สตม.รวบนักลงทุนชาวจีนเลี่ยงภาษีมูลค่าเกือบ 20 ล้านบาท

 22 ก.พ. – ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แถลงข่าวจับกุมนักลงทุนชาวจีน เลี่ยงภาษีมูลค่าเกือบ 20 ล้านบาท พร้อมรวบนักท่องเที่ยวไต้หวัน “OVERSTAY” (32 วัน) หนีหมายจับคดีคอลเซ็นเตอร์ มากบดานเมืองพัทยา


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 ก.พ. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เมืองทองธานี พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พ.ต.อ.คธาธร คำเที่ยง รอง ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.อรรถพล มีเสียง รอง ผบก.กต.10 ปฏิบัติราชการ บก.ตม.3 พ.ต.ท.วิรชา สนั่นศิลป์ รอง ผกก.สส.บก.ตม.3 พ.ต.ท.กวิณวัชนร์ อารยะสุริวงศ์ รอง ผกก.ตม.จว.ชลบุรี บก.ตม.3 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ จำนวน 3 คดี

คดีแรก สตม.รวบนักลงทุนชาวจีนตามหมายจับเลี่ยงภาษีมูลค่าเกือบ 20 ล้านบาท สืบเนื่องจาก ตม.จว.ชลบุรี ร่วมกับ กก.2 บก.ปอศ. จับกุม Mr.Wang (นามสมมุติ) อายุ 53 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยาที่ 60/2567 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันเคลื่อนย้ายของออกไปจากเขตปลอดอากรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร” โดยจับกุมได้ภายในบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จว.ชลบุรี


สำหรับ Mr.Wang ซึ่งเป็นกรรมการของบริษัทแห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่ ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ได้ร่วมกันกับพวกนำสินค้าเบ็ดเตล็ด อาทิเช่น กระเป๋า ผ้าพันคอ ชุดผ้าปูที่นอน กรอบโทรศัพท์ เก้าอี้ กล่องพลาสติก โคมไฟ ไม้เซลฟี่ ข้าวโพด (ป๊อบคอร์น) ฯลฯ เข้ามาในราชอาณาจักร โดยสำแดงการใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อนำเข้าไปในเขตปลอดอากร

แต่พนักงานศุลกากรได้เข้าทำการตรวจสอบหลังการตรวจปล่อย ณ เขตปลอดอากร เอ็มที ฟรีโซน ในบริษัทดังกล่าว พบข้อเท็จจริงว่าสินค้าเบ็ดเตล็ดที่บริษัทฯ ได้นำเข้ามาตามใบขนสินค้าขาเข้าทั้ง 31 ฉบับ กลับไม่พบสินค้าเก็บอยู่ และไม่พบว่าบริษัทฯ ได้มีการจัดทำใบขนสินค้าขาเข้าโอนย้ายชำระภาษีอากร (ประเภท P) เพื่อนำของออกจากเขตปลอดอากรเพื่อใช้หรือจำหน่ายในราชอาณาจักร และไม่มีการจัดทำใบขนสินค้าขาออก เมื่อสอบถามบริษัทฯ ก็ไม่สามารถนำเอกสารหลักฐานมาแสดงต่อพนักงานศุลกากรเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงได้ ทางกรมศุลกากรจึงร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบริษัทฯ และ Mr.Wang รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้งในฐานะนิติบุคคลและฐานะส่วนตัว

หลังจากที่ศาลจังหวัดพัทยาได้ออกหมายจับแล้ว จากการสืบสวนของ ตม.จว.ชลบุรี ทราบว่า Mr.Wang ได้เดินทางไปที่บริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี จึงได้ร่วมกับ กก.2 บก.ปอศ. ไปตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบ Mr.Wang จึงได้แสดงหมายจับและทำการจับกุม


คดีที่ 2 ตม.จว.ชลบุรี ร่วมกับ กก.2 บก.ทท.1 จับกุม MR.LIU (นามสมมติ) อายุ 22 ปี สัญชาติไต้หวัน โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม พื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี

ตม.จว.ชลบุรี ได้รับแจ้งข้อมูลจากอาสาสมัคร (volunteer) ชาวต่างชาติ ว่าพบคนต่างด้าวมีพฤติการณ์น่าสงสัยซึ่งอาจเป็นผู้กระทำผิดกฎหมาย จึงได้สืบสวนข้อมูลในเชิงลึกเบื้องต้นพบว่าคนต่างด้าวดังกล่าวคือ MR.LIU (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี สัญชาติไต้หวัน ซึ่งการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดแล้ว (Overstay) และมักจะลักลอบกบดานใน พื้นที่ กรุงเทพฯ และ จ.ชลบุรี จึงได้ตรวจสอบข้อมูลไปยัง สำนักเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย (ไต้หวัน) รับแจ้งว่า MR.LIU เป็นบุคคลตามหมายจับของทางการไต้หวัน ในความผิด ฉ้อโกง โดยมีพฤติการณ์เป็น แก๊งคอลเซ็นเตอร์จริง จึงได้ร่วมกับ กก.2 บก.ทท.1 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกสืบสวนติดตามจับกุม จากการสืบสวนทราบว่า MR.LIU จะมาท่องเที่ยวในย่านถนนคนเดินวอล์คกิ้งสตรีท (WAILKING STREET) ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนกระทั่งพบ MR.LIU จึงได้ทำการจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ดำเนินคดี

คดีที่ 3 ตม.จว.สมุทรสาคร จับกุม นางมิ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี สัญชาติเมียนมา โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้, ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ด้วยประการใด ๆ ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร โดยจับกุมได้ที่บ้านพักย่าน ถ.เจษฎาวิถี ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จว.สมุทรสาคร

สืบเนื่องจาก ตม.จว.สมุทรสาคร ได้สืบสวนทราบว่า มีคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา มีพฤติการณ์ลักลอบขายสินค้าหนีภาษี ทางช่องทางออนไลน์ จึงได้สืบสวนข้อมูลในเชิงลึก เบื้องต้นพบว่าคนต่างด้าวดังกล่าว พักอาศัยอยู่ในบ้านพักย่าน ถ.เจษฎาวิถี ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร โดยได้มีการไลฟ์สดและโพสต์ขายสินค้าทางเฟซบุ๊ก ซึ่งตัวสินค้า มีความผิดทางกฎหมาย จึงขอหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาครเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบนางมิ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมของกลาง เป็นกลุ่มสินค้าประเภทอาหารเสริม วิตามิน น้ำมันหรือสเปรย์ ฉีดเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งไม่มีฉลากภาษาไทย และเครื่องหมาย อย. ร่วม 200 รายการ

และจากการตรวจสอบเอกสารของนางมิ พบใบอนุญาตทำงานระบุประเภท กรรมกร แต่มาลักลอบขายสินค้าออนไลน์ และไม่ได้ทำงานตามประเภทที่ได้รับอนุญาตไว้ตามกฎหมาย จึงได้ทำการจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดีตามกฎหม่ยต่อไป

คดีสุดท้าย ตม.3 ระดมเข้ม X-RAY พื้นที่เสี่ยง 25 จุด ปูพรมตรวจค้นสถานบริการ ร้านอาหาร คาราโอเกะ รวบ 4 คนไทย 7 ต่างด้าว ลอบทำงานผิดกฎหมาย

บก.ตม.3 ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดในภาคตะวันตก ภาคกลาง ภาคตะวันออก ของประเทศไทย รวมจำนวน 25 จังหวัด ได้ดำเนินการสืบสวน รวบรวมข้อมูล การกระทำผิดกฎหมายของคนต่างด้าวรวมถึงคนไทย ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบกระทำผิดกฎหมาย ลักลอบทำงาน เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต รับคนต่างด้าวทำงานโดยผิดกฎหมาย รวมถึงการค้ามนุษย์ หลบหนีเข้าเมือง อยู่เกินกำหนดอนุญาต ซึ่งคนต่างด้าวที่กระทำผิดกฎหมาย อาจก่ออาชญากรรมอื่น ๆ สร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนได้ บก.ตม.3 จึงได้ทำการการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งในห้วงเดือน มกราคม 2567 – ปัจจุบัน ได้ดำเนินการตรวจค้น ตรวจสอบ เป้าหมายในพื้นที่ทั้งหมด 25 จุดเสี่ยง มีผลการจับกุมรวมทั้งสิ้น 11 ราย แบ่งเป็น คนต่างด้าวสัญชาติลาว 4 ราย สัญชาติกัมพูชา 3 ราย และคนไทย จำนวน 4 ราย

ซึ่งผู้กระทำผิดทั้ง 11 รายข้างต้น ถูกจับกุมและดำเนินคดีในข้อหา เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน, ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยได้ประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าว    ที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตพ้นจากการจับกุม รวมถึงความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของคนต่างด้าวยังถูกดำเนินคดีในข้อหา เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน และนอกจากนี้ในส่วนของเจ้าของสถานที่ที่ให้คนต่างด้าวพักอาศัย แต่ไม่แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 38 ก็ได้ถูกจับกุมดำเนินคดีด้วย เช่นกัน. -414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]