11 มี.ค. – สืบนครบาลแกะรอยรวบ “มีชัย” ผู้ต้องหากระทำชำเราตามบัญชีประกาศสืบจับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปี 2566 ลำดับ 122 หลังหลบหนีคดีนานกว่า 19 ปี ด้านผู้ต้องหารับแต่โดยดีว่าตนเองคือบุคคลตามหมายจับ แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ขืนใจ
ตำรวจรวบ “มีชัย” ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลกำแพงเพชร ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดตาม “ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งมิใช่ภริยาของตน โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยหญิงนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง” โดยคดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือน ส.ค.47 ผู้ต้องหาพวกร่วมกันมอมเหล้าผู้เสียหาย จากนั้นได้พาไปกระทำชำเราที่ห้องพักของเพื่อน ในพื้นที่ อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร ต่อมาผู้ต้องหาทราบว่าตัวเองถูกออกหมายจับ จึงหลบหนีออกจาก จ.กำแพงเพชร ตะเวนหลบหนีไปตามจังหวัดต่าง ๆ โดยจะไม่ทำบัตรประชาชนใหม่ ไม่ทำเอกสารราชการใด ๆ ไม่ใช่บัญชีธนาคารตัวเอง เพื่อป้องกันการสืบสวนติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทำบัตรประชาชนครั้งสุดท้ายเมื่อปี พ.ศ.2545 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล แกะรอยผู้ต้องหา จนทราบว่ามาทำงานก่อสร้างอยู่กับนายจ้างที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และไปอยู่ไซต์งานก่อสร้างที่ เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเฝ้าติดตามและเข้าจับกุมในที่สุด
จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาพบว่ามีประวัติ 1 รายการ ตรงกับรายละเอียดในคดีนี้ เมื่อได้ซักถาม ผู้ต้องหาพยายามบ่ายเบี่ยงและปฏิเสธว่าไม่ได้บังคับข่มขืนใจผู้เสียหาย อ้างว่าก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาทำอาชีพรับจ้างทั่วไป เมื่อ 19 ปี ที่แล้ว ผู้ต้องหาได้ไปจีบผู้เสียหายในผับแห่งหนึ่งที่ จ.กำแพงเพชร เมื่อผับปิดในวันดังกล่าว ก็ชวนกันไปดื่มต่อ อ้างว่าผู้เสียหายยินยอมที่จะมีเพศสัมพันธ์ด้วย ได้พาไปที่ห้องพักของเพื่อนผู้ต้องหาพร้อมกับเพื่อนของผู้ต้องหาอีกหลายคน จากนั้นได้กระทำชำเราผู้เสียหาย เมื่อผู้ต้องหาทราบว่าผู้เสียหายได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับตน จึงได้หลบหนีออกจากบ้านที่ จ.กำแพงเพชร มาใช้ชีวิตในกรุงเทพมหานครและ จ.สมุทรปราการ ทำอาชีพเป็นช่างก่อสร้างกับเพื่อนที่รู้จักเพื่อนำเงินมาเลี้ยงชีพในระหว่างหลบหนี มีรายได้วันละประมาณ 500 บาท พักอาศัยในแคมป์คนงานก่อสร้างตามที่ได้รับจ้างเหมา โดยหลังก่อเหตุไม่ได้กลับไปที่บ้านอีกเลย ไม่มีการเก็บเอกสารหรือบัตรประจำตัวต่าง ๆ ที่แสดงตัวตน ไม่ทำบัตรประชาชนใหม่ ไม่ทำเอกสารราชการใด ๆ ไม่ใช้บัญชีธนาคารตัวเอง เนื่องจากเกรงว่าจะถูกจับกุม
ด้านผู้ต้องหารับแต่โดยดีว่าตนเองคือบุคคลตามหมายจับ แต่ยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืน ตามข้อกล่าวหาในหมายจับ. -414-สำนักข่าวไทย