดับสัญญาบัตร 1 นาย โดยแจ้งข้อหาในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

หลังจากนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะมีหนังสือแจ้งให้ทุกนายมารับทราบข้อกล่าวหาซึ่งผู้ถูกกล่าวหาทุกนายมีสิทธิ์ที่จะนำข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนมาให้สอบสวนรวบรวมในสำนวนการสอบสวนได้ ทั้งนี้ เมื่อทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ในกลุ่มแรก พนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการเพื่อดำเนินการตาม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการกระทำทรมานฯ มาตรา 31 วรรคท้าย และแจ้งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทราบ ส่วนกลุ่มที่สอง หากพบว่าเป็นคดีความผิดที่อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะได้พิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป. -119-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ก.อุตฯ เตรียมส่งตรวจเหล็กตึก สตง. เพิ่ม 21 เม.ย.

ก.อุตสาหกรรม กางผลตรวจเหล็กตึก สตง.ถล่ม รอบแรก ก่อนส่งตรวจเพิ่มอีก 40 ท่อน 21 เม.ย. ย้ำผิดคือผิด! ผู้ผลิต-จนท.มีเอี่ยว เตรียมปิดเทอม

พายุฝนพัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี ทับโรงครัววัดพังราบ

พายุฝนลมกระโชกแรง ซัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี วัดนางเหลียว ล้มทับโรงครัวพังเสียหาย ชาวบ้านในงานศพตื่นตระหนก วิ่งหนีกระเจิง

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง.ถล่ม เข้าสู่วันที่ 24 เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง