รอง ผบ.ตร.ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงปีใหม่

กรุงเทพฯ 27 ธ.ค. – รอง ผบ.ตร. เป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม อํานวยความสะดวกด้านจราจร และดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม อํานวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ณ บริเวณหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิตใหม่ โดยระดมพลกำลังตำรวจนครบาลจาก บก.น.2 ทั้ง 11 สน. รวมทั้งจาก บก.จร. บก.สปพ. กำลังสารวัตรทหาร เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก และอาสาสมัคร รวมกว่า 100 นาย ในการปฏิบัติภารกิจบริเวณโดยรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 เพื่อสร้างความปลอดภัยและอุ่นใจแก่ประชาชนที่จะท่องเที่ยวและเดินทางสัญจรกลับภูมิลำเนาในช่วงปีใหม่

จากนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้ตรวจเยี่ยมจุดคัดกรองผู้โดยสาร จุดสุ่มตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติด พร้อมพูดคุยพบปะกับประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา ภายในอาคารสถานีขนส่งหมอชิต 2 โดยระบุว่า เป็นไปตามการเน้นย้ำของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งเรื่องของการจราจร ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และการป้องกันอาชญากรรม ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดมาตรการรองรับการดูแลทั้ง 3 เรื่องนี้อย่างเต็มที่


วันนี้เป็นการปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สารวัตรทหาร และอาสาสมัคร เพื่อปฏิบัติตามมาตรการดูแลทั้ง 3 เรื่อง ซึ่งไม่ใช่แค่ในพื้นที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 แต่เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ทั่วทั้งประเทศ ในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกภาคส่วนก็ได้เข้มงวดในการดูแลมาตรการทั้ง 3 เรื่องกับประชาชนมาโดยตลอด

สำหรับก่อนหน้านี้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับรถโดยสารขนส่งระหว่างจังหวัด จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตหลายครั้ง จึงได้ร่วมมือกับบริษัท ขนส่ง จำกัด ในการจัดจุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และปริมาณสารเสพติดกับคนขับรถทุกคนที่สถานีขนส่ง เพื่อเป็นการป้องกันเบื้องต้นไม่ให้ผู้ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์หรือสารเสพติดมาทำหน้าที่ขับรถ อันเสี่ยงจะเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งถ้าหากคนขับผ่านการตรวจทั้ง 2 จุด และไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติด ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นพลขับได้ รวมทั้งเน้นย้ำไปยังผู้ประกอบการขนส่งเอกชนให้ดำเนินการส่งผลตรวจพลขับมายังด่านของสถานี และให้มีการสับเปลี่ยนคนขับทุกๆ 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันความเหนื่อยล้าและอาจเกิดอุบัติเหตุได้

ส่วนมาตรการตามท้องถนน ทางตำรวจทางหลวงร่วมกับตำรวจท้องที่ต่าง ๆ จะได้มีการจัดด่านเฝ้าระวังตามทาง เพื่อคอยตรวจเช็กคนขับว่ายังมีสภาพที่จะขับต่อไปได้หรือไม่ โดยเฉพาะตามเส้นทางระยะไกล อีกทั้งเน้นย้ำไปยังผู้ประกอบการให้เตรียมความพร้อมทั้งคนขับและยานพาหนะ ต้องคอยเช็กสภาพที่พร้อมให้บริการ และต้องคอยตรวจสอบเส้นทางที่สุ่มเสี่ยง มีการก่อสร้าง หรือเส้นทางที่อาจจะสามารถใช้เลี่ยง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุได้ นอกจากนี้ ในส่วนของการป้องกันอาชญากรรม ได้จัดกำลังสายตรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ ในการเฝ้าระวังความปลอดภัยตามสถานีขนส่งทั่วประเทศ ทั้งการเพิ่มจุดแจ้งเหตุ และการนำชุดสืบสวนคอยสังเกตตรวจตราบุคคลที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงอาจจะก่อเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ เพื่อเพิ่มความอุ่นใจให้แก่ประชาชนที่เดินทางมายังสถานีขนส่ง


ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงประเด็นที่อาจจะมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาค่าโดยสารของบรรดารถขนส่งสาธารณะบริเวณโดยรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวย้ำฝากประชาสัมพันธ์ถึงผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะบริเวณโดยรอบว่า อย่าได้คิดฉวยโอกาสขึ้นราคา โปรดให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎหมาย มิเช่นนั้นเจ้าหน้าที่จะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมายในการดำเนินคดี โดยได้ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ในการตรวจตราการขนส่งสาธารณะบริเวณโดยรอบสถานี อีกทั้งจะเพิ่มจุดรับเรื่องร้องเรียน การคิดค่าโดยสารเกินราคา เพื่อความสะดวกแก่ประชาชน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ อาจจะมีการฉวยโอกาสลักลอบขนส่งสิ่งของผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด ซึ่งเรื่องนี้ได้สั่งการเข้มงวดไปยังด่านความมั่นคงทั่วประเทศและตามชายแดน ในการเฝ้าระวังตรวจตรามิให้มีการฉวยโอกาสขนส่งสิ่งของผิดกฎหมายในช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วย

ในส่วนของการดูแลรักษาความปลอดภัยในคืนนับถอยหลังสู่ปีใหม่ ทางตำรวจมีความพร้อม 100% ในการเฝ้าระวังเหตุและรักษาความปลอดภัยตามพื้นที่จัดงานสำคัญ ทั้งในกรุงเทพฯ และทั่วประเทศ โดยพร้อมที่จะดูแลทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลการข่าวที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษแต่อย่างใด ขณะที่โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจของนครบาล ตอนนี้มีบ้านเข้าร่วมโครงการแล้วประมาณ 200 หลัง และพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับบ้านเรือนที่เข้าร่วมโครงการ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ ทุกภาคส่วนมีความพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยและป้องกันเหตุอาชญากรรม เป็นของขวัญให้แก่พี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งขออวยพรให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยความสวัสดิภาพ ฉลองเทศกาลปีใหม่ด้วยความปลอดภัยและอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย

ด้านนายไกรฤกษ์ อรุณฉาย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหาร ระบุว่า ในปีนี้มาตรการป้องกันอุบัติเหตุในรถขนส่งสาธารณะ หรือรถทัวร์ มีความเข้มมากกว่าปกติ โดยในปีนี้คนขับรถทุกคนต้องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ รวมถึงสารเสพติดทุกชนิดก่อนขึ้นรถ ไม่เว้นกระทั่งรถร่วมบริการที่ลงทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกถึง 600 คัน ซึ่งหากมีปริมาณแอลกอฮอล์แม้เพียงเล็กน้อย ไม่เกินกฎหมายกำหนด ก็ไม่สามารถจับพวงมาลัยได้ ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบกได้ประกาศเรื่องนี้ล่วงหน้าไปแล้ว หากมีคนฝ่าฝืน ก็ต้องถูกดำเนินการตัดสิทธิขึ้นขับรถในวันนี้ทันที ซึ่งนั่นหมายถึงในวันนี้คุณจะขาดรายได้ และอาจส่งผลในระยะยาว เพราะทางบริษัทขนส่งจะส่งหนังสือรายงานเรื่องดังกล่าวไปยังบริษัทรถทัวร์ต้นสังกัด

สำหรับในวันพรุ่งนี้ (28 ธ.ค.) ซึ่งมีปริมาณผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลำเนามากที่สุด โดยมียอดจองตั๋วเดินทางล่วงหน้าแล้ว 70,000 คน ยังไม่รวมผู้โดยสารที่ walk in เข้ามาในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับยอดตัวเลขผู้โดยสารที่เดินทางออกต่างจังหวัดในปีนี้เริ่มคึกคักตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้โดยสารมากถึง 40,000 คน มากกว่าปีที่แล้วเกือบครึ่ง ซึ่งทำให้เห็นว่า ประชาชนมีการวางแผนการเดินทางล่วงหน้าอย่างดี เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาไม่มีรถ.-414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณอีสาน-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณ จ.จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง […]

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]