7 มี.ค. – ตม.รวบผู้สั่งการขบวนการขนแรงงานต่างด้าวกัมพูชา เข้าไทยโดยผิดกฎหมาย ตรวจสอบพบเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 150 ล้านบาท
พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ คดีแรก จับกุมนายเจด อายุ 44 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ในความผิดฐานร่วมกันช่วยเหลือน หรือช่วยด้วยประการใด ๆ ซึ่งบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้ผลจากการถูกจับกุม
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 ตม.จ.สมุทรปราการ ร่วมกับกองกำกับการสืบสวน ตม.3 ได้จับกุมคนไทย 3 คน ขณะกำลังลักลอบพาคนต่างด้าวชาวกัมพูชาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวม 10 คน มาส่งที่บ่อปลาแห่งหนึ่งในเขต จ.สมุทรปราการ จากนั้นเจ้าหน้าที่ ตม.จ.สมุทรปราการ ได้ร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐานและสืบสวนขยายผล จนพบความเชื่อมโยงว่า นายเจด เป็นผู้สั่งการในการลักลอบขนคน และในระหว่างช่วงต้นปี 2566 ถึงปัจจุบัน บัญชีธนาคารของนายเจดมีเงินหมุนเวียนกว่ 150 ล้านบาท โดยมีการธุรกรรมการเงิน กับผู้ต้องหาในคดีก่อนหน้าถึงกว่า 1 พันครั้ง พนักงานสอบสวนจึงขออนุมัติหมายจับนายเจด ต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการ ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 ตม.จว.ฉะเชิงเทรา ได้พบเหตุลักลอบขนคนกัมพูชาในพื้นที่ โดยได้ควบคุมตัวคนต่างด้าวไม่มีเอกสารหนังสือเดินทางกว่า 20 คน แต่ผู้ขับรถที่มาขนคนได้หลบหนีไปก่อน ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า นายเจด คือ ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว เต่อมานายเจดได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่
สอบสวน นายเจด รับสารภาพว่ามีส่วนร่วมในการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายจริง และที่มามอบตัว ก็เพราะรู้สึกกดดันที่ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามตัวอย่างหนัก จนตัวเองต้องหนีไปนอนในป่าหลายวัน และสุดท้ายคงหนีไม่รอด จึงขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ จากการขยายผลเพิ่มเติม พบว่านายเจดยังมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายลักลอบขนคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในคดีอื่นอีก ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนอีกคดี ตม.จ.สมุทรสาคร ร่วมกับ สภ.ม่วงสามสิบ จับกุมนางสุด (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี สัญชาติลาว ตามหมายจังหวัดอุบลราชธานี ในข้อหา ร่วมยาเสพคิดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) เพื่อการค้าและการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภา 2567 ตม.จ.สมุทรสาคร ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.ม่วงสามสิบ ว่านางสุด มีมีความผิดเกี่ยวกับจำหน่ายยาเสพติดและฟอกเงินได้หลบหนีหมายจับมาซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครจึงได้ร่วมกันออกสืบสวนหาข่าวและติดตามตัวจนกระทั่งทราบว่านางสุด จะมาติดต่อธุระส่วนตัวบริเวณใกล้กับที่ทำการ ตม.จ.สมุทรสาคร จึงได้ไปตรวจสอบจนกระทั่งพบตัวและทำการจับกุม จากการสืบสวนทราบว่านางสุดได้เปิดบัญชีธนาคารสำหรับรับโอนเงินกลับประเทศลาวโดยมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 70 ล้านบาทซึ่งจะทำการสืบสวนขยายผลต่อไป. -413-สำนักข่าวไทย
