อัยการสั่งฟ้อง 4 ผู้ต้องหาในคดีบุกรุกบ้านอากู๋

กรุงเทพฯ 6 มี.ค. – อัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง 4 ผู้ต้องหา คดีบุกรุกบ้านอากู๋ ในซอยรามอินทรา 58 ขณะที่ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ


วันนี้ (6 มี.ค.) เวลา 10.00 น. สำนักงานอัยการสูงสุดมีนบุรี นัดฟังคำสั่งทางคดี หลังเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ตร.สน.โคกคราม ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 5 คน พร้อมสำนวน และความเห็นสั่งฟ้องในคดีบุกรุกบ้านอากู๋, ลักทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์ ฯลฯ ส่งฟ้องต่ออัยการ โดยผู้ต้องหาทั้งหมดมาตามนัดหมาย เบื้องต้นอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ก่อนควบคุมตัวส่งฟ้องต่อศาลอาญามีนบุรี ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน คือ น.ส.ภาณุมาส เสียชีวิต อัยการได้สั่งยุติการดำเนินคดี ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามกลุ่มผู้ต้องหา โดยเฉพาะนางสาวศรีพรรณ 1 ในผู้ต้องหาว่ายังคงให้การปฏิเสธข้อหาหรือไม่ แต่ผู้ต้องหาไม่ตอบคำถามใด รีบขึ้นรถตู้ออกไปทันที

ด้านนายสุรศักดิ์ ภู่นาค ทนายความของกลุ่มผู้ต้องหา บอกว่าเบื้องต้นรับผิดชอบในส่วนคดีอาญาเท่านั้น โดยที่ผ่านมาได้มีการพูดคุย และเจรจากับคู่กรณีอย่างต่อเนื่อง ในการพยายามแก้ไขปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่บานปลายไปมากกว่านี้ โดยทุกอย่างว่าไปตามพยานหลักฐาน ถ้าพยานหลักฐานพบว่ามีความผิดก็พร้อมยอมรับ


ขณะที่นายอานนท์ จิตตกุล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา มีนบุรี 1 เปิดเผยว่า เบื้องต้นอัยการพิจารณาสำนวนพยานหลักฐาน เห็นว่าคดีมีมูล จึงมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ใน 3 ข้อหา คือบุกรุก ลักทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์ ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน พนักงานสอบสวนทำหนังสือแจ้งว่าเสียชีวิต อัยการจึงมี ความเห็นสั่งยุติการดำเนินคดี เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยไม่ได้มีการร้องขอความเป็นธรรมในชั้นอัยการ แต่ทั้งนี้ผู้ต้องหาก็มีสิทธิ์กลับคำให้การในชั้นศาล เพื่อเป็นเหตุบรรเทาโทษได้ ในขณะเดียวกันฝั่งผู้เสียหายก็สามารถเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่งได้

ด้านนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ ทนายฝั่งผู้เสียหาย กล่าวว่า จนถึงตอนนี้คู่กรณีรวมถึงทนายความยังไม่ได้ติดต่อเข้ามาพูดคุยกับลูกความอย่างเป็นทางการ แม้ที่ผ่านมาได้แสดงความประสงค์ที่จะเข้ามาเจรจา แต่ในเมื่อคดีถึงชั้นศาลแล้วก็ให้มาพูดคุยกันที่ศาล ซึ่งวันนี้อัยการได้นัดส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดในคดีบุกรุกฯ ซึ่งเป็นสำนวนในคดีแรกจาก 3 คดี สำหรับค่าเสียหายคดีอาญายังไม่มีการพูดคุย ต้องรอดูสำนวนของพนักงานอัยการก่อน ว่ามีการประเมินเรียกค่าเสียหายเท่าใด และมาพิจารณาค่าเสียหายเพิ่มเติม ส่วนสำนวนคดีบุกรุกฯ ที่แจ้งความ น.ส.ศรีพรรณ คนเดียว เป็นสำนวนคดีที่ 2 พนักงานสอบสวน ยังคงสอบสวนอยู่

ส่วนสำนวนคดีที่ 3 เป็นคดีแพ่งหรือคดีครอบครองปรปักษ์ แม้ น.ส.ศรีพรรณ ได้แจ้งความจำนงยื่นถอนการครอบครองปรปักษ์แล้ว แต่ศาลยังไม่มีคำสั่งถอนคำร้องครอบครองปรปักษ์ โดยศาลจะนัดหมายชี้สองสถานคดีแพ่งในวันที่ 18 มีนาคมนี้ ที่ศาลแพ่งมีนบุรี ซึ่งลูกความจะเรียกร้องค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นเงิน 3 แสนบาท และเรียกเก็บค่าเช่าย้อนหลัง 6 ปี ตามที่มีหลักฐาน โดยให้จ่ายเป็นเดือนๆ ละ 20,000 บาท


ขณะที่ น.ส.อำนวยพร ยังคงยืนยันว่าหากเปลี่ยนตัวทนายวัฒนา เรืองแก้ว ทนายฝั่งคู่กรณี ตามข้อตกลงของอากู๋ ก็จะเจรจากันได้ง่ายขึ้น แต่จนขณะนี้เจ้าตัวไม่เคยติดต่อเข้ามาพูดคุย และในคำสั่งถอนฟ้องปรปักษ์ของคู่กรณี ยังเป็นชื่อของ ทนายวัฒนา อยู่

ล่าสุดภายหลังพนักงานอัยการมีนบุรี มีความเห็นสั่งฟ้อง 4 ผู้ต้องหา ในคดีบุกรุกบ้านอากู๋ และส่งตัวฟ้องต่อศาลอาญามีนบุรี เบื้องต้น ศาลได้รับคำฟ้อง โดยจำเลยทั้ง 4 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่ทนายจำเลยยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 50,000 บาท ขอประกันตัวจำเลยทั้ง 4 คน โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยทั้ง 4 มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติการณ์หลบหนีจึงอนุญาตให้ประกันตัว โดยไร้เงื่อนไขใด ๆ

นอกจากนี้ทนายจำเลยแจ้งความประสงค์ที่จะขอไกล่เกลี่ย ศาลอาญามีนบุรีจึงนัดคุ้มครองสิทธิ์ทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อพูดคุย สอบถามว่าจะมีการเรียกร้อง หรือชดเชยอะไรอย่างไร ในวันที่ 25 มีนาคม เวลา 10.00 น. ทั้งนี้ หากไม่สามารถตกลงในวันดังกล่าวได้ ศาลก็จะนัดพร้อมทั้งสองฝ่ายอีกครั้ง ในวันที่ 7 พฤษภาคม เวลา 09.00 น.. -413-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก