รวบหนุ่มคลั่งซิ่งเก๋งชนรถตำรวจทางหลวงพังยับ

28 มี.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหนุ่มหมายจับติดตัวคลั่ง ซิ่งเก๋งชนรถตำรวจทางหลวงยับ สุดท้ายไม่รอด โดนรวบทันควัน


ตำรวจ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.(ชุมพร) ได้ร่วมกันจับกุม นายพงค์พันธ์ อายุ 38 ปี โดยจับกุมได้บริเวณริมถนนทางหลวงสายเอเชีย 41 กม. 55-56 (ขาล่องใต้) ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ออกตรวจพื้นที่มาถึง กม.20-21 ทล.41 ต.วิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้พบรถเก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า แอคคอต สีเทา ขับแซงรถวิทยุตรวจการณ์ของเจ้าหน้าที่ไปทางด้านขวามือ เจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตเห็นว่ารถคันดังกล่าวมีลักษณะผิดปกติน่าสงสัย และไม่ติดป้ายทะเบียนด้านหน้ารถ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวหยุด


เมื่อรถคันดังกล่าวหยุด เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและขอตรวจสอบภายในรถคันดังกล่าว พบชาย 4 คน นั่งโดยสารอยู่ในรถคันดังกล่าว เจ้าที่ชุดจับกุมจึงขอตรวจสอบภายในรถคันดังกล่าว ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ก่อนจะขอทำการตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนของบุคคลภายในรถ ซึ่งในระบบฐานข้อมูล CCOC ปรากฏว่าบุคคลที่โดยสารมา เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดจำนวนหลายคดี โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ขอทำการตรวจสอบบัตรประชาชนอยู่นั้น

นายพงค์พันธ์ ไม่ยินยอมให้บัตรประชาชนแก่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ โดยบ่ายเบี่ยงว่าไม่ได้พกบัตรประจำตัวประชาชนมา พร้อมอ้างว่าไม่สามารถจดจำหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของตนเองได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงขอเชิญตัวนายพงค์พันธ์ ไปทำการตรวจสอบประวัติบุคคลที่สถานีตำรวจทางหลวงชุมพร แต่เมื่อนายพงค์พันธ์ เห็นว่าเจ้าหน้าที่จะทำการเชิญตัวตนเองไปตรวจสอบ จึงรีบวิ่งขึ้นรถคันดังกล่าว ก่อนขับรถหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถวิทยุตรวจการณ์หมายเลขข้างรถ 2405 ติดตามไป และได้แจ้งให้รถวิทยุตรวจการณ์หมายเลข 2408 ช่วยสกัดจับรถคันที่นายพงค์พันธ์ ขับหลบหนีด้วย

เมื่อรถวิทยุตรวจการณ์ ขับติดตามทันรถของนายพงค์พันธ์ ขณะนั้นเองนายพงค์พันธ์ได้ชะลอรถ ก่อนถอยหลังพุ่งชนรถของเจ้าหน้าที่ และพยายามกลับรถเพื่อจะวิ่งพุ่งชนรถของเจ้าหน้าที่อีกหลายครั้ง ลักษณะจงใจให้เสียหาย เป็นเหตุให้รถวิทยุตรวจการณ์หมายเลข 2405 หักหลบลงไหล่ทาง ได้รับความเสียหายไม่สามารถวิ่งติดตามต่อไปได้ เจ้าหน้าที่ประจำรถ 2405 จึงได้แจ้งให้รถวิทยุตรวจการณ์หมายเลข 2408 ทราบ และเข้าติดตามจับกุมต่อไป
ต่อมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประจำรถวิทยุตรวจการณ์ 2408 ว่าสามารถไล่ติดตามรถของผู้ต้องหาคันดังกล่าวไปจนถึง กม.55(ขาล่องใต้) ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ก่อนที่รถผู้ต้องหาจะทำการกลับรถ และขับสวนเลนมา เพื่อจะขับชนรถของเจ้าหน้าที่ให้เสียหายเพื่อทำการหลบหนี แต่ครั้งนี้เมื่อรถของผู้ต้องหาชนกับรถวิทยุตรวจการณ์หมายเลข 2408 แล้ว ได้เกิดเสียหลักพุ่งตกลงข้างทางไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าควบคุมตัวนายพงค์พันธ์ ไว้ได้


หลังจากทำการควบคุมตัวนายพงค์พันธ์เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ตรวจสอบระบบฐานข้อมูล CCOC ปรากฏว่านายพงค์พันธ์ เคยต้องโทษคดีฆ่าผู้อื่นและเคยถูกจำคุกมาก่อน ซึ่งปัจจุบัน​ยังมีหมายจับ คดี “ความผิดต่อประมวลกฎหมายยาเสพติด ความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน” ตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 73/2567 ลงวันที่ 11 มี.ค.67 อีกด้วย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ดำเนินคดีในความผิดฐาน ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติตามหน้าที่, เป็นผู้ขับขี่รถเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาอี) โดยไม่ได้รับอนุญาต, เป็นผู้เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาอี) โดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำให้เสียทรัพย์ ,ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ภ.บ้านในหูต จ.ชุมพร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
​เบื้องต้น นายพงค์พันธ์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา. -419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย-ใต้ตอนบน ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยในภาคอีสาน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด