“กัน จอมพลัง” พาเหยื่อศัลยกรรม ร้องเพิ่มอีก 2 ราย

1 มี.ค. – “กัน จอมพลัง” พาผู้เสียหายเหยื่อศัลยกรรม มาร้องเพิ่มอีก 2 ราย หลังพบเป็นแพทย์คนเดียวกับที่ทำ “น้องนิ้ง” ร้อง สบส.-แพทยสภา ตรวจสอบใบอนุญาตวิชาชีพแพทย์ และใบอนุญาตเปิดคลินิก หลังพบพยายามจะขอเปิดคลินิกอีกครั้ง


นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พาผู้เสียหายอีก 2 คน และพี่ชายของน้องนิ้ง เหยื่อศัลยกรรม มาร้องเรียนที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งผู้เสียหายเป็นกรณีต่อเนื่องจากเคสแรกที่พี่ชายของน้องนิ้ง เหยื่อศัลยกรรมความงามคลินิกแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง มาร้องให้ช่วยติดตามคดี หลังน้องสาวกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรานอนติดเตียงเกือบ 5 ปี โดยคลินิกไม่รับผิดชอบค่ารักษา และยังถูกทางโรงพยาบาลแห่งที่ 2 ที่เข้ารักษาตัวฟ้องเรียกค่ารักษาเกือบ 30 ล้านบาท จนมีเคส 2 และ 3 มาร้องให้ช่วย

โดยเคส 2 เป็นชายผู้เสียหาย เปิดใจว่า ตนทำอาชีพนายแบบ เคยมีรายได้เดือนละ 100,000-200,000 บาท แต่ตอนนี้ไม่สามารถทำงานได้ เพราะต้องใช้หน้าตาในการทำอาชีพ เมื่อปี 62 ได้ไปทำศัลยกรรมกับแพทย์เดียวกันนี้ที่คลินิก ตั้งใจไปทำศัลกรรมประรูปหน้า ทุบโหนก และตัดกราม แต่ทำครั้งแรกโหนกแก้มไม่ยุบ จึงติดต่อเอเจนซีและเข้ามาทำอีกครั้ง ก็ยังไม่ดีขึ้น


หลังทำ 1 เดือน มีรอยบุ๋มมีหน้า เหมือนถูกต่อย หน้าเสียโฉม จึงพยายามติดต่อคลินิก แต่ก็ไม่มีความรับผิดชอบใดๆ บอกแพทย์ทำดีแล้ว ตนจึงไปเอกซเรย์กระดูกหน้า พบว่าแพทย์ทำการศัลยกรรมผิดวิธี ไม่ได้ใช้อุปกรณ์ตามมาตรฐาน ที่ผ่านมาไม่มีการติดต่อขอเยียวยาใด ๆ จึงไปฟ้องศาล จนมีคำสั่ง ศาลชั้นต้น สั่งให้จ่ายเงินเยียวยา 1.1 ล้านบาท ซึ่งจนถึงวันนี้ยังไม่ได้มีการจ่ายแต่อย่างใด

ขณะที่เคสที่ 3 หญิงผู้เสียหาย เล่าว่า ทุกวันนี้ตนเหมือนหญิงพิการ ไม่สามารถให้นมบุตรได้ตลอดชีวิต ผลกระทบจากการทำศัลยกรรมไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ตนต้องเป็นโรคซึมเศร้าและไบโพลาร์ จากการไปทำศัลยกรรมปรับขนาดหน้าอก เมื่อปี 62 จากแพทย์คนเดียวกันนี้ ผิดพลาดจนทำให้หัวนมทั้งสองข้างเนื้อตายต้องตัดทิ้ง โดยตนเรียกร้องขอค่าเสียหายไป 2 ล้านบาท คลินิกและแพทย์บอกให้ไปฟ้องเอา และยังไม่เคยได้รับทั้งคำขอโทษ ซึ่งในชั้นไกล่เกลี่ย ได้มีการเคลียร์ให้จ่ายค่าเยียวยา จบที่ 8 แสนบาท แต่จนถึงวันนี้ได้มาเพียง 3 แสนบาท จึงอยากเตือนภัยผู้ที่คิดจะทำศัลยกรรมให้ศึกษาก่อนให้ดี แม้จะมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ก็ไม่ได้การันตีว่าจะดี จึงอยากให้ไปดูประวัติการรักษาผลงานของแพทย์ให้ดีก่อนด้วย

ด้าน กัน จอมพลัง เผยว่า ตนได้ประสานร้องเรียนผ่าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข อยากให้ติดตามด้วยว่าแพทย์คนดังกล่าว ที่ถูกพักใบประกอบวิชาชีพไปแล้ว และกำลังจะครบเวลาถูกพักใบ ตนจะมาร้องขอให้ตรวจสอบ จากนี้จะดำเนินการ ถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้หรือไม่ เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมาจากการที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อเหยื่อ ทำให้มองว่าไม่มีความเหมาะสมที่จะประกอบอาชีพนี้อีก ส่วนของแพทย์เจ้าของคลินิก มีเจ้าหน้าที่ไปตรวจเจอว่า เป็นบุคคลที่ถูกสั่งเป็นบุคคลล้มละลาย ตั้งแต่ปี 65 จึงอยากมาสอบถามว่าใน ปี 67 จะขอเปิดคลินิกอีกได้หรือไม่


กัน จอมพลัง ยังเปิดเผยว่า มีความพยายามจะขอคุยจากอีกฝั่งติดต่อบอกอยากจะชี้แจง แต่ตนบอกว่า ขอให้เอาความจริงมาคุยกันและต้องมีการแสดงการจะบรรเทาเยียวยาเหยื่อ และขอโทษแบบจริงใจด้วย

ด้าน นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า แพทย์รายนี้เข้าในขั้นตอนคณะกรรมการการตรวจสอบ ที่มีการร้องเรียนว่ามีการรักษาคนไข้ไม่ได้มาตรฐาน มีการส่งเรื่องเข้าระบบรับเรื่องเปรียบเทียบคดี ซึ่งจากข้อมูลพบว่า แพทย์ผู้ทำศัลยกรรมคนดังกล่าวถูกพักใบอนุญาตจากแพทยสภา ตั้งแต่วันที่ ก.ค.65-มิ.ย.67

ส่วนแพทย์อีกรายที่เป็นเจ้าของคลินิก ทราบว่าถูกศาลตัดสินสั่งเป็นบุคคลล้มละลายไปแล้วจึงไม่สามารถไปเปิดคลินิกได้อีก หากยังมีชื่อเป็นเจ้าของ ตามที่มีรายงานว่าล่าสุด มีความพยายามไปขออนุญาตเปิดคลินิกสองแห่ง คือที่ กทม., เพชรบุรี ทางกรม สบส.ก็จะนำเรื่องเข้ากรรมการสถานพยาบาล เพื่อตรวจสอบให้ไม่สามารถเปิดตามที่ร้องขอเพราะเป็นบุคคลที่ถูกสั่งล้มละลาย โดยตามกฎหมาย การดำเนินเอาผิดที่กรม สบส.ทำได้ จะเป็นการเปรียบเทียบคดีได้แค่โทษปรับ หากดำเนินการผิดมาตรฐาน ถ้าเกินกว่านั้นต้องเป็นคดีอาญา ตามที่ผู้เสียหายได้ไปแจ้งความ หรือฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย

อธิบดี สบส. ยังเตือนประชาชนหากต้องการทำศัลยกรรมควรตรวจสอบข้อมูลทั้งคลินิกและแพทย์ให้ตรงกันกับสถานประกอบการที่ได้แจ้งไว้ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพว่าตรงกันหรือไม่ เบื้องต้นหากพบว่าไม่ตรงสามารถร้องเรียนมาที่กรมฯ ให้ดำเนินการได้เช่นกัน

จากนั้น กัน จอมพลังได้พาผู้เสียหาย 2 ราย และตัวแทนผู้เสียหายรายแรก คือพี่ชายของน้องนิ้ง มายื่นหนังสือและร้องต่อแพทยสภา เพื่อดำเนินการตรวจสอบการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์คนดังกล่าวเพิ่มเติมด้วย.-417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วมือเผารถ “ศิริโชค” ญาติเผยจิตไม่ปกติ

6 ก.ค. – จับได้แล้ว มือวางเพลิงรถยนต์ “ศิริโชค” ตำรวจเค้นสอบ ยอมรับก่อเหตุจริง ญาติเผยจิตไม่ปกติ พูดคนเดียวมาหลายเดือน ด้าน “ศิริโชค” ไม่เชื่อลงมือเองจากอาการทางจิต น่าจะมีคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง กล้องวงจรปิดจับภาพนายเบียร์ อายุ 29 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในซอยบ้านพักของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.เขต 7 สงขลา 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงตี 3 คืนวานนี้ (5 ก.ค.) ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา และไปคุยกับคนเฝ้าบ้านนายศิริโชค ที่ประตูหน้าบ้าน ก่อนขี่รถออกไป จากนั้นช่วงเวลา 03.45 น. นายเบียร์ขี่รถย้อนกลับเข้าไปในซอยบ้านของนายศิริโชคอีกครั้ง ก่อนจะมีข่าวรถยนต์ GWM HAVAL H6 PHEV หรือปลั๊กอิน-ไฮบริด กึ่งไฟฟ้ากึ่งน้ำมัน เกิดเพลิงไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ซึ่งขณะนั้น ยังไม่มั่นใจว่าเกิดจาะระบบรถยนต์ขัดข้อง หรือสาเหตุอย่างอื่น จนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นที่แน่ชัดว่า นายเบียร์เป็นคนก่อเหตุวางเพลิงรถยนต์ของนายศิริโชค […]

“โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 6 ก.ค. – “โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา “สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ-หน่วยงานปกครอง” ลงด้วยเพียบ สงสัยฝั่งตรงข้ามเป็นฐานสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์ หรือไม่ แย้มมีข้อมูลทุนใหญ่เป็นหลังบ้านผู้มีอำนาจกัมพูชา เจอแน่ปิดห้องคุยพรุ่งนี้ แนะสร้างเสาเซ็นเซอร์ตรวจจับชายแดน หมาแมวตรวจได้หมด หากลักลอบเข้า ด้าน “ชุติพงศ์” โวย เขมรไม่ทำรั้ว-รับผิดชอบ ปล่อยผ่านคนลักลอบเข้าออก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร​ ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว​ ร่วมกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ​ สภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อดูการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและการบริหารกิจการชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยมีหน่วยงานความมั่นคง​ นายอำเภอ​ กรมการปกครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ด้วย จุดแรกมาที่บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้า​อรัญประเทศ​ โดย พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา รายงาน​ว่า​ จุดนี้​เป็นพื้นที่​ที่การข่าวแจ้งว่า​ใช้เป็นช่องทางลักลอบข้ามไปฝั่งกัมพูชา​ เป้าหมายไปทำงานหรือเล่นการพนัน​ ปัจจุบันได้ซีลพื้นที่ตรงนี้แล้ว แต่ก็มีการลักลอบเข้าออกตลอด แม้จะมีสถานการณ์ไทย-กัมพูชา […]

“บิ๊กเต่า” ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด คลี่ปมพัวพันสีกา ก.

6 ก.ค.- “บิ๊กเต่า” เผยคำให้การสีกา ก. เป็นประโยชน์ อาจโยงไปถึงการทุจริต แต่ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด เตรียมประชุมคณะทำงานสัปดาห์หน้า เรียกผู้เกี่ยวข้องสอบเพิ่มเติม ยืนยันหากพบใครเอี่ยวพร้อมดำเนินคดี 12.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงกรณีการเรียกตัวสีกาอักษรย่อ ก. มาสอบปากคำ ว่า หลังจากนำตัวสีกา ก. มาสอบ ก็ได้ข้อมูลในแนวทางที่ดีและมีประโยชน์ อาจนำไปสู่เรื่องที่อาจเอี่ยวกับการทุจริต แต่ก็จะต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด เพราะทุกอย่างต้องชัดเจน เนื่องจากคำให้การอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีหลักฐานอื่นประกอบด้วย จากคำให้การของสีกา ก. ว่า มีการเล่นพนันออนไลน์ แล้วเงินที่ใช้เล่นเป็นเงินส่วนไหน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า “ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่เขามีการเล่นพนันจริง” ตอนนี้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว โดยมี ปปป. เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวพันหลายพื้นที่ ส่วนเรื่องบัญชีวัด ทางบก.ปปป. ก็มีอำนาจสามารถตรวจสอบได้เลย ประมาณวันจันทร์-อังคารที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า สีกา ก. เคยทำให้พระสึกมาแล้วถึง 2 รูป จริงหรือไม่ […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย