ศาลอาญา 13 ก.พ. – 2 บุคคลที่กระทำความผิดป่วนขบวนเสด็จ เดินทางมาให้กำลังใจนักข่าว-ช่างภาพอิสระ ที่ศาลอาญา ท่ามกลางข่าวถูกออกหมายจับ พร้อมยืนยันไม่หนี และไม่กลัว
บรรยากาศที่ศาลอาญารัชดาวันนี้ พบว่า น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และนายณัฐชนน ไพโรจน์ 2 บุคคลที่กระทำความผิดมีพฤติกรรมพยายามขับรถแซงขบวนเสด็จในขณะที่ขบวนกำลังแล่นผ่านทางด่วน พร้อมบีบแตรรถยนต์ลากยาวระหว่างขบวนเสด็จผ่านและใช้ถ้อยคำดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัย เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา บนทางด่วนย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มาปรากฏตัวอยู่ที่หน้าศาลอาญา หลังมีกระแสข่าวตำรวจอยู่ระหว่างการขอหมายจับในความผิด 3 ข้อหา คือ 1.ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ 2.ก่อความเดือดร้อนรำคาญ 3.ม.116 ยุยง ปลุกปั่น และจากการสอบถามพบว่า น.ส.ทานตะวัน และนายณัฐชนน เดินทางมาเพื่อให้กำลังใจนักข่าวประชาไท และช่างภาพอิสระ ที่พนักงานสอบสวนคุมตัวมาฝากขัง หลังถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหาสนับสนุนการทำให้โบราณสถานเสียหาย จากการลงพื้นที่ทำข่าวเหตุการณ์ที่รั้ววัดพระแก้ว วันที่ 28 มี.ค. 66
ซึ่งตลอดช่วงสายที่ น.ส.ทานตะวัน อยู่ที่ศาลอาญาจะนั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อน อยู่บริเวณบันไดศาล และบริเวณริมขอบถนนทางเดินของศาล โดยมีมวลชนที่สนับสนุน น.ส.ทานตะวันมา กอดปลอบให้กำลังใจ ซึ่ง น.ส.ทานตะวัน มีสีหน้านิ่ง ค่อนข้างเคร่งเครียด และรวมตัวอยู่กับกลุ่มเพื่อนตลอดเวลา นอกจากนี้ยังพบว่า นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือสายน้ำ นักกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับในคดีทำให้โบราณสถานเสียหาย ของ สน.พระราชวัง ก็มานั่งรวมอยู่ในกลุ่มด้วยเช่นกัน ซึ่งช่วงหนึ่ง นายนภสินธุ์ ตะโกนออกมาขณะที่นั่งอยู่บริเวณหน้าศาล ว่า “จะจับก็มาเลยพี่ พวกผมไม่ได้หนี และมาแสดงตัวให้เห็นแล้วที่ศาล”
จากนั้นนายนภสินธุ์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตั้งใจมาแสดงตัวตามหมายจับ ไม่มีความกังวลอะไร และไม่ได้หนีไปไหน และตนเองเพิ่งได้รับแจ้งจากทนายความว่า ตำรวจได้เข้าไปตรวจค้นที่บ้านของตนเอง และบ้านของญาติด้วย
ขณะที่ น.ส.ทานตะวัน บอกด้วยว่าวันนี้ตนเองตั้งใจเดินทางมาให้กำลังใจเพื่อนนักข่าวที่ถูกจับกุม และเพิ่งมาทราบว่า ตนเองก็กำลังจะมีหมายจับ ดังนั้น ก็จะไม่หนี ไม่กลัว หากจะจับก็มาที่ศาลอาญารัชดาได้เลย พร้อมมองด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีการออกหมายเรียกแค่สร้างความเดือดร้อนรำคาญ เป็นความผิดลหุโทษ จ่ายค่าปรับก็จบ แต่วันนี้ไม่ทราบว่าจะมีการยัดข้อหาอะไรให้ตนบ้าง รวมถึงไม่ทราบว่าจะมีหมายจับกี่ใบ ส่วนประเด็นที่จะมีการเพิกถอนการประกันตัวของ 3 สน.นั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหัน ยังไม่ทันตั้งตัว และไม่ได้คิดว่าจะสู้ต่อไปอย่างไร แต่ยืนยันว่าจะสู่ต่อไปแน่นอน
นางสาวทานตะวัน ยังบอกอีกว่า กรณีที่มีความพยายามที่จะปลุกปั่นว่ามีคนอยู่เบื้องหลังปลุกเยาวชน ซึ่งตนเองยืนยันว่า ไม่มีใครและกลุ่มใดอยู่เบื้องหลังใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะพวกตนเองมีแต่อุดมการณ์ และออกมาด้วยใจล้วน เพื่อเป็นการตั้งคำถามในการยืนยันสิทธิและเสรีภาพ ส่วนที่มีการพยายามโยงพรรคการเมืองมาถึงกลุ่มพวกตนเองนั้น ยืนยันว่าไม่มีพรรคการเมืองใด ๆ เช่นเดียวกัน
ขณะที่การดูแลความปลอดภัย บริเวณพื้นหน้าศาลอาญา มีตำรวจศาล และเจ้าหน้าที่ รปภ.ของศาล กระจายกำลัง คอยสังเกตการณ์และดูแลความสงบเรียบร้อย. -414-สำนักข่าวไทย