กรุงเทพฯ 5 ก.พ. – “ธนาธร-พิธา” และแกนนำพรรคอนาคตใหม่ฟังคำพิพากษาคดีแฟลชม๊อบ ด้าน “ชัยธวัช” ลั่นสิทธิทางการเมืองของพลเมืองเป็นหลักการขั้นพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย
เช้านี้ศาลแขวงปทุมวัน นัดฟังคำพิพากษา ในคดีแฟลชม็อบ เมื่อปี 2562 ที่มี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์, นายปิยบุตร แสงกนกกุล , นางสาวพรรณิการ์ วานิช และอดีตผู้สมัคร สส.พรรคอนาคตใหม่ ตกเป็นจำเลย ขณะที่ “ชัยธวัช” หัวหน้าพรรคก้าวไกล มั่นใจ จะชนะคดี แต่หากไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ก็พร้อมยื่นประกันตัว และอุทธรณ์ต่อไป
ทั้งหมด เดินทางไปฟังคำพิพากษาของศาลแขวงปทุมวัน หลังตกเป็นผู้ต้องหา ที่อัยการโจทก์ ยื่นฟ้องในฐานความผิด 5 ข้อหา ประกอบด้วย 1. ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งจัดการชุมนุม 2.ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะ โดยกีดขวางทางเข้าออก หรือรบกวนการปฏิบัติงาน หรือการใช้บริการสถานีรถไฟ 3.ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะ ไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะฯ 4.ชุมนุมสาธารณะในระยะไม่เกิน 150 เมตรจากพระราชวัง และ 5.ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากกรณีชักชวนให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมแฟลชม็อบที่สกายวอล์กปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562 เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งมีมติยื่นศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ คดีกู้ยืมเงินจากนายธนาธร 191 ล้านบาท ซึ่งจำเลยยังได้สลับกันขึ้นปราศรัยในการชุมนุมดังกล่าว
โดยบรรยากาศ ที่ศาลเช้านี้มีกลุ่มมวลชนเสื้อส้ม เดินทางมามอบดอกกุหลาบให้กำลังนายธนาธรและพวก ขณะที่นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ สส.พรรคก้าวไกล บางส่วน ได้เดินทางมาให้กำลังใจและรอฟังผลคำพิพากษาของศาลด้วย
นายชัยธวัช เปิดเผย ว่า ทั้งทีมทนายรวมถึงกลุ่มจำเลยทั้งหมดมั่นใจในคำพิพากษาว่า จะชนะคดีนี้ เพราะคดีนี้เป็นการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน เป็นการชุมนุมโดยสันติ ส่วนรายละเอียดเป็นเรื่องของการต่อสู้ในชั้นศาล ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่หากผลคำพิพากษาเป็นลบ ก็ได้เตรียมแผนรองรับ และหลักทรัพย์ในการยื่นขอประกันตัวจำเลย เพื่อยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีต่อไป และไม่ว่าคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไร ก็เชื่อมั่นว่าไม่กระทบต่อการเมือง และไม่รู้สึกกังวลแต่อย่างใด ทั้งนี้นายชัยธวัช ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า สิทธิทางการเมืองของพลเมืองเป็นหลักการขั้นพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย ที่ไม่ควรจะถูกละเมิด และไม่ควรจะเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะมีความคิดความเชื่อทางการเมืองอย่างไรก็ตาม.-สำนักข่าวไทย