หนุ่มไหว้ขอโทษ เมาหลอนทำพ่อตก 3 ชั้น อาคารแห่งหนึ่งย่านคลองตัน

8 มี.ค. – ลูกทรพีดื่มน้ำกระท่อมและเสพกัญชา 4 วันติด หลอนคว้ามีดไล่ฟันและล็อกคอพ่อ ก่อนพ่อผลัดตกจากชั้น 3 อาคารแห่งหนึ่งย่านคลองตัน บาดเจ็บสาหัส พอสร่างเมายกมือไหว้ขอโทษ ขอบวชชดใช้


นาทีขณะลูกชายกำลังล็อกคอพ่ออยู่ริมระเบียงห้องพักชั้น 3 ของอาคารแห่งหนึ่งย่านคลองตัน โดยในมือข้างหนึ่งของลูกถือมีดดาบยาวไว้ ส่วนอีกมือถือโทรศัพท์โทรหาแม่ ซึ่งมือที่ถือมีดเป็นลักษณะยื้อยุดฉุดกระชากกันมาก่อน แต่สุดท้ายพ่อพลาดท่าถูกลูกล็อกคอ ก่อนที่ลูกจะโทรหาแม่ บอกว่า “ให้กลับมาบ้านด่วน มีคนจะมาฆ่าตนเอง บอกให้พ่อมาด้วย บอกพ่อมาเลยตอนนี้” และยังตะโกนใส่โทรศัพท์อีกว่า “มาตอนนี้เลยแม่ มาเลย แม่มาเลยแม่” ส่วนพ่อที่ถูกล็อกคออยู่พยายามร้องบอกลูกในลักษณะวิงวอนว่า “ปล่อยพ่อเถอะลูก ปล่อยพ่อเถอะลูก” โดยมีเสียงเจ้าหน้าที่พยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ลูกปล่อยมือจากมีด

สอบถามเพื่อนบ้านทราบว่าก่อนเกิดเหตุ พ่อที่มีอาชีพเป็นไรเดอร์ ได้ออกไปทำงาน ส่วนลูกที่อยู่บ้านได้โทรบอกแม่ว่าจะมีคนมาฆ่า ด้วยความเป็นห่วงแม่จึงโทรไปบอกพ่อว่าให้วิ่งรถกลับเข้าไปดูลูกที่บ้านหน่อย เมื่อพ่อกลับถึงบ้านก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เพราะลูกชายกำลังคลั่ง นำมีดมาวิ่งไล่แทงพ่อ ก่อนเกิดการยื้อแย่งมีดกันอยู่หลายนาที แต่พ่อพลาดถูกลูกเอามีดฟันแขน จากนั้นถูกล็อกคอ แม้พยายามดิ้น สุดท้ายสู้แรงลูกไม่ไหว ถูกเหวี่ยงตกลงมาจากชั้น 3 บาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่จึงรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่าแม้ว่าอาการสาหัส แต่นับว่ายังโชคดีที่ร่างไม่ได้กระแทกพื้นทันที


เมื่อพ่อตกลงมาแล้ว ตำรวจรีบไปคุมตัวลูกชายไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพักทันที หลังจากหายคลุ้มคลั่ง ลูกก็คือ นายวิศนุศักดิ์ หรือ บิ๊ก อายุ 25 ปี ยอมรับที่คลุ้มคลั่งเพราะชื่นชอบกินสมุนไพร จึงดื่มน้ำกระท่อมและเสพกัญชา ไม่ได้หลับไม่ได้นอนมา 4 วัน 4 คืนติด ส่วนตอนเกิดเหตุน่าจะเบลอ ไม่มีสติ อยากขมาพ่อ อยากให้พ่อให้อภัย เพราะตนเองมีลูก-เมีย การกระทำแบบนี้ไม่ดี เป็นบาป ถ้าตัวเองติดคุกนานจะไม่มีคนเลี้ยงดูลูก

นอกจากนี้นายบิ๊กยังยกมือไหว้ขอโทษพ่อ รวมถึงพูดซ้ำว่าอยากให้พ่อยกโทษให้ และจะบวชชดใช้สิ่งที่ทำกับพ่อและจะเลิกเสพกัญชา เลิกดื่มน้ำกระท่อม จะทำตัวเป็นคนดี

ผู้ต้องหาสารภาพยอมรับดื่ม-เสพ 4 วัน 4 คืน หูแว่ว หลอน
ด้าน พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผู้กำกับการ สน.คลองตัน ให้ข้อมูลว่า การสอบปากคำผู้ต้องหาสารภาพว่าก่อเหตุจริง อ้างว่าไม่ได้นอนมา 4 วัน 4 คืน พร้อมกับดื่มน้ำกระท่อมและเสพกัญชาที่ซื้อมาจากเพื่อน ทำให้มีอาการหลอนและหูแว่วว่าจะมีคนมาทำร้าย จึงคว้ามีดที่อยู่ภายในห้องมาทำร้ายพ่อที่พยายามเข้ามาห้ามและแย่งมีด
ส่วนการตรวจประวัติและปัสสาวะไม่พบประวัติอาชญากรรม แต่พบประวัติการเสพกัญชาและดื่มน้ำกระท่อมมาหลายปี


ขณะที่ผลตรวจร่างกายพบเพียงกัญชา ไม่พบสารเสพติดชนิดอื่น เบื้องต้นแจ้ง 2 ข้อหาหนัก คือ ทำร้ายร่างกายบุพการีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โทษจำคุก 2-10 ปี และข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพราะขณะเกิดเหตุตำรวจใช้ยุทธวิธีและไม้ง่ามระงับเหตุ แต่ผู้ต้องหาต่อสู้ขัดขืน ทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บที่นิ้ว และวันพรุ่งนี้ (9 มี.ค.) จะนำตัวส่งศาลฝากขัง คดีนี้แม้เป็นคดีภายในครอบครัว พ่ออาจไม่เอาความได้ แต่ในส่วนของคดีอาญาไม่สามารถยอมความได้

เมากัญชาถือมีดบุกห้างฯ กู้เงินออกรถ แถมอ้างเรียนจบสูง
ส่วนที่สมุทรปราการ ตำรวจรับแจ้งมีชายคลุ้มคลั่ง ถือมีดบุกเข้าไปในห้างฯ ดังย่านบางพลี เมื่อตำรวจเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเห็นหนุ่มใหญ่ มีอาการเหมือนเมายา ถือมีดแกว่งไปมา ส่งเสียงโวยวาย พอตำรวจแสดงตัวเข้าจับกุม ชายคนดังกล่าววิ่งหนีออกจากห้างฯ แล้วขี่รถจักรยานยนต์หนีเข้าไปในซอยแห่งหนึ่ง

ตำรวจไล่ตามไปกระชั้นชิด ชายคนดังกล่าวก็ทิ้งรถวิ่งหนีเข้าไปในร้านค้าแถวนั้น กว่าจะตามตะครุบตัวได้เล่นเอาเหนื่อย ส่วนชายคนดังกล่าวที่ตำรวจจับขึ้นมาไว้หลังรถกระบะเพื่อพาตัวไปโรงพัก บอกกับตำรวจว่าชื่อสุพจน์ อายุ 41 ปี เสพกัญชามา แต่ไม่ได้เมานะ เพราะปกติเสพทุกวัน วันนี้มาห้างฯ เพื่อกู้เงินไปออกรถกระบะ ที่พกมีดเพราะมีคนไล่ตามจับ ย้ำว่าไม่ได้บ้า เพราะเรียนจบสูงถึงระดับปริญญาเอก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]