เร่งล่ามือปืนยิงหน้าร้านเหล้า ย่านปิ่นเกล้า

กทม. 16 มี.ค.-ตร.เร่งล่ามือปืน หลังถูกออกหมายจับในคดียิงหน้าร้านเหล้า ย่านปิ่นเกล้า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 3 คน จากชนวนเหตุ ชนแก้วแย่งหญิงกันในร้านเหล้า ล่าสุดพบเบาะแส หลบหนีออกนอกพื้นที่กรุงเทพฯ แล้ว

ตามต่อกันคดีกลุ่มวัยรุ่น กราดยิงหน้าร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ย่านปิ่นเกล้า มีผู้เสียชีวิต 1 คน ได้รับบาดเจ็บ อีก 2 คน จากชนวนเหตุชนแก้วแย่งหญิงกันในร้านเหล้า พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าว่า จากการสืบสวนพบว่าวันเกิดเหตุ กลุ่มผู้ก่อเหตุมามาที่ร้านดังกล่าวกับกลุ่มผู้หญิงแต่นั่งแยกกันคนกันละโต๊ะ ส่วนกลุ่มผู้เสียชีวิตมากับเพื่อน 3 คนนั่งดื่มกัน ในร้านดังกล่าวเช่นกัน โดยระหว่างที่นั่งดื่ม ผู้เสียชีวิต ยกแก้วทำทีจะขอชนกับผู้หญิงที่มากับกลุ่มผู้ก่อเหตุ และมีการเขม่นกัน จนมีปากเสียงทะเลาะกัน จนการ์ดร้านมาห้ามและแยกจนจะกลับบ้าน ทั้ง 2 กลุ่มก็ยังมาทะเลาะกันด้านนอกร้าน ผู้ก่อเหตุจึงไปหยิบปืนที่อยู่ในรถยนต์มายิงจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากนั้นผู้ก่อเหตุขึ้นรถเบนซ์หลบหนีไปพร้อมกับเพื่อนอีก 2 โดยผู้ก่อเหตุกลับบ้านไปและให้เพื่อนขับรถเบนซ์วนไปวนมา ก่อนไปจอดไว้ที่บ้านพ่อตาของกลุ่มเพื่อนที่ จ.สมุทรสงคราม


ทั้งนี้เหตุดังกล่าว มีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุได้ โดยเป็นภาพนาทีที่ นายอธิภัทร ธรรมบุตร ใช้อาวุธปืนพก ยิงบริเวณหน้าร้านเหล้าชื่อดังย่านปิ่นเกล้า เมื่อกลางดึก ทำให้นายธนู หรือตี๋ อายุ 29 ปี ซึ่งจากภาพขณะโดนยิง นายธนู ยังพยายามวิ่งหลบหนี จนพ้นมุมกล้องไป แต่สุดท้ายเสียชีวิต ขณะที่กลุ่มเพื่อนของนายธนู ยังถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน

หลังก่อเหตุ นายอธิภัทร ได้วิ่งหลบหนีไปขึ้นรถพร้อมเพื่อนอีก 2 คน ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุม ที่ตั้งอยู่หน้าร้านกาแฟ หน้าห้างที่เกิดเหตุ พบว่าขณะเกิดเหตุมีลูกค้าที่นั่งอยู่ในร้านกาแฟตกใจ คาดว่าอาจได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากภายในห้าง จนพากันวิ่งหลบหนี จากนั้นไม่นาน มีรถยนต์ 2 คัน โตโยต้า ยาริส และเบนซ์ 5 ประตู ซึ่งคาดว่าเป็นรถคนร้าย ขับออกมาจากห้างด้วยความรวดเร็ว


ล่าสุด ศาลอาญาตลิ่งชัน ออกหมายจับนายอธิภัทร อายุ 23 ปี ผู้ก่อเหตุในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น ครอบครองปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาปืนติดตัว โดยไม่ได้รับอนุญาต จากการตรวจสอบประวัติ พบว่ามีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดปี 2567 อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีการออกหมายจับไว้หรือยัง หรือมีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้วหรือไม่ และพบประวัติเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน ที่สน.บางขุนเทียนเมื่อ ปี 2566 ขณะที่การตรวจสอบร้านดังกล่าวพบว่า ไม่มีใบอนุญาตและมีการจำหน่ายสุราเกินเวลาที่กำหนด จึงสั่งให้ดำเนินคดีกับร้านดังกล่าวแล้วด้วย

มีรายงานว่า จากการตรวจสอบทราบว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาหลบหนีออกจากพื้นที่กรุงเทพฯ ไปยังพื้นที่ย่านปริมณฑล ซึ่งอยู่ระหว่างการเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้

ขณะที่ สน.บางยี่ขัน ตำรวจนำรถยนต์ต้องสงสัย ยื่ห้อ Mercedes Benz สีดำ 5 ประตู มาให้กองพิสูจน์หลักฐาน เก็บร่องรอยทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งชุดสืบสวนตามแกะรอยจนพบว่ารถคันดังกล่าว ถูกนำไปจอดทิ้งไว้ริมถนน ต.จอมปลวก อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม โดยจากการสืบสวนพบว่า ขณะที่นำรถคันดังกล่าวไปจอดทิ้งไว้ มีคนนั่งอยู่ด้วย 2 คน ซึ่งมีรายงานว่า ล่าสุดทั้ง 2 คนอยู่ในระหว่างให้ข้อมูลกับตำรวจที่ สน.บางยี่ขัน ส่วน โตโยต้า ยาริส สีดำ ที่ขับหนีไปพร้อมกัน อยู่ในระหว่างการสืบสวนติดตามรถคันดังกล่าว


ส่วนที่มีข่าวว่า พบรถ Mercedes Benz รุ่นเดียวกันและป้ายทะเบียนเลขเดียวกันที่ จ.สิงห์บุรีนั้น ตร.ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า รถ Mercedes Benz ที่พบที่จังหวัดสิงห์บุรี เป็นรถที่ถูกต้อง แผ่นป้ายทะเบียนตรงกับเลขคัสซีรถและพบว่ารถคันที่พบที่ จ.สิงห์บุรี นั้น ซื้อขายอย่างถูกต้อง โดยมีเต็นท์รถเป็นเจ้าของ

ส่วนความเคลื่อนไหว ที่ สน.บางยี่ขัน ตลอดทั้งวัน มี นายวรุฒ หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บ ถูกยิงบริเวณขาซ้ายจากเหตุ ยิงกัน ได้มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน พร้อมเปิดเผยว่า คืนนั้นตนไปเที่ยวกับเพื่อนเพียงแค่ 2 คนและเป็นการมาเที่ยวที่นี่เป็นครั้งแรก ช่วงก่อนที่สถานบันเทิงจะปิด ตนได้เดินออกมาเข้าห้องน้ำ เมื่อเดินมาถึงก็เห็นว่า ผู้คนจำนวนมากมายืนออบริเวณหน้าสถานบันเทิงเพราะปิดทำการแล้ว ด้วยความสงสัยจึงพยายามที่จะเดินไปสอบถามเพื่อน แต่ปรากฎว่าได้ยินเสียงลั่นไกปืนดังถึง 5 นัด ตนกับเพื่อนจึงรีบวิ่งไปหลบ สุดท้ายมารู้ตัวอีกทีคือ ตนถูกยิงที่ขาซ้าย หลังจากนี้ตนก็คงไม่กล้ากลับไปที่สถานบันเทิงดังกล่าวอีกแล้ว

ขณะที่หญิงสาวตนเรื่อง จนทำให้เกิดเหตุบางปลาย ในครั้งนี้ ได้เดินทางพร้อมกับเพื่อนสาว เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน เช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 5 ชั่วโมง จากนั้นทั้งคู่รีบเดินทางออกจาก สน.บางยี่ขันทันที โดยได้พยายามรีบวิ่งมาขึ้นรถยนต์ที่จอดด้านข้าง สน. โดยไม่พูดคุยใดๆ กับสื่อมวลชน ที่พยายาม สอบถามข้อเท็จจริง ของเหตุการณ์ในคืนนั้น ก่อนที่จะขับรถออกไปทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]

โควิด-19 ระบาดปักธงชัย ตายแล้ว 2

นครราชสีมา 2 มิ.ย.- เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดที่ อ.ปักธงชัย จ.นคราชสีมา รุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย รัฐบาลเตือนระวังสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 แพร่กระจายไว ที่ อ.ปักธงชัย พบผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบนี้แล้ว 2 ราย ผู้ป่วยรายแรกเป็นชายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ส่วนรายที่ 2 เสียชีวิตช่วงค่ำวานนี้ เป็นชายอายุ 72 ปี ที่โรงพยาบาลปักธงชัย ไปประกอบพิธีทางศาสนา โควิด-19 แม้จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ต้องรู้จักวิธีการป้องกันตัวเองและดูแลบุคคลในครอบครัวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกประกาศเตือนหลังพบพฤติกรรมของเชื้อ SARS-CoV-2 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 3 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ แปซิฟิกตะวันตก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก จากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และเชื้อโควิด-19 […]