20 ก.พ. – ชาวนครศรีธรรมราชนั่งรถไฟนานกว่า 16 ชั่วโมง ร้อง “กัน จอมพลัง” หลังลูกหลานของครอบครัวถูก “กลุ่มวัยรุ่นทะลุถุง” รุมทำร้าย สร้างความวุ่นวายให้คนในพื้นที่
ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นกลุ่มวัยรุ่นทะลุงถุง 5-6 คน ใส่เสื้อแขนยาว-ขายาว กำลังวิ่งไล่กวดชายวัยรุ่นคนหนึ่งที่บาดเจ็บ ออกไปหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช โดยก่อนหน้าเกิดเหตุแทงกันในห้างสรรพสินค้าได้มีพนักงานให้การช่วยเหลือ
จากเหตุดังกล่าว ครอบครัว 3 ครอบครัว พาลูกหลานที่ได้รับบาดเจ็บ นั่งรถไฟหนีจากนครศรีธรรมราช มากรุงเทพฯ ร่วม 16 ชั่วโมง เพื่อขอความช่วยเหลือจากนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง เพราะทนกับพฤติกรรมกลุ่มวัยรุ่นทะลุถุงในจังหวัดไม่ไหว ทั้งดักทำร้าย เอามีดไล่แทงเด็ก ตอนกลางคืนขับรถไปตามหมู่บ้าน เอาปืนออกมายิงชาวบ้าน แถมคนก่อเหตุเป็นลูกตำรวจในพื้นที่ ไม่เกรงกลัวอะไร อีกทั้งหลังก่อเหตุไม่รู้ใช้วิธีไหน สามารถนำภาพจากกล้องวงจรปิดโพสต์ลงสตอรี่โชว์ว่าไปไล่กระทืบคนมา แถมชอบโชว์ปืนเป็นประจำ และภาพถ่ายยิงปืนเข้าใส่กำแพงโชว์ศักยภาพ
หนึ่งในผู้ปกครองเล่าเหตุการณ์ว่า ลูกชายไปเดินเล่นที่ห้างฯ ดังกล่าว ตอนนั้นมีวัยรุ่นเดินตามตลอดเวลา แต่ไม่ได้เอะใจ จนลูกชายเดินลงมาจากที่จอดรถจะกลับบ้าน จู่ๆ กลุ่มวัยรุ่นทะลุถุงใส่เสื้อแขนยาว 5-6 คน ยืนดักรออยู่บริเวณลานจอดรถในห้างฯ แล้วกระโดดถีบและกระทืบลูกชาย จากนั้นมีผู้ก่อเหตุคนหนึ่งชักมีดออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ก่อนกระหน่ำแทงหลายครั้งบริเวณหลังและข้อมือ ลูกชายพยายามวิ่งหนีออกไปนอกห้างฯ แต่ยังโดนตามไล่อีก
นอกจากนี้ยังขโมยเสื้อตัวใหม่ของลูกชายที่เพิ่งซื้อมาด้วย นับว่าโชคดีที่พลเมืองดีช่วยเหลือไว้ จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุนำภาพเหตุการณ์ไปโพสต์โซเชียล ตนแปลกใจว่าห้างสรรพสินค้าให้ไปได้อย่างไร จึงไปสอบถามได้คำตอบว่าทางห้างฯ ไม่ได้ให้ไป เพราะจะมอบภาพให้ได้ก็ต้องมีหนังสือขออนุญาตจากตำรวจ
ขณะที่แม่ของผู้เสียหายอีกคน บอกว่าเมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 4 ทุ่ม ลูกชายออกไปซื้อของที่ตลาดโต้รุ่งทุ่งสง อ.ทุ่งสง พบกับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ยิงปืนใส่ จากนั้นมัดมือลูกชายและรุมทำร้าย ทั้งใช้มีดฟันและใช้ปืนข่มขู่ ลูกชายของตนยกมือขึ้นมาป้องกันไม่ให้โดนศีรษะ จึงถูกฟันเข้าที่มือจนเอ็นขาด และมีบาดแผลบริเวณศีรษะ เข่า และข้อเท้า
กัน จอมพลัง หาข้อมูลพบว่ากลุ่มวัยรุ่นทะลุถุง มีสมาชิกทั้งหมด 40-50 คน และมีลูกของตำรวจอยู่ด้วย พฤติกรรมกลุ่มนี้จะก่อเหตุไปเรื่อย คุณยายของผู้เสียหาย อายุ 72 ปี เคยไปแจ้งความแล้ว แต่ตำรวจกลับบอกว่าเป็นคดีเยาวชน จับตัวยาก ดำเนินคดียาก และไม่รับแจ้งความ คุณยายไปสถานีตำรวจถึง 3 ครั้ง แต่ถูกปฏิเสธรับแจ้งความทุกครั้ง อ้างว่าให้พ่อแม่ของเด็กมาแจ้งความเอง ตนจึงตั้งคำถามกับตำรวจว่าทำไมถึงไม่ให้ความช่วยเหลือประชาชน ทำไมไม่บังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้อง ตอนนี้ชาวบ้านไม่ไว้ใจตำรวจในพื้นที่แล้ว จนต้องมาหาตน เบื้องต้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นหนังสือและหลักฐานให้ช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผบ.ตร. สั่งการให้ประสานผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อประชุมสอบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นทราบตัวผู้ก่อเตหุทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างเข้าจับกุม.-สำนักข่าวไทย