ศาลยกฟ้องทุกข้อหา “ทุน มินหลัด” ชี้หลักฐานหักล้างได้หมด

กรุงเทพฯ 30 ม.ค. – ศาลยกฟ้องทุกข้อหา “ทุน มินหลัด” นักธุรกิจเมียนมา-ลูกเขย สว.อุปกิต กับพวก คดีสมคบค้ายาเสพติด ชี้พยานโจทก์ยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยทำผิด พยานหลักฐานของจำเลยหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ทั้งหมด


วันนี้ (30 ม.ค.) ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาคดีทุนมินหลัด นักธุรกิจเมียนมา กับพวกสมคบกันค้ายาเสพติด โดยพนักงานอัยการคดียาเสพติด 9 เป็นโจทก์ฟ้องนายทุน มินหลัด (Mr.TUN MIN LATT) นักธุรกิจชาวเมียนมา จำเลยที่ 1 นายดีน ยัง จุลธุระ จำเลยที่ 2 น.ส.น้ำหอม เนตรตระกูล จำเลยที่ 3 น.ส.ปิยะดา คำต๊ะ จำเลยที่ 4 และบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) จำกัดโดยนายทุน มิน หลัด และนางสาวน้ำหอม เนตรตระกูล ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจที่ 5 ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันสนับสนุนกันกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมีลักษณะเป็นความผิดร้ายแรง องค์กรอาชญากรรม

พฤติการณ์ระหว่างวันที่ 22 ก.พ.-10 พ.ค.2562 จำเลยทั้ง 5 คน กับพวกที่ยังหลบหนี และจำเลยบางส่วนที่ศาลจังหวัดธัญบุรีพิพากษาไปแล้วได้ร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป วางแผนและแบ่งหน้าที่กันทำในการจัดหายาเสพติดประเภท1 (ยาบ้า) โดยพวกจำเลยทำหน้าที่ดูแลรับฝากเงิน ถอนเงิน โอนเงินซื้อขายค่ายาเสพติดเข้าบัญชีของบริษัทฯ จำเลยที่ 5 โดยอ้างว่า เพื่อไปชำระค่าไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.แม่สาย.จ.เชียงราย ลักษณะปกปิด อำพรางซึ่งการได้มาของเงินจำนวนดังกล่าวโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติด โดยบริษัทฯ จำเลยที่ 5 มีหน้าที่นำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดเปลี่ยนสภาพเป็นสินค้าประเภทกระแสไฟฟ้า ส่งออกไปประเทศเมียนมา ซึ่งเหตุเกิดที่ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และที่อื่น


ขณะที่ พวกจำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี ซึ่งในวันนี้มีการเบิกตัวจำเลยทั้งหมดจากเรือนจำมาฟังคำพิพากษา โดยมีครอบครัวญาติและเพื่อนมาร่วมฟังคำพิพากษาและร่วมให้กำลังใจ

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พิเคราะห์พยานหลักฐาน เกี่ยวกับเส้นทางการเงินของกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดจำนวน 6 กลุ่ม ที่ก่อนหน้านี้ศาลได้มีคำพิพากษาว่ามีความผิด ส่วนเส้นทางการเงินของเครือข่ายยาเสพติดทั้ง 6 กลุ่ม มีบางส่วนที่ มีเชื่อมโยงมาที่ร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตรา ตามแนวชายแดน ขณะเดียวกัน กลุ่มธุรกิจ ในเครืออัลลัวกรุ๊ป ก็ใช้บริการ ร้านแลกเปลี่ยนเงินตราร้านเดียวกัน เพราะมีความน่าเชื่อถือ และทางสถานทูต มีการตรวจสอบแล้วพบว่า ได้รับอนุญาตถูกต้องจากหน่วยงานภาครัฐของทางเมียนมา

ทั้งนี้จากการนำสืบของพยานโจทก์ซึ่งเป็นกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดทั้ง 6 กลุ่ม ให้การยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับจำเลยทั้ง 5 มาก่อนและในขณะจับกุมกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดจำเลยทั้ง 5 ก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากคำเบิกความของพยานบุคคลจากกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ที่มาเบิกความต่อศาล สอดคล้องต้องกันว่าเป็นลูกค้าที่ใช้บริการโอนเงิน เพื่อชำระค่าสินค้าที่ซื้อไป บางรายใช้วิธีการโอนเงินมาโดยตลอด เนื่องจากเป็นช่วงสถานการณ์โควิด ที่ชายแดนปิดไม่สามารถเดินทางไปมาระหว่างกันได้


เชื่อว่าร้านแลกเปลี่ยนเงินตรา มีผู้มาใช้บริการถึง 500 บัญชี และมี 22 บัญชีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่มาใช้บริการร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราด้วย ซึ่งตัวแทนบริษัทเมียนมาอัลลัวกรุ๊ปก็ใช้บริการบัญชีเงินฝากร้านแลกเปลี่ยนเงินตราเดียวกันนี้ด้วย แม้ในช่วงที่จำเลยที่ 1-4 ถูกจับกุม ทางบริษัทของกลุ่มจำเลย ก็ยังใช้วิธีการชำระเงินแบบเดิม ซึ่งผิดปกติวิสัยว่าหากถูกจับกุม ในคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดแล้วจะใช้วิธีการเดิมในการชำระเงิน ส่วนจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นลูกเขยของ สว.อุปกิต ได้ถูกเชิดให้เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทอันลัวกรุ๊ป ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งเป็นสมาชิกวุฒิสภา เพื่อให้ไม่ต้องโดนตรวจสอบ

ศาลพิเคราะห์แล้วไม่อาจรับฟังได้ว่า จำเลยทั้ง 5 ร่วมกันทำผิด เกี่ยวกับการสมคบค้ายาเสพติด และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พยานหลักฐานของจำเลยสามารถหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ทั้งหมด พิพากษายกฟ้อง

ภายหลังศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง กลุ่มญาติของจำเลยที่มาร่วมฟังคำพิพากษา ต่างลุกขึ้นปรบมือส่งเสียงเฮดังลั่นห้องพอจารณาคดี และร้องไห้ เข้าสวมกอดกับจำเลยด้วยความดีใจ

นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความของนายดีน ยัง จุลธุระ จำเลยที่ 2 ลูกเขย สว.อุปกิต และทนายความของนายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า คดีนี้เส้นทางการเงินกระจายไปทั่ว ไม่ใช่เฉพาะบริษัทอัลลัวร์ กรุ๊ป แต่โจกท์ฟ้องเฉพาะจำเลย จึงหักล้างว่ามีนิติบุคคลอื่นที่มีเส้นทางการเงินคล้ายกับเรา ถ้าเราเกี่ยวข้องนิติบุคคลอื่นก็ต้องเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย ไม่ว่าจะเป็น คาราบาว เอสซีจี โรงเรียนนานาชาติ ก็จะต้องเกี่ยวด้วย เพราะใช้บริการรับเงินจากร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราที่เดียวกัน ที่อ้างว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งศาลมีรายละเอียดข้อเท็จจริง มีเหตุผลอย่างละเอียดมาก ๆ คำพิพากษานี้จะเป็นตัวอย่างให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะจับกุมใคร ต้องดูให้ละเอียดก่อนออกหมายจับ เพราะศาลพูดออกมาเลยว่า หละหลวมมาก ซึ่งคดีนี้มีโทษถึงประหารชีวิต ดีที่เราต่อสู้คดีไม่ได้รับสารภาพ ลองคิดดูหากพลาดจะเป็นอย่างไร

ในส่วนของ สว.อุปกิต โดนฟ้องเช่นกัน จะต้องใช้คำพิพากษานี้ ถึงแม้จะยังไม่ถึงที่สิ้นสุด แต่จะนำไปประกอบในสำนวน เนื่องจากข้อเท็จจริงเหมือนกันหมด ทั้งพยานบุคคลและพยานหลักฐาน ซึ่งในคำพิพากษาคดีนี้ก็มีชื่อนายอุปกิตด้วยก็สามารถนำไปอ้างอิงได้ ส่วนจะเป็นประโยชน์หรือไม่ตนไม่ทราบแต่จำเป็นต้องใช้แน่นอน

ส่วนเรื่องที่จะขอให้อัยการสูงสุดถอนฟ้องคงยาก เนื่องจากคดีฟ้องมาแล้ว จะสู้กันในศาลให้ถึงที่สุด โดยคดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่าง การที่จำเลยในคดีนี้ต้องติดคุกถึง 1 ปีครึ่ง ไม่ได้ประโยชน์ จำเลยที่ 2 ทำงานบริษัทได้เงินเดือน 3.4 แสนบาท แต่ต้องโดนออกจากงาน ใครจะรับผิดชอบ

เมื่อถามว่า ศาลอ่านพฤติการณ์การอำพรางการเป็นเจ้าของธุรกิจของนายอุปกิต จะกระทบต่อตำแหน่ง สว.หรือไม่ ทนายตอบว่าเป็นเรื่องของวุฒิสมาชิกว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ตนมองว่านายอุปกิต คงไม่ได้ปกปิด คดีนี้ยังมีอุทธรณ์ฎีกาอยู่.-416-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย