ตม.สงขลาเข้มสกัดขบวนการลอบขนคนงานเถื่อน

สงขลา 3 ม.ค.- ตม.สงขลา เข้มสกัดกั้นขบวนการลักลอบขนคนงานเถื่อนข้ามประเทศ รับปีใหม่


เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2567 พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ ผกก.ตม.สงขลา เปิดเผยว่า ตามนโยบาย พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ท.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 สั่งกำชับให้ ตม.จว.สงขลา เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบขบวนการขนแรงงานเถื่อนในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา เป็นพื้นที่สำคัญที่ขบวนการดังกล่าวมักจะใช้เส้นทางของ จ.สงขลา เป็นทางผ่าน โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย

โดยเมื่อวันที่ 3 ม.ค.67 เวลาประมาณ 14.00 น. พ.ต.ท.ฐิติวัฒน์ ฤชานุกูล รอง ผกก.ตม.จว.สงขลา, พ.ต.ท.พงษ์ศิริ พิทักษ์ สว.ตม.จว.สงขลา, พ.ต.ท.พัฒนพงษ์ โรจนวานิชกิจ สว.ตม.จว.สงขลา พร้อมชุดสืบสวน ตม.จว.สงขลา ได้สืบทราบว่า ขบวนการขนแรงงานเถื่อนจะนำคนต่างด้าวสัญชาติบังกลาเทศมาส่งภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อส่งต่อไปยัง จ.นราธิวาส จึงได้ทำการเฝ้าสังเกต พบรถเป้าหมายเป็นรถกระบะบรรทุกแบบปิด ขับเข้ามาภายในรีสอร์ต และได้เปิดประตูท้ายรถให้กลุ่มคนในท้ายรถกระบะเข้าไปพักภายในห้องพัก จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเข้าตรวจสอบ พบนายกชฐณณ อายุ 27 ปี เป็นผู้ขับรถกระบะ และพบนายอารียะห์ อายุ 28 ปี, นายรือมิง อายุ 54 ปี และนายอาซีมี อายุ 51 ปี ซึ่งมารอรับกลุ่มคนต่างด้าวดังกล่าว เพื่อนำไปส่งในพื้นที่ จ.นราธิวาส และจากการตรวจสอบกลุ่มคนทั้ง 10 คน ได้แสดงหนังสือเดินทางสัญชาติบังกลาเทศ จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางไม่พบรอยตราประทับขาเข้า


คนต่างด้าวทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ลักลอบหลบหนีเข้ามายังประเทศไทย เพื่อที่จะเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย ส่วนนายกชฐณณ ให้การยอมรับว่า ได้รับการว่าจ้างให้นำคนต่างด้าวไปส่งในพื้นที่ จ.สงขลา โดยได้รับค่าจ้างจำนวน 20,000 บาท ส่วนนายอารียะห์ นายรือมิง และนายอาซีมี ที่มารับช่วงต่อ จะได้รับค่าจ้าง 10,000 บาท หากทำงานสำเร็จก็จะนำค่าจ้างที่ได้มาแบ่งกัน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมนายกชฐณณ นายอารียะห์ นายรือมิง และนายอาซีมี ในข้อหา “ให้ที่พักพิงซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่” และจับกุมคนต่างด้าวทั้ง 10 คน ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมดำเนินการยึดรถยนต์ จำนวน 4 คัน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง เป็นของกลาง

จากการสอบถามชาวบังกลาเทศที่ถูกจับกุม ยอมรับว่า พวกตนต้องการเดินทางไปประเทศมาเลเซีย เพื่อทำงานเป็นแรงงาน โดยเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อคน คนละประมาณ 120,000 บาท ซึ่งจะเดินทางจากบังกลาเทศไปยังประเทศเวียดนาม จากนั้นจะนั่งรถเข้าประเทศกัมพูชา และลักลอบเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ เพื่อเดินทางต่อไปยัง จ.นราธิวาส โดยมีจุดหมายปลายทางที่ประเทศมาเลเซีย

ตม.จว.สงขลา จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนในพื้นที่ จ.สงขลา หากพบเห็นแรงงานต่างด้าวมีพฤติกรรมพิรุธ น่าสงสัย ลักลอบเข้าเมือง หรือลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต สามารถแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลาเข้าตรวจสอบได้ทันที เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหลัง.-412-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

ผู้เสียหาย 70 ราย ร้องสภาทนายฯ ถูกหอพักโหดเอาเปรียบ

ผู้เสียหาย 70 คน เข้าร้องสภาทนายความช่วยเหลือ หลังถูกเจ้าของหอพัก ย่านรังสิต เอาเปรียบ ข่มขู่กักขัง-ยึดทรัพย์ ด้านนายกสภาทนายความ ตั้งคณะทำงานช่วยเหลือทางคดี ทั้งแพ่ง-อาญา เชื่อมีผู้เสียหายเพิ่มอีก

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ใต้

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ แสดงความพร้อมร่วมมือกับไทยเพื่อยุติความรุนแรง พร้อมใช้เวทีอาเซียนสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสมาชิกมากขึ้น