จบด้วยดี! ชายตีกินร้าน “เจ๊ไฝ” อ้างเป็นตำรวจแค่ไม่อยากรอคิว

กรุงเทพฯ 1 มี.ค.-ชายตีกินร้าน “เจ๊ไฝ” สตรีทฟู้ด ระดับมิชลิน ไม่ใช่ตำรวจ ล่าสุดจบด้วยดี หลัง ตร.เชิญตัวมาสอบ อ้างไม่ได้ตั้งใจชักดาบ แต่ลืมเพราะรีบไปเอารถ พร้อมจ่ายค่าอาหารคืน 2,310 บาท ด้าน “เจ๊ไฝ” ให้อภัย ไม่เอาเรื่อง


จากกรณี “เจ๊ไฝ” เจ้าของร้านอาหารสตรีทฟู้ดระดับมิชลิน โพสต์ IG Story หลังเจอลูกค้าแซงคิว อ้างตัวเป็นตำรวจยศสารวัตร ชื่อ “วิโรจน์” หรือ หนุ่ม อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ขอแซงคิวกินข้าวก่อน พร้อมสั่งไข่เจียวปูใส่ห่อกลับบ้าน ก่อนชิ่งหนีไม่จ่ายเงิน

ล่าสุด พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.สำราญราษฎร์ เปิดเผยความคืบหน้าว่า หลังเกิดเหตุมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาเบาะแสชายคนดังกล่าวก่อนเชิญตัวมาให้ข้อมูลเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา เบื้องต้นชายคนดังกล่าว อายุ 62 ปี ยอมรับว่าได้กล่าวอ้างว่าเป็นตำรวจระดับสารวัตรจริง แต่เป็นการกล่าวอ้างเพื่อที่จะให้ตนสามารถเข้าไปนั่งรับประทานอาหารภายในร้านได้ เนื่องจากร้านเจ๊ไฝ เป็นที่ทราบกันว่า เป็นร้านที่ต่อคิวนาน ด้วยความที่ขี้เกียจรอคิว จึงคิดว่าหากอ้างว่าตนเองเป็นตำรวจอาจจะสามารถเข้าไปนั่งในร้านได้เร็วขึ้น


ส่วนทางฝั่งร้านก็เข้าใจว่าเป็นตำรวจมาลงคิวเอาไว้ก่อนหน้านี้ แม้จะมีการตรวจสอบในระบบจองแล้วว่าไม่มีตำรวจระดับสารวัตรมาจองคิว แต่ด้วยความเข้าใจผิดและสถานการณ์วุ่นวายจึงให้ชายคนดังกล่าวเข้าไปกินอาหารในร้านได้ โดยได้สั่งเมนูกะเพราเนื้อราดข้าว 1 จาน นั่งกินในร้าน และสั่งไข่เจียวปู กลับบ้าน แล้วออกจากร้าน

ชายคนดังกล่าว ยืนยันไม่ได้ตั้งใจชักดาบ แต่ลืมเพราะรีบไปเอารถที่นำมาซ่อมกระจกไว้ ซึ่งหลังจากสอบสวนได้ข้อมูลจึงพาตัวชายคนดังกล่าวไปพบกับเจ๊ไฝ โดยเจ้าตัวได้ขอโทษและจ่ายค่าอาหาร กระเพราเนื้อราดข้าว 830 บาท ไข่เจียวปู 1,400 บาท และค่าห่อกลับบ้าน 80 บาท รวมเป็นเงิน 2,310 บาท ซึ่งเจ้ไฝ ก็ให้อภัย ไม่ติดใจเอาความ หรือดำเนินคดี ให้เลิกแล้วต่อกัน ที่ผ่านมาเคยมีลูกค้าชาวต่างชาติมากินอาหารและไม่จ่ายเงินแต่ก็ติดต่อไปทางโรงแรมให้มาจ่ายเงินและไม่ได้ติดใจเอาความกับใคร แต่ไม่เคยมีคนไทยทำแบบนี้มาก่อน ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตกใจ และได้ต่อว่าลูกสาวที่ไม่ยอมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังตั้งแต่ต้น จนทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โต

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าชายคนดังกล่าวหลังจากกินข้าวเสร็จได้ออกจากร้านเจ๊ไฝ เดินมุ่งหน้าไปทางถนนบริพัตร เพื่อไปเอารถที่นำมาซ่อมไว้ และได้จ่ายค่าซ่อมกระจกรถยนต์เป็นเงินประมาณ 4,000 บาท ซึ่งก็ตรงตามข้อมูลที่ให้ไว้กับเจ้าหน้าที่ จึงเชื่อว่าไม่มีเจตนาชักดาบค่าอาหาร ร้านเจ๊ไฝจึงไม่ได้มีการแจ้งดำเนินคดีใด ๆ ประกอบกับก่อนหน้านี้เจ๊ไฝไม่ได้มีการแจ้งความไว้ และเมื่อพูดคุยกันเข้าใจให้อภัยกันแล้ว จึงปล่อยตัวกลับไป


ส่วนประเด็นว่าจะสามารถเอาผิดในข้อหาที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ได้หรือไม่นั้น ผกก.สน.สำราญราษฎร์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบแล้วการกระทำดังกล่าวยังไม่ครบองค์ประกอบความผิดที่จะดำเนินคดีในข้อหาอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้. -413-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”