เร่งสอบพยานอินเดีย-เมียนมา สางปมฆ่าหั่นศพแช่ตู้เย็น

กรุงเทพฯ 22 ม.ค. – คดีฆ่าหั่นศพชาวเมียนมาแช่ตู้เย็น ตำรวจเร่งสอบปากคำพยาน 4 คน ซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุกับผู้ตาย ขณะที่ผู้ต้องสงสัย 2 คน หนีออกนอกประเทศแล้ว


ล่ามชาวเมียนมา เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากตำรวจเพื่อมาแปลคำให้การจากพยานที่สอบปากคำในคดีฆ่าหั่นศพแรงงานเมียนมา ในอาคารซอยสะแกงาม 35/3 แรงงานกลุ่มนี้มีทั้งชาวอินเดียและเมียนมา ซึ่งเดินทางจากเมียนมาทั้งหมด 6 คน โดยประสานกับนายหน้าชาวอินเดีย คิดค่านำพาเข้าประเทศไทยหัวละ 7,000 บาท

ส่วนไทม์ไลน์การเดินทาง ได้เดินทางออกจากเมียนมาตั้งแต่ 11 มกราคม มาถึงชายแดนไทย 12 มกราคม และเข้ามาถึงย่านสีลม กรุงเทพฯ ในวันที่ 13 มกราคม จากนั้นมาพักอาศัยในบ้านหลังเกิดเหตุ ระหว่างที่พักอาศัยอยู่นั้น ได้มีการขังแรงงานไว้ให้อยู่ที่ห้องครัวชั้นล่าง ไม่ให้ออกไปข้างนอก และได้พูดคุยสอบถามว่าใน 6 คนนี้ ใครอายุมากที่สุด ซึ่งผู้ตายมีอายุมากที่สุด จึงแยกตัวขึ้นไปชั้น 3 แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไรเพิ่มเติม ตำรวจก็เรียกล่ามเมียนมาเข้าไปร่วมสอบปากคำพยาน เพราะไม่อยากให้ไปให้ข้อมูลกับนักข่าวมากเกินไป


ด้านพันตำรวจเอก เลิศศักดิ์ เขียนทรัพย์ ผู้กำกับการ สน.ท่าข้าม เปิดเผยความคืบหน้าคดีว่า ตอนนี้ยังไม่แน่ใจเรื่องแรงจูงใจการก่อเหตุ ไม่ทราบว่ามีปากเสียงกันมาก่อนหน้าหรือไม่ แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องชู้สาว แต่เบื้องต้นทราบว่าตัวนายหน้าชาวอินเดีย ขออนุญาตเข้ามาแบบถูกต้อง มีการจดทะเบียนในรูปแบบบริษัท กับกรมธุรกิจการค้า แต่ประเด็นอื่นต้องรอสืบสวนว่าทำธุรกิจอะไรบ้าง เพราะนายหน้าคนดังกล่าวเขามาอยู่ในไทยหลายปีแล้ว ส่วนแรงงานอาจเข้ามาแบบผิดกฎหมาย

ตอนนี้ผู้ต้องสงสัยมีทั้งหมด 2 คนเป็นชาวอินเดีย ซึ่งขณะนี้ทั้ง 2 คนได้หนีออกนอกประเทศไปแล้ว ส่วนพยานจากการสอบปากคำให้การเป็นประโยชน์ น่าจะเพียงพอในการออกหมายจับได้ ซึ่งขอดูรายละเอียดของพยานหลักฐานต่างๆ ให้ครบถ้วนก่อน หากพร้อมจะออกหมายจับทันที .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”