จับกุม 5 เรือไทย ขนน้ำมันเถื่อนกว่า 300,000 ลิตร

19 มี.ค. – ตำรวจพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจยึดและจับกุมเรือไทย จำนวน 5 ลำ พร้อมลูกเรือ 28 คน ได้ที่พื้นที่ทะเลอ่าวไทย ลอบขนน้ำมันเถื่อนกว่า 300,000 ลิตร สร้างความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท


กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และ กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) ได้รับแจ้งการข่าวจากสายลับว่ามีกลุ่มเครือข่ายเรือสัญชาติไทยลักลอบขนน้ำมันเถื่อนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายบริเวณกลางอ่าวไทย ต่อมา ศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปนม.ตร.) โดย พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จตช./ ผอ.ศปนม.ตร. ได้ทราบและเห็นถึงปัญหาดังกล่าวและเพื่อปราบปรามการลักลอบกระทำความผิดที่ส่งผลให้ภาครัฐสูญเสียประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน จึงได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว แสวงหาพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มเครือข่ายดังกล่าว

กระทั่งวันที่ 17 มี.ค.67 เวลาประมาณ 03.00 น. จึงได้เริ่มปฏิบัติการ โดยใช้เรือตรวจการณ์1301 (เรือชัยจินดา) พร้อมกำลังพลตำรวจน้ำและ เจ้าหน้าที่กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม จำนวน 40 นาย ออกจากท่าเรือ สถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 5 (สัตหีบ) เพื่อตรวจสอบพื้นที่บริเวณกลางอ่าวไทย ต่อมาวันเดียวกันนั้น เวลาประมาณ 09.00 น. ได้ตรวจพบเรือ เจ.พี. สัญชาติไทย พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 80,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ 7 คน ขณะกำลังขนถ่ายน้ำมันเถื่อนให้กับเรือ ช.โชคบุญชู91 พร้อมลูกเรือ 4 คน และ เรือกำไลเงิน (เหล็ก) พร้อมลูกเรือ 6 คน โดยหากเรือลำดังกล่าวได้รับน้ำมันเถื่อนแล้ว จะทำการขนส่งไปเทียบที่ท่าเรือไม่ทราบชื่อ บริเวณ ต.บางตะบูน อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เพื่อขนถ่ายต่อไปยังรถบรรทุกน้ำมันต่อไป ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. เรือตรวจการณ์ 1301 (เรือชัยจินดา) ได้ตรวจพบเรือ Seahorse สัญชาติไทย หรือ กำไลเงิน พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 150,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ 6 คน และเรือดาวรุ่ง สัญชาติไทย พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 100,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ 6 คน (รวมทั้งสิ้น เรือ 5 ลำ, ลูกเรือ 28 คน และน้ำมันเถื่อนประมาณ 330,000 ลิตร คิดเป็นมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท)


กระทั่งวันที่ 19 มี.ค.67 เวลาประมาณ 08.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำเรือทั้ง 5 ลำ พร้อมตัวลูกเรือทั้งหมดเข้าเทียบท่า ณ ท่าเรือ สถานีตำรวจน้ำสัตหีบ จากการตรวจสอบเบื้องต้นโดยเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต พบว่าน้ำมันเถื่อนดังกล่าว เป็นน้ำมันที่มิได้มีไว้ใช้ในราชอาณาจักร และจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันพยายามลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งน้ำมันที่มิได้ผ่านพิธีการศุลกากร” ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และนำตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ฝากเตือนถึงชาวประมงและผู้ประกอบการ ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย เนื่องจากการลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อนนี่ไม่ได้เสียภาษีอากร จะทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้จากจัดเก็บภาษีหลายหมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งรายได้จากภาษีดังกล่าวจะนำกลับคืนสังคมในรูปของบริการสาธารณะ สาธารณูปโภคที่ทุกคนจะมีส่วนได้รับประโยชน์จากเงินภาษีดังกล่าว รวมถึงฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนที่ใช้น้ำมันเถื่อนที่ไม่ได้เสียภาษีอากร เนื่องจากการใช้น้ำมันเถื่อน อาจทำให้ได้น้ำมันที่ไม่มีคุณภาพเพียงพอ ส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยหากประชาชนทั่วไปมีเบาะแสเกี่ยวกับการลักลอบจำหน่ายน้ำมันเถื่อน สามารถแจ้งเบาะแสมาได้โดยตรงที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้ทุกช่องทาง สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น อยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไปช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.สรศักดิ์ แสงจันทร์ สว.กก.2 บก.ป. โทร. 06 3916 3915.-414-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อภิปรายนายก

“บิ๊กป้อม” ซักฟอก 10 นาที นายกฯ แจงที่พูดมาไม่เป็นความจริง

“บิ๊กป้อม” ลุกอภิปรายครั้งแรก ซัดแรง “ประเทศไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่นมาซ้อมมือ” ชี้ มีพฤติการณ์ไม่อาจไว้วางใจให้บริหารประเทศ เหตุเศรษฐกิจล้มเหลว-เสี่ยงเสียดินแดนปม MOU44-กาสิโนจะนำชาติไปสู่ความหายนะ ลั่น เคยใช้ใจบันดาลแรง บริหารประเทศสำเร็จหลายอย่าง แนะ นายกฯ เห็นประโยชน์ประเทศมากกว่าครอบครัว-พวกพ้อง ขณะที่ นายกฯ ลุกขึ้นแจงสภาครั้งแรกย้อนกลับ คำพูด “ประวิตร” ทุกอย่างที่พูดมาไม่เป็นความจริง

ลดราคาน้ำมัน

“พีระพันธุ์” ลดราคาน้ำมัน 1 บาท ช่วงสงกรานต์ ตรึง LPG -หาทางลดค่าไฟ

“พีระพันธุ์” ประธาน กบน.ใช้ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ประกาศข่าวดี ผลงานเด่น ลดราคาน้ำมันเบนซิน-ดีเซล 1 บาท/ลิตร เป็นของขวัญให้ประชาชนช่วงสงกรานต์ ตรึงราคาแอลพีจี และเตรียมหาทางลดค่าไฟฟ้าลงอีก

สกัดจับรถตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลงขนยาเสพติดข้ามประเทศ

ตำรวจขยายผลสกัดจับยาบ้าลักลอบขนมาจากตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลง ข้ามชายแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พบพฤติกรรมผู้ต้องหาเปิดบริษัทซื้อรถบรรทุกขนตู้คอนเทนเนอร์ส่งน้ำข้ามชายแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่กลับดัดแปลงรถตู้คอนเทนเนอร์นำยาเสพติดเข้าประเทศ

Noon Varanuch in China

“นุ่น วรนุช” ลุคสวยสะกด ร่วมรายการวาไรตี้จีน

ฉางซา 24 มี.ค. – “นุ่น วรนุช” ดารานักแสดงชื่อดังของไทย โชว์ความสามารถในรายการ “ไรด์ เดอะ วินด์” (Ride The Wind) หรือเฉิงเฟิง ปี 2025 ของช่องแมงโกทีวี (Mango TV) ในจีน ซึ่งเริ่มต้นออกอากาศตอนแรกเมื่อวันศุกร์ 21 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นุ่น วรนุช นักแสดงหญิงชาวไทย เข้าร่วมบันทึกเทปรายการไรด์ เดอะ วินด์ หรือเฉิงเฟิง ปี 2025 โดยเธอได้ร้องเพลง “พิง” ของนนท์ ธนนท์ ฉบับภาษาไทย-ภาษาจีน บนเวทีริมทะเลที่อำเภอปกครองตนเองหลิงสุ่ย กลุ่มชาติพันธุ์หลี มณฑลไห่หนานทางตอนใต้ของจีนเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2568 ไรด์ เดอะ วินด์ หรือเฉิงเฟิง เป็นรายการวาไรตี้โชว์ชื่อดังที่ออกอากาศมา 6 ซีซันแล้ว เปิดโอกาสให้ดารานักแสดงหญิงจากทั่วโลกมาทำการแสดงด้วยเป้าหมายส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนกับนานาชาติ โดยซีซันก่อนหน้านี้มีนักแสดงหญิงชาวไทยอย่างใหม่ ดาวิกา […]

ข่าวแนะนำ

กีกี้

“กีกี้” ทำสภาวุ่น “ภราดร” ลุกขึ้นเพื่อให้สมาชิกนั่งลงตามข้อบังคับ

“กีกี้” เป็นเหตุ ทำสภาวุ่น จน “ภราดร” ลุกขึ้น เพื่อให้สมาชิกนั่งลงตามข้อบังคับ หลัง สส. โวย ประธานปิดไมค์ ด้าน “ภูมิธรรม” บอกให้เปิดกูเกิ้ล ดูความหมายของคำ

อุุตฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัดบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้นและอากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัด

เก้าทันโลก : เผด็จการอินโดนีเซียคืนชีพ?

อินโดนีเซีย เพื่อนบ้านของไทยที่ได้รับเสียงชื่นชมจากการเปลี่ยนผ่านจากเผด็จการมาเป็นประชาธิปไตย แต่ในขณะนี้มีประชาชนมากมายวิตกกับอนาคตการเมือง ติดตามจากรายงาน “เก้าทันโลก” จากฝ่ายข่าวต่างประเทศ

อภิปรายวันแรก

วิเคราะห์อภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรก

ภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรก ข้อมูลฝ่ายค้าน การตอบคำถามของนายกรัฐมนตรี เป็นอย่างไร จะมีผลอย่างไรทางการเมือง ไปฟังมุมมองการวิเคราะห์จาก ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต