กรุงเทพฯ 27 ธ.ค. – รอง ผบ.ตร. เป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม อํานวยความสะดวกด้านจราจร และดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม อํานวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ณ บริเวณหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิตใหม่ โดยระดมพลกำลังตำรวจนครบาลจาก บก.น.2 ทั้ง 11 สน. รวมทั้งจาก บก.จร. บก.สปพ. กำลังสารวัตรทหาร เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก และอาสาสมัคร รวมกว่า 100 นาย ในการปฏิบัติภารกิจบริเวณโดยรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 เพื่อสร้างความปลอดภัยและอุ่นใจแก่ประชาชนที่จะท่องเที่ยวและเดินทางสัญจรกลับภูมิลำเนาในช่วงปีใหม่
จากนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้ตรวจเยี่ยมจุดคัดกรองผู้โดยสาร จุดสุ่มตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติด พร้อมพูดคุยพบปะกับประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา ภายในอาคารสถานีขนส่งหมอชิต 2 โดยระบุว่า เป็นไปตามการเน้นย้ำของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งเรื่องของการจราจร ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และการป้องกันอาชญากรรม ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดมาตรการรองรับการดูแลทั้ง 3 เรื่องนี้อย่างเต็มที่
วันนี้เป็นการปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สารวัตรทหาร และอาสาสมัคร เพื่อปฏิบัติตามมาตรการดูแลทั้ง 3 เรื่อง ซึ่งไม่ใช่แค่ในพื้นที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 แต่เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ทั่วทั้งประเทศ ในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกภาคส่วนก็ได้เข้มงวดในการดูแลมาตรการทั้ง 3 เรื่องกับประชาชนมาโดยตลอด
สำหรับก่อนหน้านี้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับรถโดยสารขนส่งระหว่างจังหวัด จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตหลายครั้ง จึงได้ร่วมมือกับบริษัท ขนส่ง จำกัด ในการจัดจุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และปริมาณสารเสพติดกับคนขับรถทุกคนที่สถานีขนส่ง เพื่อเป็นการป้องกันเบื้องต้นไม่ให้ผู้ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์หรือสารเสพติดมาทำหน้าที่ขับรถ อันเสี่ยงจะเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งถ้าหากคนขับผ่านการตรวจทั้ง 2 จุด และไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติด ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นพลขับได้ รวมทั้งเน้นย้ำไปยังผู้ประกอบการขนส่งเอกชนให้ดำเนินการส่งผลตรวจพลขับมายังด่านของสถานี และให้มีการสับเปลี่ยนคนขับทุกๆ 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันความเหนื่อยล้าและอาจเกิดอุบัติเหตุได้
ส่วนมาตรการตามท้องถนน ทางตำรวจทางหลวงร่วมกับตำรวจท้องที่ต่าง ๆ จะได้มีการจัดด่านเฝ้าระวังตามทาง เพื่อคอยตรวจเช็กคนขับว่ายังมีสภาพที่จะขับต่อไปได้หรือไม่ โดยเฉพาะตามเส้นทางระยะไกล อีกทั้งเน้นย้ำไปยังผู้ประกอบการให้เตรียมความพร้อมทั้งคนขับและยานพาหนะ ต้องคอยเช็กสภาพที่พร้อมให้บริการ และต้องคอยตรวจสอบเส้นทางที่สุ่มเสี่ยง มีการก่อสร้าง หรือเส้นทางที่อาจจะสามารถใช้เลี่ยง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุได้ นอกจากนี้ ในส่วนของการป้องกันอาชญากรรม ได้จัดกำลังสายตรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ ในการเฝ้าระวังความปลอดภัยตามสถานีขนส่งทั่วประเทศ ทั้งการเพิ่มจุดแจ้งเหตุ และการนำชุดสืบสวนคอยสังเกตตรวจตราบุคคลที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงอาจจะก่อเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ เพื่อเพิ่มความอุ่นใจให้แก่ประชาชนที่เดินทางมายังสถานีขนส่ง
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงประเด็นที่อาจจะมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาค่าโดยสารของบรรดารถขนส่งสาธารณะบริเวณโดยรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวย้ำฝากประชาสัมพันธ์ถึงผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะบริเวณโดยรอบว่า อย่าได้คิดฉวยโอกาสขึ้นราคา โปรดให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎหมาย มิเช่นนั้นเจ้าหน้าที่จะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมายในการดำเนินคดี โดยได้ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ในการตรวจตราการขนส่งสาธารณะบริเวณโดยรอบสถานี อีกทั้งจะเพิ่มจุดรับเรื่องร้องเรียน การคิดค่าโดยสารเกินราคา เพื่อความสะดวกแก่ประชาชน
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ อาจจะมีการฉวยโอกาสลักลอบขนส่งสิ่งของผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด ซึ่งเรื่องนี้ได้สั่งการเข้มงวดไปยังด่านความมั่นคงทั่วประเทศและตามชายแดน ในการเฝ้าระวังตรวจตรามิให้มีการฉวยโอกาสขนส่งสิ่งของผิดกฎหมายในช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วย
ในส่วนของการดูแลรักษาความปลอดภัยในคืนนับถอยหลังสู่ปีใหม่ ทางตำรวจมีความพร้อม 100% ในการเฝ้าระวังเหตุและรักษาความปลอดภัยตามพื้นที่จัดงานสำคัญ ทั้งในกรุงเทพฯ และทั่วประเทศ โดยพร้อมที่จะดูแลทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลการข่าวที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษแต่อย่างใด ขณะที่โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจของนครบาล ตอนนี้มีบ้านเข้าร่วมโครงการแล้วประมาณ 200 หลัง และพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับบ้านเรือนที่เข้าร่วมโครงการ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ ทุกภาคส่วนมีความพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยและป้องกันเหตุอาชญากรรม เป็นของขวัญให้แก่พี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งขออวยพรให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยความสวัสดิภาพ ฉลองเทศกาลปีใหม่ด้วยความปลอดภัยและอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย
ด้านนายไกรฤกษ์ อรุณฉาย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหาร ระบุว่า ในปีนี้มาตรการป้องกันอุบัติเหตุในรถขนส่งสาธารณะ หรือรถทัวร์ มีความเข้มมากกว่าปกติ โดยในปีนี้คนขับรถทุกคนต้องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ รวมถึงสารเสพติดทุกชนิดก่อนขึ้นรถ ไม่เว้นกระทั่งรถร่วมบริการที่ลงทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกถึง 600 คัน ซึ่งหากมีปริมาณแอลกอฮอล์แม้เพียงเล็กน้อย ไม่เกินกฎหมายกำหนด ก็ไม่สามารถจับพวงมาลัยได้ ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบกได้ประกาศเรื่องนี้ล่วงหน้าไปแล้ว หากมีคนฝ่าฝืน ก็ต้องถูกดำเนินการตัดสิทธิขึ้นขับรถในวันนี้ทันที ซึ่งนั่นหมายถึงในวันนี้คุณจะขาดรายได้ และอาจส่งผลในระยะยาว เพราะทางบริษัทขนส่งจะส่งหนังสือรายงานเรื่องดังกล่าวไปยังบริษัทรถทัวร์ต้นสังกัด
สำหรับในวันพรุ่งนี้ (28 ธ.ค.) ซึ่งมีปริมาณผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลำเนามากที่สุด โดยมียอดจองตั๋วเดินทางล่วงหน้าแล้ว 70,000 คน ยังไม่รวมผู้โดยสารที่ walk in เข้ามาในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับยอดตัวเลขผู้โดยสารที่เดินทางออกต่างจังหวัดในปีนี้เริ่มคึกคักตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้โดยสารมากถึง 40,000 คน มากกว่าปีที่แล้วเกือบครึ่ง ซึ่งทำให้เห็นว่า ประชาชนมีการวางแผนการเดินทางล่วงหน้าอย่างดี เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาไม่มีรถ.-414-สำนักข่าวไทย