ทลายแก๊งโจ๋ผลิตสารเสพติดชนิดใหม่ ส่งขายออนไลน์

กทม. 31 ม.ค.- ตำรวจไซเบอร์ทลายแก๊งวัยรุ่นผลิตสารเสพติดชนิดใหม่ ผสมสูตรเองส่งขายออนไลน์ เตือนอันตรายอาจทำให้หายใจไม่ออก ร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้


ตำรวจไซเบอร์ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผ่านสายด่วน AOC 1441 และช่องทางเพจ Facebook “ตำรวจไซเบอร์ 2 – บก.สอท.2” ว่ามีผู้โพสต์ขายสารเสพติดชนิดใหม่ที่กลุ่มวัยรุ่นนิยมใช้เรียกว่า “ลีน” หรือ “LEAN” ผ่านบัญชีเฟซบุ๊กซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 5,000 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเพจดังกล่าวมีการโพสต์ประกาศ โฆษณา เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าที่น่าจะเข้าข่ายสินค้าผิดกฎหมาย หรือ สินค้าประเภทอาหารที่ไม่ปลอดภัยจริง

จากการตรวจสอบ พบว่า “ลีน” เป็นสินค้าที่เยาวชนจำนวนมากนิยมซื้อมาบริโภคเพื่อให้เกิดอาการมึนเมา โดยมักจะจำสูตรจากกลุ่มวัยรุ่นด้วยกัน แล้วนำตัวยาต่างๆ มาผสมกันขึ้นมาเองเพื่อบริโภค ต่อมา ตำรวจไซเบอร์และเจ้าหน้าที่อย. ร่วมนำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมหมายค้นจากศาล เข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 2 จุด จุดที่ 1 บ้านหลังหนึ่ง ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร พบนายรณรงค์ อายุ 33 ปี เป็นผู้ดูแลบ้าน ผลการตรวจค้น พบผลิตภัณฑ์ ยี่ห้อ “LEAN KINGDOM 69” จำนวนหนึ่งพร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต และส่วนผสมต่างๆ อาทิ วัตถุออกฤทธิ์ CLONARIL จำนวน 148 เม็ด, วัตถุออกฤทธิ์ CONVULSIL จำนวน 150 เม็ด, ยาฟาเทคไซรัป จำนวน 29 ขวด, ยามาโคลา จำนวน 218 เม็ด และ น้ำหวานจำนวน 4 ขวด


จุดที่ 2 บ้านหลังหนึ่ง ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร พบนายสิทธิพล เป็นผู้ดูแลบ้าน ผลการตรวจค้น พบอุปกรณ์บรรจุขวด สติกเกอร์ กล่องลังกระดาษ ที่ใช้กับผลิตภัณฑ์ ยี่ห้อ “LEAN KINGDOM 69” จึงได้ตรวจยึดไว้เพื่อเป็นหลักฐาน ประกอบการดำเนินคดีต่อไป

เบื้องต้น นายรณรงค์ ให้การว่า เป็นเพียงลูกจ้างของนายนรเสฏฐ์ เจ้าของเพจ มานานกว่า 1 ปี โดยทำหน้าที่รับออเดอร์จากลูกค้า และผสมตัวยาลงในเครื่องดื่มผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ “LEAN KINGDOM 69” รวมทั้งบรรจุลงขวด จากนั้นจึงส่งให้ลูกค้าผ่านทางบริษัทขนส่งเอกชน จำหน่ายในราคาขวดละ 100-150 บาท ตามยอดสั่งซื้อ โดยมียอดสั่งซื้อเฉลี่ยหลายร้อยขวดต่อเดือน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “มีไว้ในครองครองวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดฯ ม.35(5), ม.94, ม.149 วรรคสาม และ “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 มาตรา 12 ประกอบมาตรา 101” และนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.หนองแขม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ นางอรัญญา เทพพิทักษ์ ผอ.ศรป. ฝากเตือนอีกว่า ยาที่ตรวจยึดได้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท หากบริโภคไปแล้วจะมีอาการง่วงซึม หากบริโภคในปริมาณมาก หรือ บริโภคร่วมกับเครื่องดื่มที่เป็นแอลกอฮอล์ จะทำให้เพิ่มการออกฤทธิ์ในการกดประสาท อาจส่งผลให้เกิดอาการหายใจไม่ออก หรือร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ จึงของฝากเตือนไปยังประชาชน หากพบเห็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของวัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าว ให้แจ้งข้อมูลมายังสายด่วน 1556 เพื่อจะได้ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป. 416.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

ญาติเศร้ารับร่าง ตร.เสียชีวิตจากเครื่องบินเล็กตกทะเลชะอำ

ตั้งแถวรับร่างอย่างสมเกียรติ 2 ตำรวจเสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินเล็กตกทะเลชะอำ ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.ลำปาง และราชบุรี ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว ด้านพ่อของ “ร.ต.อ.จตุรงค์” เผยลางบอกเหตุก่อนเครื่องบินตก ลูกมาขอนอนค้างที่บ้าน รู้ข่าวแทบช็อก

“กล้าธรรม” ขอบคุณคะแนนเสียงชาวนครฯ ลั่นพร้อมพัฒนาแก้ปัญหาให้คนใต้

หัวหน้าพรรคกล้าธรรม ขอบคุณทุกคะแนนเสียงของชาวนครฯ เขต 8 ที่ให้โอกาสพรรคกล้าธรรม เข้ามารับใช้ ลั่นพร้อมช่วย “บิ๊กโอ” พัฒนาแก้ปัญหาให้คนใต้ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน

“บิ๊กโอ” กล้าธรรม นำโด่งเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีฯ เขต 8

“บิ๊กโอ” ผู้สมัครจากพรรคกล้าธรรม นำโด่งทิ้งห่าง “ไสว” จากภูมิใจไทย แล้วกว่าหมื่นคะแนน ในการเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8

ตำรวจได้เบาะแสสำคัญโจรชิงทอง กลางห้างฯ อุดรธานี

วงจรปิดเผยคนร้ายใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาที ก่อเหตุชิงทองมูลค่ากว่าล้านบาท กลางห้างฯ จ.อุดรธานี ล่าสุดตำรวจได้เบาะแสสำคัญ ทั้งเส้นทางหลบหนี รวมถึงพาหนะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุแล้ว