เปิดภาพวงจรปิด หนุ่มวัย 25 ปี ถูกดาบตำรวจยิงสวนเสียชีวิต

กทม. 25 ม.ค.-เปิดภาพวงจรปิด หนุ่มวัย 25 ปี ลงมาทุบรถเก๋งที่จอดอยู่หน้าบ้าน ก่อนถูกยิงสวนเสียชีวิต คนก่อเหตุยิงคือดาบตำรวจ ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ รอง ผบช.น. เรียกประชุมคดีด่วน พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยมีและใช้อาวุธไว้ก่อน

เหตุตำรวจยิงนายธิติวัฒน์ อ่วยกลาง หรือหมอกอายุ 25 ปี เสียชีวิต บนถนนหน้าบ้าน ภายในซอยรัชดาภิเษก 3 แยก 14 เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วานนี้ (24 ม.ค.65)


แม่ของผู้ตาย เล่าว่า ปกติอยู่กัน 3 คน พ่อแม่ลูก จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ หมอกลูกชายได้พาแฟนที่ชื่อแอนมาอยู่ด้วย ซึ่งแม่ก็ไม่รู้ว่า แอนเป็นลูกใครมาจากไหน เพราะเห็นเป็นเรื่องส่วนตัวของลูก แต่วันเกิดเหตุ มีรถเก๋ง Toyota Altis สีบรอนซ์เงิน ขับเข้ามาจอดหน้าบ้าน ซึ่งในรถมาด้วยกัน 2 คน และคนขับบอกว่า เป็นพ่อของแอน จะมารับลูกสาวกลับบ้าน ตนจึงวิ่งขึ้นไปตามแอนที่อยู่บนบ้านชั้น 2 แต่แอนไม่ยอมลงมา กลับเป็นลูกชายตนเองที่ปาขวดใส่รถ และถือมีดวิ่งออกไปยังหน้าบ้าน จนเกิดเหตุการณ์เหมือนในกล้องวงจรปิด จากนั้นไม่นานคนในรถที่นั่งข้างคนขับก็ชักอาวุธปืนยิงใส่ลูกชาย กระสุนเจาะลำคอล้มลง ตนกับสามี รีบวิ่งเข้าไปประคองลูกชาย และพยายามร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านแล้ว แต่ไม่ทันลูกชายสิ้นใจตายในอ้อมแขนของพ่อ ส่วนตำรวจที่ก่อเหตุทราบว่า ชื่อ ดาบแป๊ะ

ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง ระบุว่า ผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจชั้นประทวนฝ่ายสืบสวนสน.สุทธิสาร ไม่ใช่ตำรวจสนห้วยขวาง ซึ่งหลังเกิดเหตุ ไม่ได้หลบหนียืนรอมอบตัว


ขณะที่ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกประชุมติดตามความคืบหน้าคดีทันทีเมื่อคืนนี้ ก่อนเปิดเผยว่า ดาบตำรวจที่ก่อเหตุให้การว่า หลังออกปฏิบัติภารกิจในพื้นที่หัวหมากพร้อมสายลับ ขณะกำลังกลับสายลับแจ้งว่า จะขอไปเอาโทรศัพท์ที่ลูกสาว ซึ่งอาศัยอยู่กับแฟนหนุ่ม ภายในซอยรัชดา 13 นายดาบตำรวจเห็นว่า เป็นทางผ่านจึงได้พาขับรถไปยังบ้านที่เกิดเหตุ แต่เมื่อไปถึงก็ได้พบกับแม่ผู้เสียชีวิตกำลังนั่งล้างจานอยู่ จึงถามหาลูกสาวว่าอยู่ที่นี่หรือไม่ จากนั้นนายหมอกก็ไปเขวี้ยงปาขวดน้ำลงมาจากชั้นสอง และพยายามใช้มีดเข้าทำร้ายคนในรถ ก่อนที่ดาบตำรวจที่นั่งมาด้วยตัดสินใจใช้อาวุธยิง 1 นัด ถูกบริเวณลำคอก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งจากหลักฐานจากภาพวงจรปิด และพยานที่เกิดเหตุรวมแล้ว 6 คน ที่ถูกสอบปากคำ พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยมีและใช้อาวุธไว้ก่อน ส่วนข้อหาอื่นๆ กำลังรวบรวมหลักฐาน

ส่วนอาวุธที่ผู้ก่อเหตุใช้เป็นอาวุธประจำตัวใช้ในราชการ ส่วนอาวุธที่ผู้เสียชีวิตใช้เป็นมีดปลายแฟลมยาว 13 นิ้ว ตำรวจได้รวบเอาไว้เป็นหลักฐานประกอบในสำนวนด้วยเช่นกัน

ขณะผู้ก่อเหตุที่เป็นนายดาบตำรวจขณะนี้ทาง ผกก.สน.สุทธิสาร ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน พร้อมส่งเรื่องให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 พิจารณาบทลงโทษอีกครั้ง


ด้าน เพื่อนผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่านายหมอก ได้พาแอนและเพื่อนอีกคนหนึ่ง มาอยู่ที่บ้านด้วยกัน โดยนายหมอกผู้ตายเคยเป็นแฟนเก่าของแอน แต่ผู้หญิงทั้ง 2 คนได้ขอมาอาศัยอยู่ด้วย และนายหมอกมักจะไปส่งที่ทำงานอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทราบมาว่าแอนไม่อยากกลับบ้านไปอยู่กับพ่อ จึงอาจจะเป็นปมเหตุให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”