รอง ผบ.ตร.ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงปีใหม่

กรุงเทพฯ 27 ธ.ค. – รอง ผบ.ตร. เป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม อํานวยความสะดวกด้านจราจร และดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม อํานวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ณ บริเวณหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิตใหม่ โดยระดมพลกำลังตำรวจนครบาลจาก บก.น.2 ทั้ง 11 สน. รวมทั้งจาก บก.จร. บก.สปพ. กำลังสารวัตรทหาร เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก และอาสาสมัคร รวมกว่า 100 นาย ในการปฏิบัติภารกิจบริเวณโดยรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 เพื่อสร้างความปลอดภัยและอุ่นใจแก่ประชาชนที่จะท่องเที่ยวและเดินทางสัญจรกลับภูมิลำเนาในช่วงปีใหม่

จากนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้ตรวจเยี่ยมจุดคัดกรองผู้โดยสาร จุดสุ่มตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติด พร้อมพูดคุยพบปะกับประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา ภายในอาคารสถานีขนส่งหมอชิต 2 โดยระบุว่า เป็นไปตามการเน้นย้ำของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งเรื่องของการจราจร ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และการป้องกันอาชญากรรม ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดมาตรการรองรับการดูแลทั้ง 3 เรื่องนี้อย่างเต็มที่


วันนี้เป็นการปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สารวัตรทหาร และอาสาสมัคร เพื่อปฏิบัติตามมาตรการดูแลทั้ง 3 เรื่อง ซึ่งไม่ใช่แค่ในพื้นที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 แต่เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ทั่วทั้งประเทศ ในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกภาคส่วนก็ได้เข้มงวดในการดูแลมาตรการทั้ง 3 เรื่องกับประชาชนมาโดยตลอด

สำหรับก่อนหน้านี้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับรถโดยสารขนส่งระหว่างจังหวัด จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตหลายครั้ง จึงได้ร่วมมือกับบริษัท ขนส่ง จำกัด ในการจัดจุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และปริมาณสารเสพติดกับคนขับรถทุกคนที่สถานีขนส่ง เพื่อเป็นการป้องกันเบื้องต้นไม่ให้ผู้ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์หรือสารเสพติดมาทำหน้าที่ขับรถ อันเสี่ยงจะเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งถ้าหากคนขับผ่านการตรวจทั้ง 2 จุด และไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติด ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นพลขับได้ รวมทั้งเน้นย้ำไปยังผู้ประกอบการขนส่งเอกชนให้ดำเนินการส่งผลตรวจพลขับมายังด่านของสถานี และให้มีการสับเปลี่ยนคนขับทุกๆ 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันความเหนื่อยล้าและอาจเกิดอุบัติเหตุได้

ส่วนมาตรการตามท้องถนน ทางตำรวจทางหลวงร่วมกับตำรวจท้องที่ต่าง ๆ จะได้มีการจัดด่านเฝ้าระวังตามทาง เพื่อคอยตรวจเช็กคนขับว่ายังมีสภาพที่จะขับต่อไปได้หรือไม่ โดยเฉพาะตามเส้นทางระยะไกล อีกทั้งเน้นย้ำไปยังผู้ประกอบการให้เตรียมความพร้อมทั้งคนขับและยานพาหนะ ต้องคอยเช็กสภาพที่พร้อมให้บริการ และต้องคอยตรวจสอบเส้นทางที่สุ่มเสี่ยง มีการก่อสร้าง หรือเส้นทางที่อาจจะสามารถใช้เลี่ยง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุได้ นอกจากนี้ ในส่วนของการป้องกันอาชญากรรม ได้จัดกำลังสายตรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ ในการเฝ้าระวังความปลอดภัยตามสถานีขนส่งทั่วประเทศ ทั้งการเพิ่มจุดแจ้งเหตุ และการนำชุดสืบสวนคอยสังเกตตรวจตราบุคคลที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงอาจจะก่อเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ เพื่อเพิ่มความอุ่นใจให้แก่ประชาชนที่เดินทางมายังสถานีขนส่ง


ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงประเด็นที่อาจจะมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาค่าโดยสารของบรรดารถขนส่งสาธารณะบริเวณโดยรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวย้ำฝากประชาสัมพันธ์ถึงผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะบริเวณโดยรอบว่า อย่าได้คิดฉวยโอกาสขึ้นราคา โปรดให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎหมาย มิเช่นนั้นเจ้าหน้าที่จะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมายในการดำเนินคดี โดยได้ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ในการตรวจตราการขนส่งสาธารณะบริเวณโดยรอบสถานี อีกทั้งจะเพิ่มจุดรับเรื่องร้องเรียน การคิดค่าโดยสารเกินราคา เพื่อความสะดวกแก่ประชาชน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ อาจจะมีการฉวยโอกาสลักลอบขนส่งสิ่งของผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด ซึ่งเรื่องนี้ได้สั่งการเข้มงวดไปยังด่านความมั่นคงทั่วประเทศและตามชายแดน ในการเฝ้าระวังตรวจตรามิให้มีการฉวยโอกาสขนส่งสิ่งของผิดกฎหมายในช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วย

ในส่วนของการดูแลรักษาความปลอดภัยในคืนนับถอยหลังสู่ปีใหม่ ทางตำรวจมีความพร้อม 100% ในการเฝ้าระวังเหตุและรักษาความปลอดภัยตามพื้นที่จัดงานสำคัญ ทั้งในกรุงเทพฯ และทั่วประเทศ โดยพร้อมที่จะดูแลทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลการข่าวที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษแต่อย่างใด ขณะที่โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจของนครบาล ตอนนี้มีบ้านเข้าร่วมโครงการแล้วประมาณ 200 หลัง และพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับบ้านเรือนที่เข้าร่วมโครงการ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ ทุกภาคส่วนมีความพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยและป้องกันเหตุอาชญากรรม เป็นของขวัญให้แก่พี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งขออวยพรให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยความสวัสดิภาพ ฉลองเทศกาลปีใหม่ด้วยความปลอดภัยและอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย

ด้านนายไกรฤกษ์ อรุณฉาย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหาร ระบุว่า ในปีนี้มาตรการป้องกันอุบัติเหตุในรถขนส่งสาธารณะ หรือรถทัวร์ มีความเข้มมากกว่าปกติ โดยในปีนี้คนขับรถทุกคนต้องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ รวมถึงสารเสพติดทุกชนิดก่อนขึ้นรถ ไม่เว้นกระทั่งรถร่วมบริการที่ลงทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกถึง 600 คัน ซึ่งหากมีปริมาณแอลกอฮอล์แม้เพียงเล็กน้อย ไม่เกินกฎหมายกำหนด ก็ไม่สามารถจับพวงมาลัยได้ ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบกได้ประกาศเรื่องนี้ล่วงหน้าไปแล้ว หากมีคนฝ่าฝืน ก็ต้องถูกดำเนินการตัดสิทธิขึ้นขับรถในวันนี้ทันที ซึ่งนั่นหมายถึงในวันนี้คุณจะขาดรายได้ และอาจส่งผลในระยะยาว เพราะทางบริษัทขนส่งจะส่งหนังสือรายงานเรื่องดังกล่าวไปยังบริษัทรถทัวร์ต้นสังกัด

สำหรับในวันพรุ่งนี้ (28 ธ.ค.) ซึ่งมีปริมาณผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลำเนามากที่สุด โดยมียอดจองตั๋วเดินทางล่วงหน้าแล้ว 70,000 คน ยังไม่รวมผู้โดยสารที่ walk in เข้ามาในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับยอดตัวเลขผู้โดยสารที่เดินทางออกต่างจังหวัดในปีนี้เริ่มคึกคักตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้โดยสารมากถึง 40,000 คน มากกว่าปีที่แล้วเกือบครึ่ง ซึ่งทำให้เห็นว่า ประชาชนมีการวางแผนการเดินทางล่วงหน้าอย่างดี เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาไม่มีรถ.-414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

เชียงใหม่เตรียมรับมือพายุบัวลอย

เชียงใหม่ 28 ก.ย.- เชียงใหม่เร่งระบายน้ำปิงต่อเนื่อง เตรียมรับมือพายุบัวลอย จ่อขึ้นฝั่งเวียดนาม พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ขณะที่ชาวบ้านจุดเสี่ยงริมแม่น้ำปิง แห่ขนกระสอบทรายมากั้น ป้องกันน้ำทะลักเข้าบ้าน เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่ทราบข่าวพายุบัวลอย ประชาชนที่อยู่ในจุดเสี่ยงริมแม่น้ำปิง จ.เชียงใหม่ พากันนำรถยนต์ ไปขนกระสอบทรายบริเวณสวนสาธารณะรถไฟ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นกระสอบทรายที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นำมาแจกให้ฟรี กว่า 25,000 ใบ โดยมีทหารจิตอาสา จากค่ายกาวิละ ไปช่วยตักทรายใส่กระสอบ แต่ประชาชนมีจำนวนมาก บางรายก็ตักทรายกันเอง เอาใส่กระสอบ และทยอยขนขึ้นใส่รถอย่างเร่งรีบ เพื่อนำกระสอบทรายไปกั้น ป้องกันน้ำจะทะลักเข้าบ้าน ขณะที่เวลา 24.00 น. ระดับน้ำ P1 เชิงสะพานนวรัฐ อยู่ที่ความสูง 3.92 เมตร แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยทางจังหวัดยืนยันว่าตลิ่งสามารถป้องกันได้ถึง 4.20 เมตร จะมีเพียงพื้นที่ลุ่มต่ำเท่านั้น ที่อาจได้รับผลกระทบ ล่าสุดเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำในแม่น้ำปิงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เขตพื้นที่เมืองเชียงใหม่ จนถึงประตูระบายน้ำแม่สอย ที่เป็นตัวสุดท้ายของลำน้ำปิง โดยที่ประตูระบายน้ำท่าวังตาล ได้มีการยกบานพ้นน้ำทั้ง 6 […]

ครึ่งวันเช้าเรียบร้อยดี เลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ คนทยอยใช้สิทธิ

ศรีสะเกษ 28 ก.ย.- ครึ่งวันเช้าเรียบร้อยดี ประชาชนทยอยใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 คึกคัก เผยแม้กังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แต่อยากออกมาใช้สิทธิในฐานะคนไทย ด้านเลขาฯ กกต. ระบุตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเวลาเปิดหีบ ยังไม่พบสิ่งบ่งชี้เหตุฉุกเฉิน -สำนักข่าวไทย

เร่งเทปูนใต้อาคาร สน.สามเสน “พิพัฒน์” คาดคืนผิวจราจร 8 ต.ค.

28 ก.ย.- จนท.เร่งเทปูนทำฐานรากใต้อาคาร สน.สามเสน ให้สูงถึงระดับเสาเข็มที่ขาดไป และจะใช้เครนขนาดใหญ่ยกวัสดุสิ่งของในหลุมขึ้นมา ก่อนถมดิน-หินคลุก เพื่อคืนพื้นผิวถนน ด้าน “พิพัฒน์” ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้า หวังทุกอย่างเป็นตามเป้าหมาย คืนผิวจราจรได้ 8 ต.ค.นี้ -สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ฟาดกัมพูชากลางเวที UNGA รับบทเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า

นิวยอร์ก 28 ก.ย.-“สีหศักดิ์” ฟาดกลับกัมพูชา กลางเวที UNGA แสร้งทำตัวเป็นเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า ละเมิดข้อตกลงไม่หยุดหย่อน บิดเบือน-ล้อเลียนความจริง ชี้ ทหารที่เสียขา เด็ก และปชช.ผู้บริสุทธิ์ คือเหยื่อที่แท้จริง ลั่น! บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว เป็นอธิปไตยไทยแต่กัมพูชารุกล้ำ ย้ำไทยยืนหยัดเพื่อสันติภาพมาโดยตลอด ถามกลับกัมพูชาจะเลือกเส้นทางเผชิญหน้าหรือเส้นทางสันติภาพ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก โดยนายสีหศักดิ์ ได้ย้ำจุดยืนของประเทศไทยต่อสถานการณ์ระหว่างประเทศ และภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยพร้อมร่วมมือกับนานาประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศเพื่อสร้างสันติภาพ ความมั่นคง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน และย้ำความสำคัญของกฎบัตรสหประชาชาติ พร้อมเสนอว่า ควรมีการพัฒนาระบบสหประชาชาติให้มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมต่อประเทศกำลังพัฒนาด้วย นายสีหศักดิ์ ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยสรุปและแปลอย่างไม่เป็นทางการได้ว่า สถานการณ์ปัจจุบันกับกัมพูชา ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ และไม่เป็นผลประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของ 2 ประเทศ เชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด ไม่อาจแยกจากกันได้ เพราะเราล้วนเป็นส่วนหนึ่งของ ”ครอบครัวอาเซียน” […]