เร่งล่ามือปืนยิงหน้าร้านเหล้า ย่านปิ่นเกล้า

กทม. 16 มี.ค.-ตร.เร่งล่ามือปืน หลังถูกออกหมายจับในคดียิงหน้าร้านเหล้า ย่านปิ่นเกล้า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 3 คน จากชนวนเหตุ ชนแก้วแย่งหญิงกันในร้านเหล้า ล่าสุดพบเบาะแส หลบหนีออกนอกพื้นที่กรุงเทพฯ แล้ว

ตามต่อกันคดีกลุ่มวัยรุ่น กราดยิงหน้าร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ย่านปิ่นเกล้า มีผู้เสียชีวิต 1 คน ได้รับบาดเจ็บ อีก 2 คน จากชนวนเหตุชนแก้วแย่งหญิงกันในร้านเหล้า พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าว่า จากการสืบสวนพบว่าวันเกิดเหตุ กลุ่มผู้ก่อเหตุมามาที่ร้านดังกล่าวกับกลุ่มผู้หญิงแต่นั่งแยกกันคนกันละโต๊ะ ส่วนกลุ่มผู้เสียชีวิตมากับเพื่อน 3 คนนั่งดื่มกัน ในร้านดังกล่าวเช่นกัน โดยระหว่างที่นั่งดื่ม ผู้เสียชีวิต ยกแก้วทำทีจะขอชนกับผู้หญิงที่มากับกลุ่มผู้ก่อเหตุ และมีการเขม่นกัน จนมีปากเสียงทะเลาะกัน จนการ์ดร้านมาห้ามและแยกจนจะกลับบ้าน ทั้ง 2 กลุ่มก็ยังมาทะเลาะกันด้านนอกร้าน ผู้ก่อเหตุจึงไปหยิบปืนที่อยู่ในรถยนต์มายิงจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากนั้นผู้ก่อเหตุขึ้นรถเบนซ์หลบหนีไปพร้อมกับเพื่อนอีก 2 โดยผู้ก่อเหตุกลับบ้านไปและให้เพื่อนขับรถเบนซ์วนไปวนมา ก่อนไปจอดไว้ที่บ้านพ่อตาของกลุ่มเพื่อนที่ จ.สมุทรสงคราม


ทั้งนี้เหตุดังกล่าว มีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุได้ โดยเป็นภาพนาทีที่ นายอธิภัทร ธรรมบุตร ใช้อาวุธปืนพก ยิงบริเวณหน้าร้านเหล้าชื่อดังย่านปิ่นเกล้า เมื่อกลางดึก ทำให้นายธนู หรือตี๋ อายุ 29 ปี ซึ่งจากภาพขณะโดนยิง นายธนู ยังพยายามวิ่งหลบหนี จนพ้นมุมกล้องไป แต่สุดท้ายเสียชีวิต ขณะที่กลุ่มเพื่อนของนายธนู ยังถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน

หลังก่อเหตุ นายอธิภัทร ได้วิ่งหลบหนีไปขึ้นรถพร้อมเพื่อนอีก 2 คน ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุม ที่ตั้งอยู่หน้าร้านกาแฟ หน้าห้างที่เกิดเหตุ พบว่าขณะเกิดเหตุมีลูกค้าที่นั่งอยู่ในร้านกาแฟตกใจ คาดว่าอาจได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากภายในห้าง จนพากันวิ่งหลบหนี จากนั้นไม่นาน มีรถยนต์ 2 คัน โตโยต้า ยาริส และเบนซ์ 5 ประตู ซึ่งคาดว่าเป็นรถคนร้าย ขับออกมาจากห้างด้วยความรวดเร็ว


ล่าสุด ศาลอาญาตลิ่งชัน ออกหมายจับนายอธิภัทร อายุ 23 ปี ผู้ก่อเหตุในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น ครอบครองปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาปืนติดตัว โดยไม่ได้รับอนุญาต จากการตรวจสอบประวัติ พบว่ามีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดปี 2567 อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีการออกหมายจับไว้หรือยัง หรือมีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้วหรือไม่ และพบประวัติเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน ที่สน.บางขุนเทียนเมื่อ ปี 2566 ขณะที่การตรวจสอบร้านดังกล่าวพบว่า ไม่มีใบอนุญาตและมีการจำหน่ายสุราเกินเวลาที่กำหนด จึงสั่งให้ดำเนินคดีกับร้านดังกล่าวแล้วด้วย

มีรายงานว่า จากการตรวจสอบทราบว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาหลบหนีออกจากพื้นที่กรุงเทพฯ ไปยังพื้นที่ย่านปริมณฑล ซึ่งอยู่ระหว่างการเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้

ขณะที่ สน.บางยี่ขัน ตำรวจนำรถยนต์ต้องสงสัย ยื่ห้อ Mercedes Benz สีดำ 5 ประตู มาให้กองพิสูจน์หลักฐาน เก็บร่องรอยทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งชุดสืบสวนตามแกะรอยจนพบว่ารถคันดังกล่าว ถูกนำไปจอดทิ้งไว้ริมถนน ต.จอมปลวก อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม โดยจากการสืบสวนพบว่า ขณะที่นำรถคันดังกล่าวไปจอดทิ้งไว้ มีคนนั่งอยู่ด้วย 2 คน ซึ่งมีรายงานว่า ล่าสุดทั้ง 2 คนอยู่ในระหว่างให้ข้อมูลกับตำรวจที่ สน.บางยี่ขัน ส่วน โตโยต้า ยาริส สีดำ ที่ขับหนีไปพร้อมกัน อยู่ในระหว่างการสืบสวนติดตามรถคันดังกล่าว


ส่วนที่มีข่าวว่า พบรถ Mercedes Benz รุ่นเดียวกันและป้ายทะเบียนเลขเดียวกันที่ จ.สิงห์บุรีนั้น ตร.ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า รถ Mercedes Benz ที่พบที่จังหวัดสิงห์บุรี เป็นรถที่ถูกต้อง แผ่นป้ายทะเบียนตรงกับเลขคัสซีรถและพบว่ารถคันที่พบที่ จ.สิงห์บุรี นั้น ซื้อขายอย่างถูกต้อง โดยมีเต็นท์รถเป็นเจ้าของ

ส่วนความเคลื่อนไหว ที่ สน.บางยี่ขัน ตลอดทั้งวัน มี นายวรุฒ หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บ ถูกยิงบริเวณขาซ้ายจากเหตุ ยิงกัน ได้มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน พร้อมเปิดเผยว่า คืนนั้นตนไปเที่ยวกับเพื่อนเพียงแค่ 2 คนและเป็นการมาเที่ยวที่นี่เป็นครั้งแรก ช่วงก่อนที่สถานบันเทิงจะปิด ตนได้เดินออกมาเข้าห้องน้ำ เมื่อเดินมาถึงก็เห็นว่า ผู้คนจำนวนมากมายืนออบริเวณหน้าสถานบันเทิงเพราะปิดทำการแล้ว ด้วยความสงสัยจึงพยายามที่จะเดินไปสอบถามเพื่อน แต่ปรากฎว่าได้ยินเสียงลั่นไกปืนดังถึง 5 นัด ตนกับเพื่อนจึงรีบวิ่งไปหลบ สุดท้ายมารู้ตัวอีกทีคือ ตนถูกยิงที่ขาซ้าย หลังจากนี้ตนก็คงไม่กล้ากลับไปที่สถานบันเทิงดังกล่าวอีกแล้ว

ขณะที่หญิงสาวตนเรื่อง จนทำให้เกิดเหตุบางปลาย ในครั้งนี้ ได้เดินทางพร้อมกับเพื่อนสาว เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน เช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 5 ชั่วโมง จากนั้นทั้งคู่รีบเดินทางออกจาก สน.บางยี่ขันทันที โดยได้พยายามรีบวิ่งมาขึ้นรถยนต์ที่จอดด้านข้าง สน. โดยไม่พูดคุยใดๆ กับสื่อมวลชน ที่พยายาม สอบถามข้อเท็จจริง ของเหตุการณ์ในคืนนั้น ก่อนที่จะขับรถออกไปทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย