“พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย” แจงข้อเท็จจริงกรณีตกเป็นผู้ต้องหาโดยมิชอบ

14 ก.พ. – พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รองผู้บังคับการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสังคมและองค์กรขบวนการยุติธรรม ในฐานะผู้ต้องหาที่ต้องต่อสู้คดีให้เป็นไปตามขบวนการโดยเคารพกฎหมาย กรณีตกเป็นผู้ต้องหาโดยมิชอบ


ที่สำนักงานกฎหมายธีรคุปต์ อาคาร รัชดาวัน รัชดาภิเษก วานนี้ (13 ก.พ.) พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รอง ผบก.สส.ภ.4 เปิดเผยข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามข่าวในสื่อต่าง ๆ ว่า ตนกับพวกตกเป็นผู้ต้องหาในคดีที่มีพฤติการณ์ไปติดตามเฝ้าถ่ายภาพ แอบถ่าย คุกคาม หรือว่าไปทำในลักษณะที่ข่มขู่ให้ท่านอัยการรู้สึกเกิดความไม่ปลอดภัยชีวิตและครอบครัว  

การกระทำดังกล่าวเป็นการข่มขู่คุกคามขัดขวางขบวนการสอบสวนโดยมิชอบเพื่อประโยชน์ส่วนตน ที่ปรากฏตามสื่อ ที่มีท่านอัยการทำหนังสือถึงท่าน ผบ.ตร. ที่มีเป็นหัวหน้าคณะทำงานสืบสวนสอบสวนในคดีอาญาพิเศษ 24/2526 ที่พวกผมทั้ง 8 คน ตกเป็นผู้ต้องหา ว่า เนื่องจากผมกับพวกทั้ง 8 คนถูกกล่าวหาดำเนินคดี ถูกจับกุมเมื่อ 25 กันยายน 2566 จากนั้นก็มีการสอบสวนเรื่อยมาจนกระทั่งวันที่ 7 ธันวาคม 2566  พนักงานสืบสวนสอบสวนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งขึ้น มีความเห็นสรุปสำนวนคดีส่งพนักงานอัยการ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในขบวนการสอบสวน พวกผมก็ต่อสู้กันตามพยานหลักฐานอยูในขบวนการยุติธรรม ไม่ได้ออกไปให้สัมภาษณ์ หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ต่อสู้ไปตามขบวนการตามสิทธิ์ของผู้ต้องหาและประชาชน ที่จะเพิ่งมีในการต่อสู้คดี


“โดยเราได้ทำหนังสือลงวันที่ 15 ธันวาคม 2566  เป็นการลงชื่อทั้ง 8 คน อย่างเปิดเผยถึงท่านอัยการสูงสุด ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีพนักงานอัยการเข้าเป็นที่ปรึกษา หรือร่วมประชุมกับพนักงานสอบสวน มีการมอบหมายโดยชอบหรือไม่ และมีหนังสือสั่งการมอบหมายให้บุคคลใด รวมถึงการเข้ามาประชุมให้คำปรึกษา ท่านทราบหรือไม่ว่าในการสืบสวนสอบสวนในครั้งนี้มีการแก้ไขพยานหลักฐาน  เป็นพยานหลักฐานสำคัญในคดีและนำมากล่าวหาพวกผมเพิ่มเติมเพื่อให้รับโทษหนักขึ้น นอกจากนี้ยังทำหนังสือถึงท่าน ผบ.ตร.เพื่อร้องขอให้เปลี่ยนตัวพนัก งานสืบสวนสอบสวนที่มีความขัดแย้งที่เกิดจากการร่วมทำงานในคดีสำคัญต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม” พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าวและต่ออีกว่า

ในหนังสือที่ร้องถึงท่านอัยการสูงสุดนั้นเป็นหนังสือปิดผนึก เราได้แนบภาพถ่ายในวันนั้นไปให้ท่านดูด้วย เป็นภาพถ่ายพนักงานอัยการทั้งสองท่านและผู้บัญชาการตำรวจยืนพูดคุยกันในลักษณะลงไปต้อนรับผู้ที่เข้ามาร่วมประชุม  เป็นภาพถ่ายที่อยู่ในสถานที่เปิดเผย สถานที่ราชการ โดยเราได้ตัดมาเฉพาะภาพที่เกี่ยวข้องเพื่อแนบประกอบกับหนังสือที่สอบถามท่านอัยการ ลงวันที่ 15 ธันวาคม จะเห็นได้ว่าในภาพไม่ได้เป็นภาพในลักษณะแอบถ่าย หรือว่าจะสื่อหรือบอกอะไรในลักษณะที่เป็นเชิงคุกคามข่มขู่ ไม่ได้เป็นภาพในชีวิตประจำวัน ไม่ได้เป็นภาพถ่ายที่เกิดจากการเฝ้าสะกดรอยติดตาม หรือถ่ายบุคคลที่เกี่ยวข้องในครอบครัว หรือก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตแต่อย่างใด.-414-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สุดตระการตา รับประเพณียี่เป็ง

ยามค่ำคืนในตัวเมืองเชียงใหม่ ประดับประดาด้วยแสงไฟรับประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเชียงใหม่ โดยเฉพาะบนถนนท่าแพ มีการสร้างซุ้มประดับไฟเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 14 ซุ้ม ยาวกว่า 200 เมตร.

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมรีดทรัพย์ รับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพื่อขายงาน

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จากดิไอคอน ยอมรับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพราะต้องการขายงาน

คุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง เจ้าตัวเงียบรีบเดินขึ้นรถตู้

ตำรวจกองปราบคุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง ผู้ต้องหาปัดตอบสื่อ ด้านพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี