บช.สอท. 7 มี.ค. – ผู้เสียหายร้องถูกมิจฉาชีพหลอกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมหลักหมื่น สุดท้ายได้สกินแคร์หลักร้อย ร้องตํารวจไซเบอร์ช่วยตามตัวดําเนินคดี
วันนี้ (7 มี.ค.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม นํากลุ่มผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอกซื้อขายกระเป๋าแบรนด์เนมทางช่องทางออนไลน์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอให้ช่วยเหลือทางคดีเนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นจํานวนมาก
ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้สั่งซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมผ่านเพจทางไอจีของมิจฉาชีพ เนื่องจากมีราคาถูกกว่าร้านอื่น ๆ 15-20% เพราะต้องการซื้อมาเพื่อเก็งกําไร จึงติดต่อไปยังบัญชีไลน์และมีการพูดคุย จนเชื่อว่าเขาเป็นแม่ค้าจริงๆ เพราะเวลาถามรุ่นกระเป๋าเขาสามารถตอบได้หมด รวมถึงยอดติดตามในไอจีที่ดูน้อยนั้นเขาอ้างว่าเพจเก่าบิน จึงไม่ติดใจสงสัยในเรื่องนี้ ก่อนตัดสินใจสั่งซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมในราคาประมาณกว่า 3 หมื่น แต่สุดท้ายได้เป็นสกินแคร์ราคา 200 กว่าบาทเท่านั้น
นอกจากนี้มีผู้เสียหายอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกนําบัญชีธนาคารไปใช้เป็นบัญชีม้า โดยตัวแทนผู้เสียหาย เล่าว่า ตนได้มีการหาสมัคงานตามสื่อออนไลน์ตามเพจต่าง ๆ โดยมิจฉาชีพได้มีการแอดติดต่อมาแนะนําตัวว่าเป็นทนายความ มีแฟนเป็นตํารวจ พร้อมกับชักชวนทํางานอ้างว่าเป็นงานออนไลน์ หลังจากนั้นมีการขอเลขบัญชีไป ต่อมาพบว่ามีเงินถูกโอนเข้าบัญชีและทางมิจฉาชีพโทรมาบอกว่าให้กดเงินดังกล่าวและโอนไปบัญชีที่เขาให้มา โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 1 พันบาท แต่สุดท้ายบัญชีธนาคารถูกอายัดพร้อมกับมีหมายเรียกจากสถานีตํารวจหลายพื้นที่ จึงรู้ตัวว่าถูกนําบัญชีไปใช้เป็นบัญชีม้า
ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า มิจฉาชีพรายนี้ทําเป็นขั้นตอนโดยผู้เสียหายทั้ง 2 กลุ่ม เกี่ยวข้องกัน โดยกลุ่มแรกที่สั่งซื้อกระเป๋าจะโอนเงินไปยังกลุ่มผู้เสียหายกลุ่มที่ 2 ซึ่งถูกหลอกใช้เป็นบัญชีม้า และถูกหลอกให้กดเงินออกมาโอนต่อกันเป็นทอด ๆ เพื่อตัดตอนหรือเพื่อให้ยากต่อการติดตามตัวจากเจ้าหน้าที่ตํารวจ จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ว่าหากหางานออนไลน์และมีการโอนเงินเข้าบัญชีในลักษณะดังกล่าวขอให้หยุด เพราะกําลังถูกหลอกใช้เป็นบัญชีม้าให้กับมิจฉาชีพและจะตกเป็นผู้ต้องหาเสียเอง รวมถึงการสั่งซื้อสินค้าแบรนด์เนมผ่านช่องทางออนไลน์ ขอให้ตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสอนใจสั่งซื้อเพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อจากแก๊งมิจฉาชีพ.-413-สำนักข่าวไทย