พี่สาวป้าบัวผัน ร้อง “บิ๊กโจ๊ก” เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม

กทม. 16 ม.ค.- พี่สาวป้าบัวผัน ร้อง “บิ๊กโจ๊ก” เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดี หลับพบ 1 ในผู้ก่อเหตุเป็นลูกตำรวจ ด้าน “บิ๊กโจ๊ก” จ่อลงพื้นที่หาความจริง บ่ายนี้


จากกรณีเกิดคดีสะเทือนใจการเสียชีวิตของ “ป้าบัวผัน” หรือ “ป้ากบ” อายุ 47 ปี หญิงสติไม่ดีในจังหวัดสระแก้ว ที่ตอนแรกตำรวจจับตัวนายปัญญา สามี หลังให้การรับสารภาพ เป็นผู้ก่อเหตุ แต่สุดท้ายตรวจพบกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ชัดเจน ว่า คนที่ก่อเหตุไม่ใช่สามี แต่เป็นกลุ่มวัยรุ่น 5 คน อายุระหว่าง13-16 ปี ซึ่ง 1 ในนั้นเป็นลูกของตำรวจในพื้นที่ 

เวลา 10.30 น. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พาพี่สาวของป้าบัวผันเข้าพบ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากเกรงว่าคดีนี้ผู้ก่อเหตุเป็นถึงลูกตำรวจ และเป็นเยาวชนด้วย และเชื่อว่ามีตำรวจเกี่ยวข้องกับการสร้างพลอตเรื่องให้ลุงเปี๊ยก สามีของป้าบัวผัน รับสารภาพ เพราะลุงเปี๊ยกให้การตรงเรื่องพฤติกรรมก่อเหตุ เช่น การใช้เก้าอี้ทุบหัวป้าบัวผัน ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ หลังได้รับการปล่อยตัว ลุงเปี๊ยกก็หายไปเลย จึงไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่ามีใครที่รู้ข้อมูลการก่อเหตุ การใช้เก้าอี้ทุบหัวป้าบัวผัน แล้วมาบังคับให้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพ เพื่อเป็นแพะให้กับลูกตำรวจหรือไม่ ในเมื่อลุงเปี๊ยกไม่ใช่ผู้ก่อเหตุตัวจริง ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ จะทราบเรื่องเก้าอี้ได้อย่างไร ทั้งนี้ทราบมาว่าหลังจากปล่อยตัวลุงเปี๊ยกออกจากเรือนจำ ได้ไปอยู่ที่เซฟเฮ้าส์ในจังหวัดสระแก้ว ไม่ใช่บ้านญาติที่จังหวัดสุรินทร์ จึงตั้งข้อสังเกตว่าทำไมออกมาแล้วไม่ได้ใช้ชีวิตปกติ มีใครบังคับให้ลุงไปอยู่เซฟเฮ้าส์ ไปควบคุมตัวลุงเปี๊ยกไว้เพื่อประการใดหรือไม่


ขณะที่ผู้กำกับ สภ.อรัญประเทศเองก็ขาดการติดต่อไปเช่นกัน แม้แต่นายตำรวจระดับผู้บังคับการก็ยังติดต่อไม่ได้ ซึ่งนางสาวบัวผันเสียชีวิตอย่างทรมานและโหดเหี้ยม หากไม่มีกล้องวงจรปิดออกมา ลุงเปี๊ยกก็คงยังอยู่ในเรือนจำ จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรมเพราะญาติของนางสาวบัวผันไม่เชื่อมั่นในตำรวจท้องที่อยู่แล้ว

ด้านพี่สาวป้าบัวผัน เปิดเผยว่า มีความกังวลว่าจะไม่ได้ความยุติธรรม เพราะฝ่ายผู้ก่อเหตุไม่เคยมาดูแลเลย และสงสัยว่าลุงเปี๊ยกไปรับสารภาพทำไมทั้งที่ไม่ได้ทำ ทำไมไม่บอกตำรวจไปว่าไม่ได้ทำ หรือ มีใครสั่งให้เขาทำหรือไม่ ซึ่งตอนแรกที่ลุงเปี๊ยกรับสารภาพ ตนเองก็ไม่เชื่อว่าลุงเปี๊ยกจะทำจริงๆ ไม่เชื่อว่าจะทำขนาดนี้ แม้ที่ผ่านมาทั้งคู่ จะมีทะเลาะตบตีกันบ้าง แต่ก็ไม่เคยรุนแรง ส่วนหลังลุงเปี๊ยกถูกปล่อยตัวก็ไม่เจอตัวลุงเปี๊ยกเลย และไม่ทราบว่าลุงเปี๊ยกอยู่ที่ไหนด้วย

ด้านพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ บอกว่าเรื่องนี้เกิดจากความไม่มั่นใจของญาติผู้เสียชีวิตในการทำงานของเจ้าหน้าที่ เมื่อวานตนเองได้สอบถามข้อมูลคดีนี้เบื้องต้นแล้ว มีการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดและแจ้งข้อหาแล้ว แต่ที่สังคมสงสัยคือทำไมลุงเปี๊ยกถึงรับสารภาพและยังรับตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดเหตุ กล้องวงจรปิดก็ชัดเจน ทำไมตำรวจถึงไม่เจอ แต่สื่อมวลชนกลับไปเจอเอง มีการจัดฉากหรือไม่ จึงได้สั่งชุดสืบสวนให้ลงพื้นที่ตรวจสอบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และตอนบ่ายจะลงพื้นที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เพื่อติดตามคดีนี้ด้วยตนเอง หากมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินการ และคดีนี้เป็นการฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด และจะต้องทำความจริงให้ปรากฏ ยืนยันจะไม่มีการปกป้องตำรวจที่กระทำความผิด ตำรวจที่ผิดก็ต้องถูกลงโทษหนักกว่าประชาชนธรรมดา เนื้อไหนร้ายต้องตัดทิ้งออกไป จะไปปิดบังไม่ได้


ส่วนข้อสงสัยว่ามีการแก้ไขอายุเด็กให้ลดลงกว่าความเป็นจริง เพื่อให้รับโทษน้อยลงหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของหลายหน่วยงานที่จะต้องร่วมกันปรึกษาหารือและตรวจสอบ ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ในตอนนี้ แต่ยืนยันจะดำเนินการด้วยความตรงไปตรงมาและเป็นธรรม ส่วนลุงเปี๊ยกหากยังอยู่ในจังหวัดสระแก้ว ก็จะให้ตำรวจไปตามตัวลุงเปี๊ยกเข้ามาพบตนเอง ก็จะให้ พม.จังหวัด เข้าไปดูแลลุงเปี๊ยก ยืนยันลุงเปี๊ยกจะไม่ต้องอยู่ในเซฟเฮ้าส์แน่นอน แต่หากถามว่าตอนนี้ลุงเปี๊ยกอยู่ที่ไหน หรือตำรวจคุมอยู่หรือไม่ ตนเองก็ไม่ทราบเช่นกัน

ต่อมานายกัณฐัศว์ โทรศัพท์ ไปหา พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผกก.สภ.อรัญประเทศ เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี ได้ความว่า ขณะนี้ลุงเปี๊ยกอยู่ในความดูแลของญาติที่คลองน้ำใส โดยไม่มีตำรวจอยู่ดูแล แต่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเหตุใดจึงมีการแจ้งข้อกล่าวหาและทำให้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพ ซึ่งไทม์ไลน์การเกิดเหตุ ตำรวจรับแจ้งเหตุเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งลุงเปี๊ยกเป็นผู้พาตำรวจไปชี้จุดเกิดเหตุด้วยตัวเอง อีกทั้งยังพบว่ามีคราบเลือดบนขากางเกงของลุงเปี๊ยก แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นเลือดของใคร กองพิสูจน์จึงต้องส่งตรวจดีเอ็นเอ

แต่เมื่อแพทย์ได้เข้าตรวจสอบสภาพศพ พบว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-12 ชั่วโมง เท่ากับว่าเสียชีวิตราววันที่ 11 ม.ค.และเมื่อไล่ตรวจสอบภาพวงจรปิด ก็ไม่พบว่าลุงเปี๊ยกอยู่ในเหตุการณ์ขณะนั้น จึงย้อนภาพไปในวันที่ 10 ม.ค.พบว่าเหตุการณ์เป็นคนละเรื่อง คือกลุ่มเยาวชนเป็นผู้ลงมือก่อเหตุเอง ซึ่งขณะนั้นตำรวจได้ขออำนาจศาลฝากขังลุงเปี๊ยกไปแล้ว จึงต้องรีบทำเรื่องปล่อยตัว และเร่งนำตัวเยาวชน 5 คนมาสอบปากคำพร้อมยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ

พ.ต.อ.พิเชษฐ์ กล่าวอีกว่า หลังการปล่อยตัวลุงเปี๊ยก วานนี้ก็ได้สอบปากคำเด็กร่วมกับสหวิชาชีพ ก่อนนำตัวไปขอหมายขังที่ศาลเด็กและเยาวชนและสั่งค้านประกันตัว แต่วานนี้มีผู้โทรศัพท์สอบถามเข้ามาเยอะมากทำให้ตนไม่ได้รับสายใคร ทั้งยังไปร่วมงานศพป้าบัวผันเอง ยืนยันว่าตำรวจได้ภาพกล้องวงจรปิดและตัวผู้ต้องหาก่อนจะเป็นข่าว แต่พอมีสื่อช่องหนึ่งปั่นกระแสว่าเป็นการปกป้องลูกตำรวจนั้น ตนยังไม่ทราบเลยว่าผู้ต้องหาเป็นลูกตำรวจด้วย

ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่สงสัยว่ามีใครวางบทให้ลุงเปี๊ยกพูดหรือไม่ เพราะคนในพื้นที่ต่างพูดเหมือนกันว่าลุงเปี๊ยกมักเมาสุราและเคยทำร้ายร่างกายภรรยาตัวเองจริง แต่พอตำรวจซักถาม เจ้าตัวอาจรู้สึกกดดันและให้การวกไปวนมาจนยอมรับสารภาพเองในขณะนั้น แต่ไม่มีใครไปชี้นำให้เจ้าตัวพูด ไม่เกี่ยวข้องว่าพ่อของผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ และแม้จะเป็นเช่นนั้นก็จะดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา. 413.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ

เดินทางปีใหม่สายเอเชีย

ถนนสายเอเชียมุ่งสู่ภาคเหนือรถเริ่มมาก

ประชาชน เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา และไปท่องเที่ยวช่วงส่งท้ายปี 2567 รับปีใหม่ 2568 การจราจรถนนสายเอเชีย ฝั่งขาขึ้นภาคเหนือ ช่วงชัยนาท รถเริ่มมาก

ฉายาตำรวจปี67

เปิด 10 ฉายาตำรวจ ปี 67

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมฯ เปิด 10 ฉายา ตำรวจ “บิ๊กต่าย” ฉายา “กัปตันเรือกู้” จากภารกิจร้อนในการกอบกู้วิกฤติศรัทธา-ภาพลักษณ์องศ์กร “สารวัตรแจ๊ะ” ได้ฉายา “อย่าเล่นกับระบบ แจ๊ะ”