คืบคดี “ป้าบัวผัน” พบเหยื่อเพิ่ม

17 ม.ค. – คดีเยาวชนวัย 13-16 ปี สมาชิกแก๊งตังค์ไม่ออก 5 คน ในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ทำร้ายร่างกาย “ป้าบัวผัน” เสียชีวิต ล่าสุดวันนี้มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อแก๊งนี้ 3 ราย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ 5 เยาวชน ขณะที่แม่ค้าซึ่งให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนก็ถูกคุกคามด้วย


ช่วงเช้าที่ผ่านมาผู้เสียหาย 3 คน ตกเป็นเหยื่อ 5 เยาวชน กลุ่มที่ทำร้ายป้าบัวผันเสียชีวิต เดินทางมาพบพลตำรวจตรีออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรสระแก้ว และพันตำรวจเอก พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผู้กำกับการ สภ.อรัญประเทศ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับเยาวชนทั้ง 5 คน รายแรก เป็นสาวสวย LGBTQ อายุ 36 ปี ตกเป็นเหยื่อตามคลิปที่มีการเผยแพร่ก่อนหน้านี้ ถูก 1 ใน 5 เยาวชน ทำร้ายร่างกาย ส่วนเยาวชนหญิงอีกสองคน ถูกล่วงละเมิดทางเพศ

หลังจากสอบถามเบื้องต้น พบว่าเหยื่อรายแรก วัย 36 ปี ถูกทำร้ายร่างกาย เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ขณะที่เด็กอีก 2 คนถูกล่วงละเมิดทางเพศ ช่วงเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ตำรวจจึงรับเป็นคดี พร้อมประสานอัยการจังหวัดสระแก้ว เจ้าหน้าที่คุ้มครองสิทธิ์ เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ และนักสังคมสงเคราะห์ ให้เข้ามาสอบปากคำเยาวชนทั้ง 2 คน และมีรายงานว่า ยังมีเยาวชนหญิงอีก 1 คน เตรียมเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเยาวชนกลุ่มนี้เพิ่มเติม หลังถูกปืนจ่อศีรษะ


กัน จอมพลัง ระบุจากข้อมูล แก๊งตังค์ไม่ออก มีประมาณ 20 คน มีลูกตำรวจเป็นหัวโจกประจำแก๊ง คาดว่าอาวุธปืนที่ใช้เป็นของพ่อ แก๊งนี้ก่ออาชญากรรม ทั้งในและนอกพื้นที่อรัญประเทศ จับกลุ่มรวมตัวตั้งแก๊งซิ่งรถจักรยานยนต์บนถนน ข่มขู่คุกคาม ทำร้ายร่างกาย วางเพลิง เผาทรัพย์ และร้ายสุดข่มขืนกระทำชำเรา

ส่วนกรณีป้าบัวผัน จากการตรวจสอบ พบว่าสาเหตุเกิดจากความเข้าใจผิด 1 ใน 5 เยาวชน ทํา Power Bank หล่นหาย และเข้าใจว่าป้าบัวผัน เป็นคนเก็บไป จึงลงมือทำร้าย หลังเกิดเหตุ ทั้ง 5 คน แชทไลน์คุยกับเพื่อนๆ ในกลุ่ม ตำรวจเก็บแชทดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานแล้ว ด้านปมคำรับสารภาพของลุงเปี๊ยก กัน จอมพลัง ระบุ เพียง สั้นๆ ว่า ตนเชื่อว่าสังคมและสื่อมวลชนมองออก โนคอมเมนต์เรื่องนี้

ด้านแม่ค้าขายกับข้าวในซอยจุดรวมพลคนแก๊งตังค์ไม่ออก ปล่อยโฮร่ำไห้ต่อหน้าสื่อ วอนกัน จอนพลังและสื่อมวลชน ช่วยคุ้มครองความปลอดภัย หลังให้ข้อมูลสื่อมวลชน ถึงพฤติกรรมของเยาวชนแก๊งตังค์ไม่ออก มั่วสุมต้มน้ำกระท่อม เล่นไล่ฟันไล่แทงกันกลางถนน สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ หวังให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าแก้ปัญหา เพื่อความสงบของชุมชน กลับถู เยาวชนเพื่อนร่วมแก๊ง ข่มขู่เผาร้านค้า หนำซ้ำยังถูกเพื่อนบ้านด่าทอว่าหิวแสง


อดีตสมาชิกแก๊งตังค์ไม่ออก เป็นเยาวชนหญิง 2 คน ออกมาให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า เคยอยู่กับแก๊งนี้เมื่อ 3 ปี ที่แล้ว ตอนนั้นอายุเพียง 13 ปี เห็นเพื่อนรวมตัวกัน ก็ไปด้วย เพื่อนในกลุ่มชอบนัดพี้กัญชา ต้มน้ำกระท่อมดื่มกัน ซึ่งสมาชิกในแก๊ง อายุระหว่าง 13-17 ปี สาเหตุที่ออกจากแก๊งเพราะคนเยอะเกินไป เกือบทั้งหมดเป็นผู้ชาย พวกเขาไม่เล่นด้วย ทั้งสองจึงแยกตัวออกมา หากไปตีรันฝันแทงหรือทำร้ายใคร มักอัปลงสตอรี่ เพื่อประกาศศักดาผ่านโซเชียลให้คนอื่นรู้ ส่วนเพื่อน 1 ใน 5 คน ที่ถูกจับกุมในข้อหาทำร้ายป้าบัวผันเสียชีวิต ชื่อโก๊ะ ซึ่งโดยปกติแล้วเขาเป็นคนดี ไม่คิดว่าโก๊ะจะร่วมลงมือก่อเหตุด้วย ซึ่งการทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย เคสนี้ไม่ใช่เคสแรก แต่เป็นเคสที่ 2 ของแก๊ง เพราะหลายปีก่อน เคยก่อเหตุฆ่าคนตายมาแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุถูกจับดำเนินคดีเมื่อปีที่ผ่านมา ปัจจุบันแก๊งตังค์ไม่ออกมีสมาชิกอยู่ประมาณ 30 คน มีแบงค์เป็นหัวหน้าแก๊ง

ด้านพันตำรวจเอกพิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผู้กำกับการ สภ.อรัญประเทศ ระบุว่า หลังเกิดเหตุกับป้าบัวผัน ได้เพิ่มความเข้มเรื่องการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ให้ตำรวจสายตรวจและตำรวจสืบสวน ลงพื้นที่ตระเวนตามจุดเสี่ยง จุดล่อแหลมเข้มเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ตั้งแก๊งตั้งก๊วน มั่วสุม ให้นำตัวกลับมาทำประวัติ และผลักดันกลับเข้าที่พักก่อน 22.00 น. เพื่อป้องกันไม่ให้ขี่รถมอเตอร์ไซค์เร่ร่อนในพื้นที่ จนเหตุการณ์บานปลายซ้ำรอยป้าบัวผันได้อีก

ส่วนกรณีอาวุธปืนที่หนึ่งในเยาวชน แก๊งตังค์ไม่ออกใช้ข่มขู่ผู้เสียหาย ซึ่งสังคมสงสัยเป็นปืนพ่อที่เป็นตำรวจหรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่จนถึงขนาดนี้ยังไม่พบอาวุธปืน ส่วนประเด็นที่มีสื่อบางสำนักรายงานข่าวว่าตำรวจใช้ถุงดำคลุมหัวลุงเปี๊ยกเพื่อให้รับสารภาพ สารวัตรสืบสวน ซึ่งทำหน้าที่จับกุมลุงเปี๊ยก และเป็นคนสอบปากคำ ยืนยันไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น และทุกขั้นตอนมีการถ่ายคลิปไว้ พร้อมระบุเคยมีบทเรียน เรื่องถุงดำคลุมหัวมาแล้ว ตำรวจไทยที่ไหนก็ไม่กล้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย