รวบบัญชีม้า แก๊งหลอกลงทุนผลตอบแทนสูง เสียหายกว่า 100 ล้าน

กรุงเทพฯ 16 มี.ค. – ตำรวจไซเบอร์รวบสาวใหญ่ แก๊งหลอกลงทุนผลตอบแทนสูง เปิดบัญชีม้าเป็น หจก. เสียหายรวมกว่า 118 ล้านบาท


สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ ว่าพบบัญชีเฟซบุ๊กโพสต์ให้ความรู้และสอนเกี่ยวกับการลงทุนเล่นหุ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยมีผลกำไรดี ผู้เสียหายสนใจจึงกดเข้าไปอ่านดู โดยในโพสต์มีลิงก์ให้เพิ่มเพื่อนทางไลน์ จากนั้นได้เข้าไปคุยกับบุคคลที่แจ้งว่าเป็นอาจารย์และให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนเทรดหุ้นทั้งในและต่างประเทศโดยมีผลกำไรตอบแทน 30 เปอร์เซ็น

จากนั้นบุคคลดังกล่าวได้สอนวิธีการลงทะเบียน เพื่อเข้าไปทำการซื้อขายหุ้นและแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงทำการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของคนร้ายจำนวน 13 ครั้ง รวมมูลค่าทั้งสิ้น จำนวน 2,210,000 บาท มีบัญชีที่รับโอนเงินจากผู้เสียหายเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด 3 บัญชี และบัญชีบุคคลธรรมดาอีก 1 บัญชี ซึ่งถือว่ากลุ่มคนร้ายได้เปลี่ยนแปลงวิธีรับผลประโยชน์โดยไปใช้บัญชีของห้างหุ้นส่วนจำกัด เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้เสียหายมากขึ้น และจากการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาแจ้งว่าจะมีหน้าขอสำเนาหน้าบัตรประชาชนจากกลุ่มผู้ต้องหาเพื่อนำไปใช้เปิดห้างหุ้นส่วนจำกัดอีกด้วย และจากการตรวจสอบในระบบรับแจ้งความออนไลน์พบผู้เสียหายกว่า 20 คดี ความเสียหายรวม 118,966,000 บาท


พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.พิเชียรยศ อรุณพันธกุล ผกก.1 บก.สอท.1 ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสวนหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

กระทั่งช่วงหัวค่ำของวันที่ 12 มี.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายจับเข้าควบคุมตัว น.ส.สมศรี อายุ 46 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยไม่ได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด” โดยควบคุมตัวได้ที่บริเวณอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร จึงนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-414-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย