fbpx

จับเครือข่ายค้ายาฯ ข้ามชาติยัดโคเคนในราวตากผ้าเข้าไทย

ป.ป.ส. 11 มี.ค.-ป.ป.ส.แถลงจับเครือข่ายค้ายาข้ามชาติ 3 ราย นำเข้าโคเคน 5,360 กรัม ใส่ในราวตากผ้าส่งจากสหรัฐฯ เตรียมขายในสถานบันเทิงย่านสุขุมวิท


พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผู้บังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และผู้แทนกรมศุลกากร แถลงปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ จับกุมชายผิวสี 3 คน พร้อมของกลางโคเคน 5,360 กรัม ส่งจากสหรัฐอเมริกา เตรียมปล่อยขายในสถานบันเทิง โดยเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2567 ชุดปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน ร่วมกับกรมศุลกากร ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรวจยึดพัสดุระหว่างประเทศ (ขาเข้า) ของกลางโคเคน 5,360 กรัม ซุกซ่อนภายในแกนกลางราวเหล็กตากผ้า จำนวน 5 ชุด 64 แท่ง ต้นทางพัสดุส่งมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งผิดปกติที่จะนำเข้าราวตากผ้าจากสหรัฐเช่นนั้น ประกอบกับช่วงเดือนที่แล้วสำนักงาน ป.ป.ส. เปิดปฏิบัติการ “นานาอุ่นใจ” ในย่านนานา ถ.สุขุมวิท กทม. พบมีกลุ่มชาวแอฟริกันตะวันตกนำยาเสพติดมาจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ รวมทั้งแฝงอยู่กับปัญหาอาชญากรรมอื่น ๆ เช่น การค้าประเวณีมีการเสนอขายยาเสพติดให้แก่ลูกค้าเพื่อรับส่วนแบ่งจากกลุ่มแอฟริกันตะวันตกค้ายาฯ หลังมีการตรวจยึดโคเคนในราวตากผ้านี้ จึงขยายผลพร้อมวางกำลัง เข้าสังเกตการณ์ จุดรับพัสดุ ก่อนจับกุมผู้ต้องหาชายผิวสีได้ 3 คน ที่มารอรับพัสดุที่ซุกซ่อนโคเคน 5,360 กรัม และตรวจค้นห้องพัก ในพื้นที่แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. พบอุปกรณ์ที่ใช้ในการซุกซ่อนยาเสพติด ถุงพลาสติกแบ่งบรรจุ และเครื่องชั่งดิจิทัล

จากการสืบสวน เครือข่ายนี้เตรียมนำยาเสพติดจำหน่ายในสถานบันเทิงในไทย โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มีพฤติการณ์ร่วมกับเครือข่ายจัดส่งยาเสพติตในพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย ตั้งแต่ ปี 2563 – ปัจจุบัน และเกี่ยวข้องกับคดีซุกซ่อนยาเสพติด 4 คดี ที่ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาก่อนหน้านี้ รวม 8 คน เป็นกลุ่มผิวสี 7 คน หญิงไทย 1 คนของกลางโคเคน 12.7 กิโลกรัม เอ็กตาซี 6,613 เม็ด


โดยสถิติการจับกุม/ตรวจยึด ในโครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน ห้วงปี 2565 -2566 กว่าครึ่งหนึ่งพบผู้เกี่ยวข้องเป็นเครือข่ายแอฟริกันตะวันตก และส่วนใหญ่นำเข้ายาเสพติดประเภทโคเคนจากอเมริกาใต้

เลขาธิการ ป.ป.ส. ยังเผยว่าปฏิบัติการในพื้นที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดฯ ที่จังหวัดเชียงใหม่ 5 อำเภอ เชียงราย 6 อำเภอ และนครพนม 4 อำเภอ พบว่า มีการจับกุมยาเสพติดตั้งแต่ก่อนเข้าไทยได้จำนวนมากขึ้น และพบจำนวนจับกุมยาเสพติดชั้นในลดลงมาก ซึ่งแสดงถึงมาตรการสกัดกั้นที่ได้ผล และในวันที่ 25 มีนาคมนี้ จะเสนอเพิ่มในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือและอีสานที่พบการลักลอบนำเข้ายาเสพติดและมีการจับกุมได้ครั้งละมากๆ เป็นพื้นที่เร่งด่วนฯ รวม 13 จังหวัด 39 อำเภอ.-119-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โผ ครม. “เศรษฐา 2” ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้

โผ ครม. เศรษฐา 2 ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่ พปชร. ยึด ก.เกษตรฯ ด้าน “สุชาติ” นั่ง รมช.พาณิชย์ พร้อมทาบ “พวงเพ็ชร” ที่ปรึกษานายกฯ โค้งสุดท้ายสลับ “สุดาวรรณ” นั่ง ก.วัฒนธรรม “เสริมศักดิ์” ไป ก.ท่องเที่ยวฯ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ข่าวแนะนำ

“ปานปรีย์” รับยื่นลาออก หลังถูกปรับพ้นรองนายกฯ

“ปานปรีย์” ยอมรับยื่นลาออก หลังถูกปรับออกจากรองนายกฯ ชี้หากไม่มีตำแหน่งพ่วงอาจทำงานไม่ราบรื่น ลั่นหากมีคนอื่นเหมาะสมกว่าให้มาทำงานแทน

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. “เศรษฐา 1/1”

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ โปรดเกล้าฯ ครม.เศรษฐา 1/1 แล้ว “พิชัย” รองนายกฯ ควบ รมว.คลัง โยก “สมศักดิ์” นั่ง รมว.สธ. แทน “นพ.ชลน่าน”

อาลัย “ดาบต้าร์” ตร.ทางหลวง เสียชีวิตแล้ว

ข่าวเศร้าเช้าวันหยุด ด.ต.ปิยะนันท์ สีเสื้อ หรือ “ดาบต้าร์” เสียชีวิตแล้ว หลังบาดเจ็บสาหัสจากเหตุเก๋งพุ่งชนขณะอำนวยการจราจรช่วงสงกรานต์

ไฟไหม้ “วิน โพรเสส” ยังคงพบไอระเหยสารเคมี 10 ชนิด

กรมควบคุมมลพิษ เผยผลตรวจติดตามผลกระทบทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากเหตุเพลิงไหม้โกดังโรงงานเก็บกากของเสียอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตราย ล่าสุดยังคงพบไอระเหยสารเคมี 10 ชนิด ในปริมาณเล็กน้อย แต่บางจุดพบสารบางชนิดในระดับจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและผิวหนัง พร้อมร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม เตรียมแผนรับมือช่วงฤดูฝน ที่อาจจะมีวัตถุอันตรายหลุดออกมานอกพื้นที่