18 มี.ค. – ปปง.ส่งสำนวนไปอัยการเพื่อดำเนินการกับทรัพย์สินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รายคดีนายกุลเกียรติ กับพวก กรณีการทุจริตในสหกรณ์การเกษตรโกรกพระ จำกัด จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งได้ดำเนินการกับทรัพย์สินจำนวน 10 รายการ มูลค่าประมาณ 28 ล้านบาท
วันนี้ (18 มี.ค.) นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมายและโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 ให้สำนักงาน ปปง.ดำเนินการส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย (คุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย เพิ่มเติม) นั้น
วันนี้นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้มอบหมายให้คณะพนักงานเจ้าหน้าที่กองคดี 1 สำนักงาน ปปง.เป็นผู้แทนในการส่งมอบสำนวนให้ผู้แทนสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณายื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย (คุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย) ในรายคดี นายกุลเกียรติฯ กับพวก (กรณีการทุจริตในสหกรณ์การเกษตรโกรกพระ จำกัด จังหวัดนครสวรรค์) ณ สำนักงานอัยการคดีพิเศษ ถนนรัชดาภิเษก เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ รายคดี นายกุลเกียรติฯ กับพวก เป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ เอกสารราชการปลอมและใช้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งกรณีดังกล่าวมีทรัพย์สินส่วนที่สำนักงาน ปปง. ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหายไปก่อนหน้านี้แล้ว ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง คดีหมายเลขดำที่ ฟ 186/2566 ซึ่งดำเนินการกับทรัพย์สิน 9 รายการ ทั้งที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง มูลค่าประมาณ 25 ล้านบาท โดยในการส่งเรื่องให้ พนักงานอัยการครั้งนี้เป็นการดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายเพิ่มเติม โดยส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหายอีก 1 รายการ มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่สำนักงาน ปปง.ดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายในกรณีนี้ 10 รายการ มูลค่าประมาณ 28 ล้านบาท. -119-สำนักข่าวไทย