fbpx

“บิ๊กโจ๊ก” สรุปผลช่วยคนไทยจากเล่าก์ก่าย 5 ครั้ง รวม 525 คน

กรุงเทพฯ 27 ธ.ค. – “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” สรุปผลช่วยคนไทยจากเล่าก์ก่าย 5 ครั้ง ช่วยกลับมาได้ 525 คน คัดแยกเหยื่อพบถูกหลอกค้ามนุษย์ 174 คน และมีผู้ต้องหาตามหมายจับ 20 คน ด้านเหยื่อค้ามนุษย์ อ้างถูกนายหน้าค้ามนุษย์หลอกไปทำงาน ก่อนบังคับทำคอลเซ็นเตอร์ ขณะที่การสอบสวน ตำรวจออกหมายจับแก๊งค้ามนุษย์แล้ว 29 หมายจับ จับกุมได้ 21 หมายจับ ส่วนอีก 8 คน หลบหนีไปได้


จากกรณีเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ได้มีเหตุการณ์สู้รบในหลายพื้นที่เขตชายแดนประเทศเมียนมา ทำให้มีประชาชนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก โดยมีคนไทยที่เดินทางไปทำงานอยู่ในเมืองเล่าก์ก่าย ติดอยู่ในพื้นที่พิพาทจำนวนมาก และได้ร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยในการให้ความช่วยเหลือนำกลับประเทศ ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ต่อมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ กองทัพบก กองทัพอากาศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ในการประสานงานกับทางการเมียนมาให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ติดอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อนำกลับมายังประเทศไทยอย่างปลอดภัย ปัจจุบันสามารถช่วยเหลือคนไทยนำกลับมายังประเทศไทยได้แล้ว 4 ครั้ง ประกอบด้วย


  1. เมื่อวันที่ 18 พ.ย.66 ช่วยเหลือคนไทยได้ 41 คน โดยรับตัวผ่านจุดผ่านแดนที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
  2. เมื่อวันที่ 19 พ.ย.66 ช่วยเหลือคนไทยได้ 266 คน โดยนำตัวข้ามชายแดนจากเมืองเล่าก์ก่าย เมียนมา ไปยังเมืองคุนหมิง ประเทศจีน แล้วเดินทางกลับไทยโดยสายการบินพาณิชย์ลงที่สนามบินดอนเมือง
  3. เมื่อวันที่ 24 พ.ย.66 ช่วยเหลือคนไทยได้ 24 คน โดยรับตัวผ่านจุดผ่านแดนที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
  4. เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.66 ช่วยเหลือคนไทยได้ 83 คน โดยนำตัวข้ามชายแดนจากเมืองเล่าก์ก่าย เมียนมา ไปยังเมืองคุนหมิง ประเทศจีน แล้วเดินทางกลับไทยโดยสายการบินพาณิชย์ลงที่สนามบินดอนเมือง
  5. เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.66 ช่วยเหลือคนไทยได้ 111 ราย โดยรับตัวผ่านจุดผ่านแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย

รวม 5 ครั้ง สามารถช่วยเหลือคนไทยได้แล้ว 525 ราย โดยนำเข้าสู่กระบวนการกลไกส่งต่อระดับชาติ (NRM) ที่ค่ายพญาเม็งราย จ.เชียงราย, กองร้อยอาสารักษาดินแดน จ.เชียงราย และศูนย์บูรณาการคัดกรอง หนองจอก กทม.

โดยในจำนวนดังกล่าว มีผู้ต้องหาตามหมายจับ (คดีทั่วไปและคดีคอลเซ็นเตอร์) จำนวน 20 ราย จากนั้นนำเข้ากระบวนการคัดกรอง 504 ราย พบเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จำนวน 174 ราย ในส่วนของกระบวนการคัดแยกนั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการซักถามและคัดกรองตามขั้นตอนกระบวนการคัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด โดยเฉพาะการหลอกลวงคนไทยไปทำงานคอลเซ็นเตอร์

ล่าสุดคนไทยชุดแรกที่ได้รับการช่วยเหลือ จำนวน 41 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการคัดแยกและพบเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จำนวน 20 คน ซึ่งได้ดำเนินการขยายผลดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นขบวนการหลอกคนไทยไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศเมียนมา (เมืองเล่าก์ก่าย) และขออนุมัติหมายจับต่อศาล จำนวน 10 ราย สามารถจับกุมได้แล้ว จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย


  1. น.ส.สุภัสสร (สงวนนามสกุล) เป็นภรรยาหัวหน้าคนจีน ทำหน้าที่คุมคนไทยในคอลเซ็นเตอร์
  2. น.ส.นภาพร (สงวนนามสกุล) เป็นคนควบคุมการเงิน
  3. นายประภาส (สงวนนามสกุล) เป็นล่ามภาษาจีน และสอนคนไทยทำคอลเซ็นเตอร์
  4. นายพงษ์เทพ (สงวนนามสกุล) เป็นล่ามภาษาจีน และทำงานเป็นคนโทรหลอกลวง

ทั้งนี้ ยังมีผู้ต้องหาหลบหนีอีก 6 ราย ซึ่งทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีในความผิดฐานสมคบกันค้ามนุษย์ด้วยการบังคับใช้แรงงาน

ในส่วนของคนไทยชุดล่าสุดที่ได้รับการช่วยเหลือ จำนวน 111 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการคัดแยกและพบเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จำนวน 85 คน โดยได้ดำเนินการขยายผลดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นขบวนการหลอกคนไทยไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศเมียนมา (เมืองแผน) และขออนุมัติหมายจับต่อศาล จำนวน 19 ราย สามารถจับกุมได้แล้ว จำนวน 15 ราย อายัดตัวดำเนินคดี 2 ราย ประกอบด้วย

  1. นายณรงค์ฤทธิ์ (สงวนนามสกุล) เป็นหัวหน้าคุมคนไทยทั้งหมด และเป็นหัวหน้าทีม H
  2. นายอนุรักษ์ (สงวนนามสกุล) เป็นพนักงานโทรหลอก (สายเชือด)
  3. น.ส.ฉัตรชนก (สงวนนามสกุล) เป็นพนักงานโทรหลอก (สายเชือด)
  4. นายพงศกร (สงวนนามสกุล) เป็นพนักงานโทรหลอก (สายเชือด)
  5. นายปยุต (สงวนนามสกุล) เป็นพนักงานโทรหลอก (สายเชือด)
  6. นายธงชัย (สงวนนามสกุล) เป็นพนักงานโทรหลอก (สายเชือด)
  7. นายธณากร (สงวนนามสกุล) เป็นพนักงานโทรหลอก (สายเชือด)
  8. นายณัฐนนท์ (สงวนนามสกุล) เป็นคนควบคุมการทำงานและลงโทษ
  9. นายธนพล (สงวนนามสกุล) เป็นคนควบคุมการทำงานและลงโทษ และเป็นหัวหน้าทีม D
  10. นายอธิรัตน์ (สงวนนามสกุล) เป็นคนควบคุมการทำงานและลงโทษ
  11. นายสิทธิศักดิ์ (สงวนนามสกุล) เป็นคนควบคุมการทำงานและลงโทษ และเป็นหัวหน้าทีม B
  12. นายกฤษดา (สงวนนามสกุล) เป็นคนควบคุมการทำงานและลงโทษ และเป็นหัวหน้าทีม A
  13. นายพงศ์พันธุ์ (สงวนนามสกุล) เป็นคนควบคุมการทำงานและลงโทษ และเป็นหัวหน้าทีม E
  14. นายไตรสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) เป็นหัวหน้าทีม C
  15. น.ส.ตรีวกาล (สงวนนามสกุล) เป็นหัวหน้าทีม G
  16. นายรัชชานนท์ (สงวนนามสกุล) เป็นหัวหน้าทีม F
  17. นายจาอัง (สงวนนามสกุล) เป็นคนควบคุมการเงิน

โดยยังมีผู้ต้องหาหลบหนีอีก 2 ราย ซึ่งทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีในความผิดฐานสมคบกันค้ามนุษย์ด้วยการบังคับใช้แรงงาน

สำหรับขบวนการค้ามนุษย์กลุ่มนี้มีการแบ่งหน้าที่กันทำในองค์กร เช่น หัวหน้าฝ่ายบริหาร ฝ่ายฝึกอบรมในการทำคอลเซ็นเตอร์ ฝ่ายชักชวนคนมาทำงาน ฝ่ายการเงิน ฝ่ายจัดหาล่าม ฝ่ายควบคุมการทำงานและทำโทษ รวมทั้งฝ่ายปฏิบัติการโทรหลอกลวง ซึ่งผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงจากขบวนการนี้ ถูกชักชวนว่าจะให้ไปทำงานเป็นแอดมินเว็บพนันออนไลน์ในเมืองเล่าก์ก่าย เมียนมา แต่เมื่อไปถึงกลับถูกบังคับให้ทำงานคอลเซ็นเตอร์ และชักชวนลงทุน หากไม่ยอมทำงานจะถูกจับเรียกค่าไถ่ จำนวนระหว่าง 2-7 แสนบาท หากไม่มีเงินค่าไถ่ก็จะถูกบังคับทำงานและทำร้ายร่างกายและกักขัง ก่อนที่ผู้เสียหายจะหาทางขอความช่วยเหลือเพื่อกลับประเทศไทย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากที่มีการช่วยเหลือคนไทยกลับมาแล้ว ก็จะนำตัวเข้ารับการดูแลและคัดแยกเหยื่อที่ทางรัฐจัดหาให้ในการดำเนินการตามกลไก NRM ซึ่งที่ผ่านมาได้คัดกรองผู้เสียหายออกมาได้แล้วจำนวนหนึ่ง รวมทั้งมีการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้อีก 20 ราย

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังดำเนินการขยายผลดำเนินคดีกับขบวนการหลอกคนไทยไปบังคับทำงานคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งในกลุ่มแรกสามารถขยายผลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการแล้ว 10 ราย จับกุมแล้ว 4 ราย กลุ่มอื่นสามารถขยายผลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการแล้ว 19 ราย จับกุมและอายัดตัวดำเนินคดีแล้ว 17 ราย ในส่วนของคนไทยที่ได้รับการช่วยเหลือกลับมาทั้งหมด ก็จะมีการขยายผลเช่นนี้ทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีกับคนที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด รวมทั้งช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจากการหลอกลวงดังกล่าว

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ พิจารณาข้อมูลให้ถี่ถ้วน เน้นความปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย หากพบเบาะแสของขบวนการหลอกลวงคนไทยไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ สามารถแจ้งเบาะแสได้ผ่านช่องทางสายด่วน 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด

ฟื้นฟูแม่สาย

เร่งกำจัดขยะดินโคลน-เยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ทุกหน่วยงานต่างระดมสรรพกำลังช่วยชาวบ้านทำความสะอาดบ้านเรือน ผิวจราจร ที่แม่สาย หลังน้ำลดทิ้งขยะ และดินโคลน เอาไว้

รถตกน้ำ

ขนดินไปช่วยอุดน้ำท่วม แต่ดินทรุดรถตกน้ำทับร่างดับ

สลด ลูกจ้างเทศบาลเลิกงานแล้ว แต่ยังมีจิตอาสา ขับรถ 6 ล้อขนดินไปช่วยปิดทางน้ำให้ชาวบ้านน้ำท่วม แต่มีเหตุดินทรุด รถไหลตกน้ำ เจ้าหน้าที่พยายามช่วยดึงร่างออกมา แต่สุดยื้อชีวิต