ตำรวจไซเบอร์กวาดล้างพ่อค้าปืนออนไลน์

8 มี.ค. – ตำรวจไซเบอร์กวาดล้างพ่อค้าปืนออนไลน์ จับผู้กระทำความผิดได้ 37 คน ยึดอาวุธปืนของกลาง พร้อมกระสุนปืนอีกจำนวนมาก ในจำนวนนี้พบกระสุนปืนอาวุธสงครามจำนวนหนึ่ง เร่งขยายผลหาแหล่งที่มา


อาวุธปืนสั้นจำนวนกว่า 10 กระบอก ทั้งปืนที่มีทะเบียนและไม่มีทะเบียน รวมถึงปืนดัดแปลงหรือไทยประดิษฐ์ พร้อมเครื่องกระสุน เป็นของกลาง ในจำนวนที่ตำรวจยึดเอามาได้จากการตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัยในพื้นที่หลายจังหวัดทั่วประเทศ หลังกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ระดมกวาดล้างการขายปืนผ่านช่องทางออนไลน์ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาสามารถจับผู้กระทำความผิดได้จำนวน 37 คน ตรวจยึดของกลางเป็นอาวุธปืนมีทะเบียนจำนวน 9 กระบอก อาวุธปืนไม่มีทะเบียนจำนวน 35 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวน 3,035 นัด และกระสุนอาวุธปืนสงครามขนาด 7.65 มิลลิเมตร (กระสุนปืนอาก้า) อีกจำนวน 625 นัด

ซึ่งจำนวนที่กล่าวมาข้างต้นตำรวจได้ขยายผลไปบุกจับหนุ่มโรงงาน ในห้องเช่าแห่งหนึ่ง อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี หลังสืบทราบว่าได้เปิดบัญชี facebook อวตารโพสต์ขายอาวุธปืนผิดกฎหมายตั้งแต่ปลายปี 2566 พร้อมยึดอาวุธปืนยาวและกระสุนปืนประเภทต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์สำหรับผลิตและดัดแปลงอาวุธปืนจำนวนหลายรายการ โดยผู้กระทำความผิดยอมรับว่าได้ดัดแปลงจากปืนบีบีกัน และแบลงค์กัน ให้สามารถใช้กับกระสุนจริงได้ ก่อนโพสต์ขายตามสื่อออนไลน์


พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า การระดมกวาดล้างพ่อค้าอาวุธปืนเถื่อนทางออนไลน์เป็นผลมาจากในช่วงที่ผ่านมามีเด็กและเยาวชนเข้าถึงอาวุธปืนได้ง่ายโดยการซื้อผ่านช่องทางออนไลน์และนำไปก่อเหตุ ยกตัวอย่างจากเหตุการณ์ยิงในห้างห้างพารากอนเมื่อปีที่แล้ว และเหตุการณ์ล่าสุดที่ มีเด็กมัธยมชั้นปีที่ 3 นำปืนไปก่อเหตุยิงเด็กมัธยมชั้นปีที่ 6 ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาการลักลอบขายอาวุธปืนบนอินเทอร์เน็ต ยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางตำรวจไซเบอร์จะต้องเร่งตรวจสอบเอาผิดพ่อค้าอาวุธปืนออนไลน์ให้ได้มากที่สุด โดยผลการดำเนินการจับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนออนไลน์ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาได้มากกว่า 1,000 เป้าหมายซึ่งเป็นมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันการเกิดเหตุอาชญากรรมร้ายแรงไม่ให้เกิดขึ้น

ส่วนกระสุนปืนอาวุธสงครามขนาด 7.62 มิลลิเมตร ซึ่งใช้กับอาวุธปืนสงครามหรือปืนอาก้า ที่ตกเป็นของกลาง พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 เปิดเผยว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบถึงแหล่งที่มาเพราะกระสุนอาวุธปืนสงครามไม่สามารถซื้อขายกันได้ตามร้านขายอาวุธปืนทั่วไป ซึ่งมีใช้ในหน่วยงานตำรวจและทหารเท่านั้น แต่ที่ผ่านมาการตรวจสอบค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เนื่องจากกระสุนปืนเหล่านี้ถูกเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่จึงไม่สามารถตรวจสอบเลขทะเบียนของชุดกระสุนปืนดังกล่าวได้ ขณะที่ผู้ต้องหาในคดีก็ปฏิเสธที่จะให้การถึงแหล่งที่มาของกระสุนปืนอาวุธสงครามดังกล่าว. -413-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ